ก.แรงงาน จัดงบประมาณตามโครงการจ้างงานเร่งด่วนและพัฒนาทักษะฝีมือด้านอาชีพเพิ่มอีก 13 จังหวัด กรอบวงเงิน 9.9 ล้านบาท เน้น สร้างอาชีพ รายได้ ดึง อสร. สร้างบทบาทในท้องถิ่น
นายพีรพัฒน์ พรศิริเลิศกิจ รองปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมคณะทำงานเพื่อพิจารณากำหนดแนวทางการจัดสรรงบประมาณโครงการจ้างงานเร่งด่วนและพัฒนาทักษะฝีมือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนด้านอาชีพ ครั้งที่ 6 ปี 2557 อาคารกระทรวงแรงงาน พร้อมกล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณาอนุมัติการจัดสรรงบประมาณโครงการจ้างงานเร่งด่วนและพัฒนาทักษะฝีมือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนด้านอาชีพ ปี2557 ให้แก่จังหวัดที่ขอรับการสนับสนุน (รอบแรก) ได้แก่ จังหวัดตราด 177,840 บาท ตรัง 980,560 บาท ระยอง 162,300 บาท สมุทรปราการ 124,000 บาท สมุทรสงคราม 646,560 บาท สมุทรสาคร 1,000,000 บาท และอุทัยธานี 238,500 บาท รวม 3,329,760 บาท นอกจากนี้ ได้อนุมัติงบประมาณให้จังหวัดที่ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติม (รอบ 2) อีก 6 จังหวัด คือ จังหวัดขอนแก่น 2,000,000 บาท ชลบุรี 68,000 บาท นครสวรรค์ 992,450 บาท เพชรบุรี 458,200 บาท เพชรบูรณ์ 2,000,000 บาท และแพร่ 1,117,360 บาท รวม 6,636,010 บาท ทั้งนี้มติที่ประชุมได้เห็นชอบอนุมัติจัดสรรงบประมาณโครงการจ้างงานเร่งด่วนและพัฒนาทักษะฝีมือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนด้านอาชีพ ปี 2557 ให้แก่จังหวัดที่ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรวม 13 จังหวัด ภายในกรอบวงเงินทั้งสิ้น 9,965,770 บาท ซึ่งก่อนหน้านี้ ในปีงบประมาณ 2557 ได้จัดสรรงบประมาณให้ 58 จังหวัดไปแล้ว เป็นเงินกว่า 72.6 ล้านบาท ทั้งนี้ได้ให้อาสาสมัครแรงงาน (อสร.) เข้ามามีบทบาทในการพัฒนาท้องถิ่น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชน โดยการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ผ่านโครงการดังกล่าว
รองปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวอีกว่า สำหรับกิจกรรมจ้างงานเร่งด่วนฯ อาทิ กิจกรรมขุดลอกคูคลอง สร้างฝายเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ประโยชน์ การปรับปรุง ซ่อมแซมสถานที่สาธารณะ เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม โดยเฉพาะประชาชนในชุมชน เช่น ซ่อมแซม ทาสีรั้ววัด มัสยิด ปรับปรุงโรงเรียน ศูนย์ชุมชน ถนนภายในหมู่บ้าน ตำบล ทั้งนี้ ไม่สนับสนุนกิจกรรมทำความสะอาด ปรับภูมิทัศน์ เนื่องจากกิจกรรมดังกล่าวไม่มีความมั่นคงถาวร และการปรับปรุงสถานที่ราชการ เอกชน เนื่องจากหน่วยงานต่างๆ สามารถจัดสรรงบประมาณมาดำเนินการเองได้ โดยหลักเกณฑ์ที่ใช้ในการพิจารณา คือ การจัดสรรวงเงินไม่เกินจังหวัดละ 2 ล้านบาท กรณีจังหวัดเสนอมา 2 กิจกรรมให้กำหนดสัดส่วนวงเงินที่จัดสรร โดยกิจกรรมจ้างงานเร่งด่วน สัดส่วนร้อยละ 70 หรือคิดเป็นงบประมาณไม่เกิน 1.4 ล้านบาท กิจกรรมพัฒนาทักษะฝีมือ สัดส่วนร้อยละ 30 คิดเป็นงบประมาณไม่เกิน 6 แสนบาท ซึ่งวงเงินจัดสรรที่เหลือจากกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งให้นำไปจัดสรรเพิ่มในอีกกิจกรรมได้ ทั้งนี้ รวมกันแล้วไม่เกิน 2 ล้านบาท สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้คณะทำงานโครงการดังกล่าวจะนำมติผลการประชุมเพื่อเสนอปลัดกระทรวงแรงงานอนุมัติการจัดสรรงบประมาณต่อไป
“เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินโครงการจ้างงานเร่งด่วนฯ ตามแผนบริหารความเสี่ยงโครงการสำคัญ สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงานจะจัดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อชี้แจงแนวทางการดำเนินโครงการจ้างงานเร่งด่วนฯ ให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกจังหวัดทั่วประเทศ ในวันที่ 24 กรกฎาคม 2557 นี้ ณ ห้องแกรนด์รัชดา ชั้น 5 โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค” รองปลัดกระทรวงแรงงาน
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นายพีรพัฒน์ พรศิริเลิศกิจ รองปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมคณะทำงานเพื่อพิจารณากำหนดแนวทางการจัดสรรงบประมาณโครงการจ้างงานเร่งด่วนและพัฒนาทักษะฝีมือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนด้านอาชีพ ครั้งที่ 6 ปี 2557 อาคารกระทรวงแรงงาน พร้อมกล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณาอนุมัติการจัดสรรงบประมาณโครงการจ้างงานเร่งด่วนและพัฒนาทักษะฝีมือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนด้านอาชีพ ปี2557 ให้แก่จังหวัดที่ขอรับการสนับสนุน (รอบแรก) ได้แก่ จังหวัดตราด 177,840 บาท ตรัง 980,560 บาท ระยอง 162,300 บาท สมุทรปราการ 124,000 บาท สมุทรสงคราม 646,560 บาท สมุทรสาคร 1,000,000 บาท และอุทัยธานี 238,500 บาท รวม 3,329,760 บาท นอกจากนี้ ได้อนุมัติงบประมาณให้จังหวัดที่ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติม (รอบ 2) อีก 6 จังหวัด คือ จังหวัดขอนแก่น 2,000,000 บาท ชลบุรี 68,000 บาท นครสวรรค์ 992,450 บาท เพชรบุรี 458,200 บาท เพชรบูรณ์ 2,000,000 บาท และแพร่ 1,117,360 บาท รวม 6,636,010 บาท ทั้งนี้มติที่ประชุมได้เห็นชอบอนุมัติจัดสรรงบประมาณโครงการจ้างงานเร่งด่วนและพัฒนาทักษะฝีมือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนด้านอาชีพ ปี 2557 ให้แก่จังหวัดที่ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรวม 13 จังหวัด ภายในกรอบวงเงินทั้งสิ้น 9,965,770 บาท ซึ่งก่อนหน้านี้ ในปีงบประมาณ 2557 ได้จัดสรรงบประมาณให้ 58 จังหวัดไปแล้ว เป็นเงินกว่า 72.6 ล้านบาท ทั้งนี้ได้ให้อาสาสมัครแรงงาน (อสร.) เข้ามามีบทบาทในการพัฒนาท้องถิ่น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชน โดยการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ผ่านโครงการดังกล่าว
รองปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวอีกว่า สำหรับกิจกรรมจ้างงานเร่งด่วนฯ อาทิ กิจกรรมขุดลอกคูคลอง สร้างฝายเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ประโยชน์ การปรับปรุง ซ่อมแซมสถานที่สาธารณะ เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม โดยเฉพาะประชาชนในชุมชน เช่น ซ่อมแซม ทาสีรั้ววัด มัสยิด ปรับปรุงโรงเรียน ศูนย์ชุมชน ถนนภายในหมู่บ้าน ตำบล ทั้งนี้ ไม่สนับสนุนกิจกรรมทำความสะอาด ปรับภูมิทัศน์ เนื่องจากกิจกรรมดังกล่าวไม่มีความมั่นคงถาวร และการปรับปรุงสถานที่ราชการ เอกชน เนื่องจากหน่วยงานต่างๆ สามารถจัดสรรงบประมาณมาดำเนินการเองได้ โดยหลักเกณฑ์ที่ใช้ในการพิจารณา คือ การจัดสรรวงเงินไม่เกินจังหวัดละ 2 ล้านบาท กรณีจังหวัดเสนอมา 2 กิจกรรมให้กำหนดสัดส่วนวงเงินที่จัดสรร โดยกิจกรรมจ้างงานเร่งด่วน สัดส่วนร้อยละ 70 หรือคิดเป็นงบประมาณไม่เกิน 1.4 ล้านบาท กิจกรรมพัฒนาทักษะฝีมือ สัดส่วนร้อยละ 30 คิดเป็นงบประมาณไม่เกิน 6 แสนบาท ซึ่งวงเงินจัดสรรที่เหลือจากกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งให้นำไปจัดสรรเพิ่มในอีกกิจกรรมได้ ทั้งนี้ รวมกันแล้วไม่เกิน 2 ล้านบาท สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้คณะทำงานโครงการดังกล่าวจะนำมติผลการประชุมเพื่อเสนอปลัดกระทรวงแรงงานอนุมัติการจัดสรรงบประมาณต่อไป
“เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินโครงการจ้างงานเร่งด่วนฯ ตามแผนบริหารความเสี่ยงโครงการสำคัญ สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงานจะจัดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อชี้แจงแนวทางการดำเนินโครงการจ้างงานเร่งด่วนฯ ให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกจังหวัดทั่วประเทศ ในวันที่ 24 กรกฎาคม 2557 นี้ ณ ห้องแกรนด์รัชดา ชั้น 5 โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค” รองปลัดกระทรวงแรงงาน
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
