ปลัด ศธ. ชี้ถึงเวลาต้องปรับกฎหมายคดีข่มขืน หรือฆ่าข่มขืน ให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคม ที่แนวโน้มเหตุรุนแรงจะมีสูงมากขึ้น ระบุจะย้ำให้สถานศึกษาสอดแทรกวิธีการเอาตัวรอดไม่เกิดเหตุไม่คาดฝันแก่นักเรียน
นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงกรณีน้องแก้ม หรือ ด.ญ.กชกร พิทักษ์จำนงค์ อายุ 13 ปี ซึ่งเดินทางมาด้วยขบวนรถไฟสาย 174 ขบวนสุราษฎร์ธานี - กรุงเทพฯ หายสาบสูญ และล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม นายวันชัย แสงขาว อายุ 22 ปี ลูกจ้างเฉพาะงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งรับสารภาพว่าก่อเหตุฆ่าข่มขืน และโยนน้องแก้มทิ้งออกจากหน้าต่างรถไฟ ซึ่งต่อมาพบศพห่างจากสถานีรถไฟเขาเต่า ประมาณ 4 กิโลเมตร ว่า ส่วนตัวเห็นว่าควรจะต้องมีการเพิ่มหรือแก้กฎหมายเพิ่มบทลงโทษในคดีข่มขืน หรือการฆ่าข่มขืนให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคม ซึ่งปัจจุบันแนวโน้มความรุนแรงจะมีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งหากไม่ปรับกฎหมายอาจจะไม่ทันกับคนที่ก่อเหตุที่เมื่อพ้นคุกสุดท้ายก็ออกมากระทำผิดซ้ำอีก อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ ศธ. ที่มีหน้าที่ให้ความรู้ ให้การศึกษานั้น นอกจากจะต้องปลูกฝังส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมในระบบการศึกษาแล้ว จะเน้นย้ำให้ทางโรงเรียนสอนนักเรียนสอดแทรกวิธีการป้องกันตัว โดยเฉพาะนักเรียนหญิงให้รู้จักวิธีป้องกันตัว หรือวิธีการเอาตัวรอดจากเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง เช่น การสอนวิธีป้องกันตนเองเบื้องต้น
“จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดิฉันรู้สึกเสียใจ และเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ด้วย ซึ่งสังคมทุกวันนี้ผู้หญิงส่วนหนึ่งถูกกระทำด้วยความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ตรงนี้เป็นการสะท้อนภาพสังคมที่ทุกฝ่ายควรต้องช่วยกันแก้ปัญหาเหล่านี้ การเพิ่มโทษทางกฎหมายก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่ก็ต้องมีมาตรการอื่นๆ เสริมด้วย เช่น การส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมว่าจะทำอย่างไรให้คนเรามีทั้งเบญจศีล เบญจธรรม” ปลัด ศธ. กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงกรณีน้องแก้ม หรือ ด.ญ.กชกร พิทักษ์จำนงค์ อายุ 13 ปี ซึ่งเดินทางมาด้วยขบวนรถไฟสาย 174 ขบวนสุราษฎร์ธานี - กรุงเทพฯ หายสาบสูญ และล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม นายวันชัย แสงขาว อายุ 22 ปี ลูกจ้างเฉพาะงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งรับสารภาพว่าก่อเหตุฆ่าข่มขืน และโยนน้องแก้มทิ้งออกจากหน้าต่างรถไฟ ซึ่งต่อมาพบศพห่างจากสถานีรถไฟเขาเต่า ประมาณ 4 กิโลเมตร ว่า ส่วนตัวเห็นว่าควรจะต้องมีการเพิ่มหรือแก้กฎหมายเพิ่มบทลงโทษในคดีข่มขืน หรือการฆ่าข่มขืนให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคม ซึ่งปัจจุบันแนวโน้มความรุนแรงจะมีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งหากไม่ปรับกฎหมายอาจจะไม่ทันกับคนที่ก่อเหตุที่เมื่อพ้นคุกสุดท้ายก็ออกมากระทำผิดซ้ำอีก อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ ศธ. ที่มีหน้าที่ให้ความรู้ ให้การศึกษานั้น นอกจากจะต้องปลูกฝังส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมในระบบการศึกษาแล้ว จะเน้นย้ำให้ทางโรงเรียนสอนนักเรียนสอดแทรกวิธีการป้องกันตัว โดยเฉพาะนักเรียนหญิงให้รู้จักวิธีป้องกันตัว หรือวิธีการเอาตัวรอดจากเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง เช่น การสอนวิธีป้องกันตนเองเบื้องต้น
“จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดิฉันรู้สึกเสียใจ และเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ด้วย ซึ่งสังคมทุกวันนี้ผู้หญิงส่วนหนึ่งถูกกระทำด้วยความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ตรงนี้เป็นการสะท้อนภาพสังคมที่ทุกฝ่ายควรต้องช่วยกันแก้ปัญหาเหล่านี้ การเพิ่มโทษทางกฎหมายก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่ก็ต้องมีมาตรการอื่นๆ เสริมด้วย เช่น การส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมว่าจะทำอย่างไรให้คนเรามีทั้งเบญจศีล เบญจธรรม” ปลัด ศธ. กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่