“จาตุรนต์” ให้ทบทวนกรณีสรรหาผู้แทนคุรุสภา ใน อ.ก.ค.ศ.เขตฯ หลังมีคนมีข้อห่วงใยในการบล็อกโหวต หรือหาผลประโยชน์
นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยถึงข้อห่วงใยกรณีสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาจะมีการปรับหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาคัดเลือกผู้แทนคุรุสภาในคณะ อนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษาใหม่ โดยให้เขตพื้นที่การศึกษาและสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาเสนอชื่อผู้แทนมา อย่างละ 2 คน รวมเป็น 4 คน และให้คณะอนุกรรมการกลั่นกรองที่คณะกรรมการคุรุสภาตั้งขึ้นคัดเลือกให้ เหลือ 1 คน เพื่อนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการคุรุสภาพิจารณาและเสนอรายชื่อให้ที่ประชุม ก.ค.ศ. เห็นชอบเขตพื้นที่ฯละ 1 คน อาจเป็นช่องทางหาผลประโยชน์นั้น ว่า เบื้องต้น ก.ค.ศ. ได้รายงานให้ตนทราบว่าในกระบวนการสรรหาคัดเลือกผู้แทนคุรุสภาในเกณฑ์ใหม่มีการป้องกันการบล็อกโหวต หรือล็อกคนมาในระดับที่น่าจะพอรับได้แต่เรื่องนี้ต้องรอฟังความ เห็นเพิ่มเติมอีกครั้งหนึ่งจากที่ประชุม ก.ค.ศ.
ส่วนกรณีเรื่องการหาผลประโยชน์ก่อนหน้านี้มีข้อห่วงใยมากพอสมควร ซึ่งต้องดูว่ากระบวนการที่มีการเสนอรายชื่อผู้แทนคุรุสภามาแน่ใจว่าดีหรือ มั่นใจได้หรือไม่ อีกทั้งเมื่อมีการเสนอมาแล้วในการเสนอรายชื่อมาอาจจะต้องมีรายชื่อสำรองหรือ ในกรณีที่ขาดคุณสมบัติไม่เหมาะแล้วคุรุสภาไม่ได้เสนอรายชื่อมาใหม่ก็ต้องให้ ที่ประชุมก.ค.ศ.แต่งตั้งเองเลย เพราะที่ผ่านมาจะพบปัญหารายชื่อที่เสนอมาบางคนขาดคุณสมบัติจึงทำให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ไม่สามารถประชุมได้เพราะผู้แทนไม่ครบ ซึ่งตนคิดว่าควรจะต้องหารือกันในรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
“ส่วนการสอบคัดเลือกครูผู้ช่วยจะต้องมีการวางหลักเกณฑ์จะต้องรวบรวมปัญหามาเพื่อวางมาตรฐานกลางในประเด็นต่างๆ อย่างการป้องกันไม่ให้เกิดความแตกต่างในการสอบคัดเลือกแต่ละเขตพื้นที่การศึกษา การป้องกันการเล่นเส้นสาย จ่ายเงินในการเรียกบรรจุด้วยวิธีการใช้บัญชีข้ามเขตพื้นที่การศึกษา ซึ่งต่อไปอาจจะต้องมากำหนดเพดานจำนวนผู้ที่จะขึ้นบัญชีในแต่ละเขตพื้นที่ฯ โดยอาจจะกำหนดให้ขึ้นบัญชีได้ไม่เกินกี่เท่าของอัตราว่าง ไม่ใช่ว่าสอบผ่านกี่คนก็ให้ขึ้นบัญชีทั้งหมดไม่เช่นนั้นก็จะมีกรณีบางเขตพื้นที่ฯที่ขึ้นบัญชีไว้เป็นพันคนแต่ตำแหน่งว่างประมาณ 10 กว่าคนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ประเด็นเหล่านี้ได้มอบให้สำนักงาน ก.ค.ศ. ไปดำเนินการปรับปรุงแล้ว”นายจาตุรนต์ กล่าว
นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยถึงข้อห่วงใยกรณีสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาจะมีการปรับหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาคัดเลือกผู้แทนคุรุสภาในคณะ อนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษาใหม่ โดยให้เขตพื้นที่การศึกษาและสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาเสนอชื่อผู้แทนมา อย่างละ 2 คน รวมเป็น 4 คน และให้คณะอนุกรรมการกลั่นกรองที่คณะกรรมการคุรุสภาตั้งขึ้นคัดเลือกให้ เหลือ 1 คน เพื่อนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการคุรุสภาพิจารณาและเสนอรายชื่อให้ที่ประชุม ก.ค.ศ. เห็นชอบเขตพื้นที่ฯละ 1 คน อาจเป็นช่องทางหาผลประโยชน์นั้น ว่า เบื้องต้น ก.ค.ศ. ได้รายงานให้ตนทราบว่าในกระบวนการสรรหาคัดเลือกผู้แทนคุรุสภาในเกณฑ์ใหม่มีการป้องกันการบล็อกโหวต หรือล็อกคนมาในระดับที่น่าจะพอรับได้แต่เรื่องนี้ต้องรอฟังความ เห็นเพิ่มเติมอีกครั้งหนึ่งจากที่ประชุม ก.ค.ศ.
ส่วนกรณีเรื่องการหาผลประโยชน์ก่อนหน้านี้มีข้อห่วงใยมากพอสมควร ซึ่งต้องดูว่ากระบวนการที่มีการเสนอรายชื่อผู้แทนคุรุสภามาแน่ใจว่าดีหรือ มั่นใจได้หรือไม่ อีกทั้งเมื่อมีการเสนอมาแล้วในการเสนอรายชื่อมาอาจจะต้องมีรายชื่อสำรองหรือ ในกรณีที่ขาดคุณสมบัติไม่เหมาะแล้วคุรุสภาไม่ได้เสนอรายชื่อมาใหม่ก็ต้องให้ ที่ประชุมก.ค.ศ.แต่งตั้งเองเลย เพราะที่ผ่านมาจะพบปัญหารายชื่อที่เสนอมาบางคนขาดคุณสมบัติจึงทำให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ไม่สามารถประชุมได้เพราะผู้แทนไม่ครบ ซึ่งตนคิดว่าควรจะต้องหารือกันในรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
“ส่วนการสอบคัดเลือกครูผู้ช่วยจะต้องมีการวางหลักเกณฑ์จะต้องรวบรวมปัญหามาเพื่อวางมาตรฐานกลางในประเด็นต่างๆ อย่างการป้องกันไม่ให้เกิดความแตกต่างในการสอบคัดเลือกแต่ละเขตพื้นที่การศึกษา การป้องกันการเล่นเส้นสาย จ่ายเงินในการเรียกบรรจุด้วยวิธีการใช้บัญชีข้ามเขตพื้นที่การศึกษา ซึ่งต่อไปอาจจะต้องมากำหนดเพดานจำนวนผู้ที่จะขึ้นบัญชีในแต่ละเขตพื้นที่ฯ โดยอาจจะกำหนดให้ขึ้นบัญชีได้ไม่เกินกี่เท่าของอัตราว่าง ไม่ใช่ว่าสอบผ่านกี่คนก็ให้ขึ้นบัญชีทั้งหมดไม่เช่นนั้นก็จะมีกรณีบางเขตพื้นที่ฯที่ขึ้นบัญชีไว้เป็นพันคนแต่ตำแหน่งว่างประมาณ 10 กว่าคนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ประเด็นเหล่านี้ได้มอบให้สำนักงาน ก.ค.ศ. ไปดำเนินการปรับปรุงแล้ว”นายจาตุรนต์ กล่าว