สพฐ. ยกระดับมาตรการเหตุนักเรียนทะเลาะวิวาท ห่วงเด็กใช้สื่อกระแสรอง ทั้งไลน์ เฟซบุ๊ก เป็นพื้นที่จุดฉนวนนัดก่อเหตุวิวาท เร่งหามาตรการล้อมคอกก่อนบานปลาย พร้อมกำหนดให้เดือนสิงหาคม เป็นเดือนแห่งการเยี่ยมบ้านเด็กกลุ่มเสี่ยงจนถึง 2 ทุ่ม เป็นเวลา 2 สัปดาห์
วันนี้ (4 ส.ค.) นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้จัดประชุมแนวทางการเฝ้าระวังเหตุนักเรียนทะเลาะวิวาทในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่ง สพฐ. ได้กำชับและให้ความสำคัญมาตลอดและที่ผ่านมา เคยได้กำหนดมาตรการเฝ้าระวังเหตุนักเรียนทะเลาะวิวาทมาแล้ว แต่การประชุมครั้งนี้ สพฐ. ต้องการยกระดับการปฏิบัติงานในเรื่องนี้ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม โดยจะยกระดับมาตรการป้องกัน และแผนการออกตรวจของพนักงานเจ้าหน้าที่ส่งเสริมความประพฤตินักเรียนและนักศึกษาในส่วนของ สพฐ. อย่างเข้มข้น นอกจากนี้ จะจัดให้มีเจ้าภาพหลักของทุกเขตพื้นที่การศึกษาเพื่อดำเนินการตามมาตรการยุติความขัดแย้งในสื่อกระแสรอง โดยการนำครูและนักเรียนแกนนำมาศึกษาวิธีการปฏิบัติที่โรงเรียนลาดปลาเค้าพิทยาคม เนื่องจากเป็นโรงเรียนตัวอย่างในการแก้ไขปัญหาเด็กนักเรียนทะเลาะวิวาทได้สำเร็จ
“สิ่งที่ สพฐ. เป็นห่วงมากในขณะนี้ คือ เด็กใช้สื่อกระแสรองอย่างโซเชียลมีเดีย ทั้งเฟซบุ๊ก ไลน์ ในการสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นระหว่างสถาบัน เช่น ใช้เป็นพื้นที่นัดหมายเพื่อไปร่วมกันก่อเหตุทะเลาะวิวาท หรือแม้แต่ตัวอย่างของโรงเรียนลาดปลาเค้าพิทยาคม ก็เคยพบว่า เด็กนักเรียนใช้สมุดของโรงเรียนที่เป็นคู่อริมาเหยียบด้วยเท้าแล้วถ่ายรูป โพสต์ขึ้นเฟซบุ๊ก ซึ่งทำให้เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรง โดยสิ่งเหล่านี้ สพฐ. เอง จะต้องหาแนวทางที่เหมาะสมที่จะแก้ไขปัญหาตามสถานการณ์ นอกจากนี้ ยังพบข้อมูลที่น่าตกใจคือเด็กนักเรียนโรงเรียนมัธยมมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลหรือองค์ความรู้ที่จะนำไปใช้ในการก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับเด็กอาชีวะ ดังนั้น เราจึงต้องปรับเปลี่ยนพลังที่เด็กจะแสดงออกไม่เหมาะสมมาเป็นพลังบวกให้ได้” นายกมล กล่าว
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ สพฐ. จะมีมาตรการเยี่ยมบ้านนักเรียนกลุ่มเสี่ยงเป็นกรณีพิเศษในช่วงเดือนสิงหาคม 2557 โดยจะยกให้เดือนสิงหาคมเป็นเดือนแห่งการเยี่ยมบ้านนักเรียนที่เสี่ยงต่อการทะเลาะวิวาทเป็นกรณีพิเศษ โดยให้ออกปฏิบัติจนถึงเวลา 20.00 น. เป็นเวลาใน 2 สัปดาห์ รวมถึงการขยายผลอบรมนักเรียนแกนนำ หรือยุวชนตำรวจ ในการดำเนินการเพื่อคุ้มครองเพื่อนให้เฝ้าระวังและรายงานการเตรียมการก่อเหตุความรุนแรงก่อนเกิดเหตุ เพื่อระงับเหตุได้ทัน ขณะเดียวกันให้โรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 2, 3, 4 และ 6 ได้พัฒนาทางเลือกในการคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรง ทั้งนี้ ขอให้ประสานการปฎิบัติและรายงาน สพฐ. อย่างใกล้ชิด
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (4 ส.ค.) นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้จัดประชุมแนวทางการเฝ้าระวังเหตุนักเรียนทะเลาะวิวาทในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่ง สพฐ. ได้กำชับและให้ความสำคัญมาตลอดและที่ผ่านมา เคยได้กำหนดมาตรการเฝ้าระวังเหตุนักเรียนทะเลาะวิวาทมาแล้ว แต่การประชุมครั้งนี้ สพฐ. ต้องการยกระดับการปฏิบัติงานในเรื่องนี้ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม โดยจะยกระดับมาตรการป้องกัน และแผนการออกตรวจของพนักงานเจ้าหน้าที่ส่งเสริมความประพฤตินักเรียนและนักศึกษาในส่วนของ สพฐ. อย่างเข้มข้น นอกจากนี้ จะจัดให้มีเจ้าภาพหลักของทุกเขตพื้นที่การศึกษาเพื่อดำเนินการตามมาตรการยุติความขัดแย้งในสื่อกระแสรอง โดยการนำครูและนักเรียนแกนนำมาศึกษาวิธีการปฏิบัติที่โรงเรียนลาดปลาเค้าพิทยาคม เนื่องจากเป็นโรงเรียนตัวอย่างในการแก้ไขปัญหาเด็กนักเรียนทะเลาะวิวาทได้สำเร็จ
“สิ่งที่ สพฐ. เป็นห่วงมากในขณะนี้ คือ เด็กใช้สื่อกระแสรองอย่างโซเชียลมีเดีย ทั้งเฟซบุ๊ก ไลน์ ในการสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นระหว่างสถาบัน เช่น ใช้เป็นพื้นที่นัดหมายเพื่อไปร่วมกันก่อเหตุทะเลาะวิวาท หรือแม้แต่ตัวอย่างของโรงเรียนลาดปลาเค้าพิทยาคม ก็เคยพบว่า เด็กนักเรียนใช้สมุดของโรงเรียนที่เป็นคู่อริมาเหยียบด้วยเท้าแล้วถ่ายรูป โพสต์ขึ้นเฟซบุ๊ก ซึ่งทำให้เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรง โดยสิ่งเหล่านี้ สพฐ. เอง จะต้องหาแนวทางที่เหมาะสมที่จะแก้ไขปัญหาตามสถานการณ์ นอกจากนี้ ยังพบข้อมูลที่น่าตกใจคือเด็กนักเรียนโรงเรียนมัธยมมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลหรือองค์ความรู้ที่จะนำไปใช้ในการก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับเด็กอาชีวะ ดังนั้น เราจึงต้องปรับเปลี่ยนพลังที่เด็กจะแสดงออกไม่เหมาะสมมาเป็นพลังบวกให้ได้” นายกมล กล่าว
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ สพฐ. จะมีมาตรการเยี่ยมบ้านนักเรียนกลุ่มเสี่ยงเป็นกรณีพิเศษในช่วงเดือนสิงหาคม 2557 โดยจะยกให้เดือนสิงหาคมเป็นเดือนแห่งการเยี่ยมบ้านนักเรียนที่เสี่ยงต่อการทะเลาะวิวาทเป็นกรณีพิเศษ โดยให้ออกปฏิบัติจนถึงเวลา 20.00 น. เป็นเวลาใน 2 สัปดาห์ รวมถึงการขยายผลอบรมนักเรียนแกนนำ หรือยุวชนตำรวจ ในการดำเนินการเพื่อคุ้มครองเพื่อนให้เฝ้าระวังและรายงานการเตรียมการก่อเหตุความรุนแรงก่อนเกิดเหตุ เพื่อระงับเหตุได้ทัน ขณะเดียวกันให้โรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 2, 3, 4 และ 6 ได้พัฒนาทางเลือกในการคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรง ทั้งนี้ ขอให้ประสานการปฎิบัติและรายงาน สพฐ. อย่างใกล้ชิด
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่