โดย...กิตติศักดิ์ อ้อมชาติ
ไทยอยู่ในลำดับต้นๆ ที่ต่างชาติให้การยอมรับเรื่องของทักษะฝีมือแรงงานโดยเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ประเทศเพื่อบ้านต้องการเชื่อมความสัมพันธ์ ขอความร่วมมือในการฝึกทักษะรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเศรษฐกิจอาเซียน
สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานนานาชาติเชียงแสน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน นำโดยนายธีรพล ขุนเมือง ผู้ตรวจราชการกรมฯ เป็นตัวแทนของไทยในการหารือ นำคณะผู้สื่อข่าวเดินทางร่วมรับฟังการหารือกับตัวแทนจากลาวและเขตปกครองตนเองสิบสองปันนาจากประเทศจีน ซึ่งมีถนนสายเศรษฐกิจอาร์ 3 เอ เป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างไทย ลาว และจีน ที่สร้างขึ้นเพื่อการรองรับการเจริญเติบโตทางการค้า การลงทุน การท่องเที่ยวและโลจิสติกส์
หลังจากเดินทางข้ามแม่น้ำโขงเข้าไปยังเขตพื้นที่ของลาว และหารือกับ นายตงลี เยี่ยเส็ง ประธานสภาหอการค้าเมืองหลวงน้ำทา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) โดย นายตงลี กล่าวว่า ลาวต้องเตรียมความพร้อมในการพัฒนากำลังคน สถานที่ท่องเที่ยว และการขนส่ง รองรับชาวต่างชาติ ซึ่งในปีนี้ภาพรวมเศรษฐกิจของ สปป.ลาว ดีขึ้นกว่าร้อยละ 6-7 ในทุกด้าน อาทิ การท่องเที่ยว การบริการ ขนส่ง และสินค้าการเกษตรที่ขยายตัวดีขึ้น ส่งผลให้ช่วงที่ผ่านมามีนักลงทุนชาวไทยเข้ามาเปิดร้านอาหารทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กประมาณ 12 แห่ง เพื่อดึงนักท่องเที่ยว รวมทั้งสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับแรงงานลาวอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ในการเตรียมความพร้อมรองรับการประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ภาคธุรกิจก็ได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ทั้งการเตรียมบุคลากร ด้านการบริการ การลงทุน และสินค้าต่างๆ
“นอกจากนี้หอการค้าลาว ได้มีการขอความร่วมมือด้านการบริการ กับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในการพัฒนาแรงงานให้มีการบริการที่ดีขึ้น เพราะประเทศไทยมีแรงงานที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะแนวชายแดน ซึ่งปัจจุบันต้องยอมรับว่าสปป.ลาว ยังมีความต้องการเรื่องการลงทุนทั้งจากไทยและต่างประเทศ เพื่อเข้ามาพัฒนาระบบเศรษฐกิจให้ดียิ่งขึ้น อาทิ โรงแรม ที่พัก และร้านอาหาร”
ส่วนการหารือกับตัวแทนเขตปกครองตนเองสิบสองปันนานั้น นายผงโป๋ รองผู้อำนวยการองค์การท่องเที่ยวแห่งสิบสองปัน เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวชาวไทย เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่ สิบสองปันนา ปีละกว่า 1 แสนคน โดยทางการจีนได้ให้บริษัทนำเที่ยวจีนที่มีกว่า 40 บริษัทเป็นผู้ดูแลนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยผ่านเส้นทางสายเศรษฐกิจอาร์ 3 เอ ซึ่งช่วยให้ภาคธุรกิจการท่องเที่ยวของ สิบสองปันนาขยายตัวเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจรุดหน้า
นอกจากนี้นายผงโป๋ กล่าวอีกว่า หากโครงการสี่เหลี่ยมทองคำ เส้นทางเชื่อมต่อระหว่าง 4 ประเทศ ที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรายเกิดขึ้น จะทำให้การค้าและการท่องเที่ยวของ ไทย ลาว พม่า และ จีน เกิดความคล่องตัวมากขึ้น แม้ทางการจีนจะสนับสนุนให้ สิบสองปันนาเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยว แต่แรงงานยังอ่อนด้อยด้านภาษาอังกฤษ แต่จะเร่งพัฒนาเรื่องภาษาต่างประเทศให้กับแรงงานมากขึ้น เพื่อสื่อสารกับนักท่องเที่ยวได้ดียิ่งขึ้น
นายธีรพล สรุปผลหารือครั้งนี้ ว่า ความร่วมมือกับลาวที่ผ่านมาได้ส่งเจ้าหน้าที่มาฝึกอบรมด้านเทคนิคการสอน การจัดทำและพัฒนาหลักสูตรการฝึกอาชีพต่าง ๆ รวมทั้งได้ส่งแรงงานมาเข้าอบรมอาชีพสาขาช่างซ่อมเครื่องยนต์ ช่างซ่อมเครื่องปรับอากาศ ช่างไฟฟ้า อาหารและการบริการ เนื่องจากลาวมีพื้นที่อยู่ในเส้นทางเศรษฐกิจอาร์ 3 เอ ทำให้มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะการท่องเที่ยว โรงแรมและโลจิสติกส์ ซึ่งลาวมีความต้องการพัฒนาแรงงานด้านการท่องเที่ยว อาหารและบริการ รวมทั้งทักษะภาษาอังกฤษและจีน มาเป็นลำดับต้นๆ ซึ่งไทยก็พร้อมให้ความร่วมมือ ส่วนการหารือกับสิบสองปันนาในครั้งนี้ เพื่อความสัมพันธ์อันดีของไทย-จีน ซึ่งทาง กพร. มีหน่วยงานที่ให้ความร่วมมือในการฝึกอาชีพ และพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือระหว่างกันพร้อมสอบถามเรื่องการพัฒนาแรงงานของสิบสองปันนาเพื่อกำหนดแผนความร่วมมือ เชื่อว่าจะมีโอกาสในการร่วมธุรกิจและการท่องเที่ยวร่วมกันในอนาคต
การร่วมกันพัฒนาทักษะฝีมือกับต่างประเทศจะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่ไทยจะเป็นฝ่ายฝึกสอนแรงงานให้ทั้ง ลาว และ จีน ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านทักษะฝีมือซึ่งหวังว่าการฝึกให้ต่างชาตินอกจากจะเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์แล้ว จะสามารถช่วยเหลือเศรษฐกิจและผู้ประกอบการของไทยให้ได้แรงงานที่มีคุณภาพพร้อมรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนด้วย
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่