ทุกการแข่งขันย่อมมีแพ้และชนะ คนที่ชนะก็ดีใจสรวลเสเฮฮา แต่คนที่แพ้ก็เศร้าซึมเสียใจ สุดแท้แต่ว่าเมื่อถึงวันนั้นเราจะเป็นผู้แพ้หรือชนะ
สังคมยุคปัจจุบันเต็มไปด้วยสภาพการแข่งขันทุกหนทุกแห่ง แม้จะไม่เห็นด้วยในบางคราว แต่เราก็ปฏิเสธเรื่องการแข่งขันไม่ได้ โดยเฉพาะเด็ก ซึ่งโดยส่วนตัวไม่ค่อยสนับสนุนเรื่องการแข่งขันเท่าไร แต่ปัจจุบันก็มีการแข่งขันบางประเภทที่สร้างสรรค์ และกลายเป็นพื้นที่ดีให้เด็กๆ ได้แสดงออกก็มีไม่น้อย มันขึ้นอยู่กับเป้าประสงค์ของผู้จัดงานด้วย
ดิฉันและภาคีเครือข่าย ซึ่งประกอบด้วย สำนักงานอุทยานการเรียนรู้, มูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก, สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา และนิตยสาร Mother&Care ซึ่งในปีนี้ได้พันธมิตรใหม่คือสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกันจัดโครงการลับสมองประลองปัญญา สรรหาหนูน้อยนักเล่านิทาน เพื่อเฟ้นหาหนูน้อยยอดนักเล่านิทานอย่างเป็นธรรมชาติและเหมาะสมกับวัย โดยมีเป้าหมายปลายทางเพื่อส่งเสริมให้พ่อแม่เล่านิทานให้ลูกฟัง และทำให้เด็กรักการอ่านมากขึ้น
ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสสัมผัสกับเด็กหลากหลายภูมิภาคจากการที่ได้สัญจรไปต่างหวัด ทำให้ได้เห็นความแตกต่างของการใส่ใจในเรื่องการเลี้ยงลูก และความเข้าใจต่อเรื่องการแข่งขันของพ่อแม่ผู้ปกครองและคุณครูจำนวนมาก
ถ้าครอบครัวหรือคุณครูเข้าใจในเรื่องนี้ ก็จะทำให้เด็กมีความสุขกับการแข่งขัน และได้มีโอกาสเรียนรู้ทักษะชีวิตในหลากหลายมิติ ส่วนใหญ่พ่อแม่กลุ่มนี้มีทัศนคติในการให้ลูกมาร่วมเล่านิทานในโครงการ เพื่อให้ลูกกล้าแสดงออก โดยไม่ได้คำนึงถึงเรื่องรางวัลเป็นเป้าหมายใหญ่ในชีวิต แต่ใส่ใจที่จะให้ลูกได้เข้าร่วมกิจกรรมที่เหมาะสมตามวัย
แต่ก็มีพ่อแม่ผู้ปกครองที่ไม่เข้าใจ!
โครงการนี้เป็นโครงการเฟ้นหาหนูน้อยนักเล่านิทานอย่างเป็นธรรมชาติ มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริม และสนับสนุนให้เด็กนำไปสู่การรักการอ่าน เพราะเด็กส่วนใหญ่ที่เติบโตขึ้นมา โดยมีพ่อแม่เล่านิทานให้ลูกฟังมาโดยตลอด จนถึงวันหนึ่งที่เขาพร้อม เขาสามารถถ่ายทอดเรื่องราวจากหนังสือนิทานเล่มโปรด ลุกขึ้นมาเล่านิทานได้อย่างเป็นธรรมชาติมีความสุขและแสดงออกได้อย่างน่ารักเหมาะสมตามวัย
สิ่งที่เราพบเห็นจากการแข่งขันที่ผ่านมา ตลอดระยะเวลา 8 ปี ก็คือ เด็กๆ สนุกสนานกับการได้ถ่ายทอดนิทานที่ตนเองได้เลือกมาเล่าให้ผู้ใหญ่และเพื่อนๆ ฟัง ยิ่งเป็นรุ่นเด็กเล็ก ความเป็นธรรมชาติจะชัดเจนมาก และตัวเด็กเองก็ไม่สนใจถึงเรื่องผลการแข่งขัน เพราะเวลาประกาศผล เด็กๆ ก็ไม่สนใจ ยังคงไปวิ่งเล่นและทำกิจกรรมปกติ
ในขณะที่ผู้ใหญ่ต่างหากที่สนใจเรื่องผลแพ้ชนะอย่างชัดเจน โดยเฉพาะพ่อแม่ที่คุ้นเคยกับการเป็นนักล่ารางวัล ก็จะทนไม่ได้ถ้าหากลูกของตนเองที่เทรนมาอย่างดี จะต้องตกรอบไป
โดยหารู้ไม่ว่ากำลังทำร้ายลูกของตัวเองไปด้วย เพราะลูกทุกคนต่างก็รักพ่อแม่ อยากเอาอกเอาใจคนเป็นพ่อแม่ เมื่อตนไม่สามารถทำได้อย่างที่พ่อแม่คาดหวัง เขาก็เสียใจอยู่แล้ว ถ้าพ่อแม่แสดงความผิดหวัง เขาก็ยิ่งเสียใจมากขึ้นไปอีก ทั้งยังจะขาดความมั่นใจในตนเองด้วย
ปัญหาที่เราพบบ่อยคือ ความคาดหวังของคนเป็นพ่อแม่เป็นอุปสรรคที่สำคัญที่สุด
ความพยายามในการทำความเข้าใจ และเปลี่ยนทัศนคติในเรื่องความสำเร็จของเด็กจากโครงการนี้ ไม่ใช่เรื่องของรางวัลเพียงอย่างเดียว แต่ความสำเร็จของเด็กอยู่ที่การเรียนรู้ในกระบวนการระหว่างทาง อยู่ที่ความตั้งใจและความพยายามในสิ่งที่ตัวเองรัก รวมถึงการได้เรียนรู้ว่า ทุกการแข่งขันต้องมีผู้ชนะ และผู้แพ้ โดยมีพ่อแม่เป็นอ้อมแขนที่อบอุ่นที่พร้อมจะโอบกอดลูกด้วยความรัก
สิ่งสำคัญคือ เด็กได้มีโอกาสแสดงความสามารถ กล้าแสดงออกในสิ่งที่เหมาะสมกับวัย
แม้จะไม่ได้รางวัลของผู้จัด แต่รางวัลแห่งความภาคภูมิใจในตัวลูกต่างหากที่สำคัญสุดสำหรับพ่อแม่
สำหรับปีนี้ โครงการ “ลับสมองประลองปัญญา สรรหาหนูน้อยนักเล่านิทาน” เดินทางมาถึงปีที่ 9 ที่ต้องการเปิดเวทีให้เด็กได้แสดงออกอย่างสร้างสรรค์ผ่านการเล่านิทานอย่างเป็นธรรมชาติ
ที่พิเศษก็คือ การจัดงานในปีนี้ต้องการเทิดพระเกียรติ เนื่องในปี พ.ศ. 2558 เป็นปีที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะทรงมีพระชนมายุครบ 60 พรรษา ในวันที่ 2 เมษายน 2558 ในฐานะที่พระองค์ทรงเป็นเจ้าฟ้านักอ่านที่ทรงโปรดการอ่านหนังสือ และโปรดการเขียนหนังสือมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ นอกจากเรื่องการอ่านที่ทรงเป็นแบบอย่างให้กับเด็กและเยาวชนแล้ว พระองค์ยังทรงให้ความสำคัญกับสุขภาพอนามัยของเด็กไทยมาโดยตลอด ดังนั้น เพื่อสอดคล้องกับวโรกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะทรงมีพระชนมายุครบ ๖๐ พรรษา ในวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2558 ภาคีเครือข่ายจึงจัดการประกวดเล่านิทาน ในปีนี้ ภายใต้แนวคิด ‘เติมอาหารกาย เสริมอาหารใจ บำรุงอาหารสมอง’
ในโอกาสนี้ขอเชิญชวนเด็กๆ ที่รักการอ่านทั่วประเทศมาร่วมประกวดแสดงความสามารถผ่านการเล่านิทานที่สดใส สมวัย เพื่อเฟ้นหายอดหนูน้อยนักเล่านิทานอย่างเป็นธรรมชาติ “ผู้ชนะเลิศจะได้รับถ้วยรางวัลพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทุนการศึกษา เกียรติบัตร และเดินทางไปทัศนศึกษา ณ ประเทศสิงคโปร์” ดาวน์โหลดใบสมัครที่ www.motherandcare.in.th หรือwww.tkpark.or.th สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0-2241-8000 ต่อ 326, 341
แล้วพบกันค่ะ