xs
xsm
sm
md
lg

กต.ชี้สถานการณ์ “ลิเบีย” น่าห่วง สั่งระงับเดินทาง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เผยสถานการณ์ความไม่สงบในลิเบีย - อิสราเอล ขณะนี้ลิเบียน่าห่วงมากสุด สั่งระงับคนไทย - แรงงานไทย เดินทางไปทำงาน ยันยังไม่ถึงขั้นต้องอพยพ แต่เตรียมแผนพร้อมอพยพ พร้อมประเมินสถานการณ์ต่อเนื่อง ด้านอธิบดี กกจ. เผยทูตอิสราเอลยืนยันสถานการณ์ยังปลอดภัย ดูแลแรงงานไทยเท่ากับพลเมืองอิสราเอล

วันนี้ (18 ก.ค.) ที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ นายประสิทธิพร เวทย์ประสิทธิ์ รองอธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วย นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กระทรวงแรงงาน ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังประชุมหารือการเตรียมความพร้อมอพยพและช่วยเหลือคนไทยใน 5 ประเทศ ทั้ง ลิเบีย อิสราเอล อิรัก เคนยา และ ยูเครน ซึ่งมีสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศ

โดย นายประสิทธิพร กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ประเมินสถานการณ์ความรุนแรงในต่างประเทศโดยแบ่ง 5 ระดับ คือ สีขาวเท่ากับสถานการณ์ปกติ สีเขียวเท่ากับมีเหตุการณ์แต่ไม่รุนแรง สีเหลืองเท่ากับมีความรุนแรงเล็กน้อย พื้นที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างจำกัด และไม่ส่งผลกระทบต่อผู้อยู่อาศัยในประเทศนั้น สีส้มเท่ากับเหตุการณ์รุนแรงมากและพื้นที่ขยาย และสีแดงมีเหตุการณ์รุนแรงมากที่สุดและส่งผลต่อความปลอดภัยผู้อยู่อาศัยควรอพยพ โดยจากการประเมินสถานการณ์ทั้ง 5 ประเทศข้างต้นในเวลานี้ยังไม่รุนแรงมากนัก จึงยังไม่มีการอพยพคนไทยออกจาก 4 ประเทศนี้

นายประสิทธิพร กล่าวอีกว่า ประเทศที่มีสถานการณ์อยู่ในระดับสีเหลืองมีแนวโน้มว่าต่อไปสถานการณ์จะรุนแรงมากขึ้น และต้องเตรียมพร้อมอพยพแรงงานไทยไว้ คือ ลิเบีย ซึ่งขณะนี้สถานทูตไทยในลิเบียได้ขอให้แจ้งเตือนให้คนไทยหลีกเลี่ยงการเดินทางไปลิเบียในทุกกรณี ส่วนแรงงานไทยทั้งรายเก่าและรายใหม่ยืนยันให้ระงับการที่จะเข้าไปทำงานในลิเบีย และประเทศที่มีสถานการณ์น่าห่วง รองลงมาเป็นอิสราเอลมีสถานการณ์รุนแรงแต่ยังไม่กระทบต่อความปลอดภัยของคนที่อยู่ในอิสราเอล ส่วนสถานการณ์ในอิรัก เคนยา และยูเครน ยังไม่ส่งผลกระทบต่อคนไทย อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศ และสถานทูตแต่ละประเทศได้ติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด ทั้งนี้ ในส่วนของอิสราเอลนั้นสถานทูตไทยในอิสราเอลได้ประกาศให้คนไทยและแรงงานไทยติดตามข่าวสารจากรัฐบาลอิสราเอล และประกาศจากสถานทูตไทยในอิสราเอลอย่างใกล้ชิด หากได้ยินสัญญาณเตือนภัยจะมีจรวดยิงเข้ามาจะมีเวลา 15 - 45 วินาทีเข้าหลุมหลบภัย และสถานทูตได้ให้หมายเลขโทรศัพท์เพื่อติดต่อสถานกงสุล สถานทูตไทย และผู้ช่วยทูตฝ่ายแรงงานได้

นายประสิทธิพร กล่าวด้วยว่า ส่วนแผนการอพยพคนไทยหากเกิดเหตุรุนแรงนั้นกระทรวงการต่างประเทศมีการเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา โดยมีการประสานกับหน่วยงานราชการของไทยในแต่ละประเทศ ซึ่งสถานทูตไทยมีรายชื่อคนไทยและแรงงานไทยสามารถติดต่อได้ ทั้งตัวบุคคลหัวหน้าแรงงานไทยแต่ละชุดและให้หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ เครื่องมือสื่อสาร จุดนัดหมาย และสถานที่หลบภัย ส่วนเส้นทางอพยพของลิเบียนั้น สามารถใช้เส้นทางบกทางชายแดนตูนิเซีย ทางเรือจากกรุงตริโปลีไปยังตูนิเซีย ส่วนอิสราเอลอพยพทางบกไปเส้นทางจอร์แดน ทางเรือไปทางกรีซ หรือไซปรัส และทางอากาศประเทศใกล้เคียงจะอพยพแรงงานไทยไปยังประเทศใกล้เคียงที่มีความปลอดภัยก่อนแล้วค่อยพามาไทย และทางอากาศนั้นทั้งสองประเทศจะต้องโดยเครื่องบินเช่าเหมาลำ ซึ่งจะต้องของบดำเนินการจากรัฐบาล ทั้งนี้ หากญาติพี่น้องคนไทยสอบถามสถานการณ์ในแต่ละประเทศติดต่อได้ที่กรมการกงสุล 0-2575-1047

ด้านนายสุเมธ กล่าวว่า กกจ. ได้ประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศอย่างใกล้ชิด โดยวางระบบสื่อสารตรงแบบจุดเดียวเพื่อลดขั้นตอนการประสานและดำเนินการร่วมกันได้ และเตรียมพร้อมอพยพแรงงานไทยในทั้ง 4 ประเทศหากเกิดเหตุรุนแรง ซึ่งขณะนี้ในอิสราเอลมีแรงงานไทยทำงานอยู่ประมาณ 27,000 คน ส่วนใหญ่ทำงานด้านการเกษตร ลิเบียมีแรงงานไทย 1,500 คน อิรัก 40 คน เคนยา 30 คน ซึ่งไปทำงานในอุตสาหกรรมปิโตรเลียมและก่อสร้าง รวมทั้งยูเครน 200 คน

ทั้งนี้ ขณะนี้ กกจ. ได้ทำหนังสือแจ้งญาติพี่น้องแรงงานไทยในลิเบียและอิสราเอลแล้วว่า แรงงานไทยยังปลอดภัย ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไม่สงบ นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 17 ก.ค. ที่ผ่านมา นางโอลิท ซานิ อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายกงสุลสถานทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ได้ยืนยันสถานการณ์ไม่น่าห่วงสำหรับแรงงานไทย และอิสราเอลจะดูแลแรงงานไทยเท่าเทียมกับพลเมืองอิสราเอล ทั้งนี้ ญาติพี่น้องแรงงานไทยสอบถามได้ที่สายด่วน กกจ. โทร.1694
 

ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่




กำลังโหลดความคิดเห็น