xs
xsm
sm
md
lg

ประชาคม สธ.ยุ “หมอณรงค์” ฟ้องกลับ “ประดิษฐ” ตั้งสอบวินัยร้ายแรง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ประชาคม สธ. ตบเท้าบุกยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง “ประดิษฐ” ท้วงตั้งสอบปลัด สธ. ซัดเจตนาหวังทำลายชื่อเสียงปลัด สธ. สะกดข้าราชการห้ามแสดงออกทางการเมือง ตั้งคำถามต้านทุกรัฐบาลโกงเป็นความผิดวินัยร้ายแรงหรือ พร้อมจี้ ก.พ. ปกป้องข้าราชการที่ดี ยุ “หมอณรงค์” ฟ้องกลับ



วันนี้ (12 พ.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่หน้าสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สป.สธ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาคมสาธารณสุข นำโดย พญ.อุทุมพร กำภู ณ อยุธยา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นครศรีธรรมราช ในฐานะตัวแทนประชาคมสาธารณสุข ได้เดินทางมารวมตัวกันเพื่อทักท้วงกรณี นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ภายหลังมีหนังสือคำสั่งลงนามโดย นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รักษาการ รมว.สาธารณสุข ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง 5 ประเด็น พร้อมอ่านจดหมายเปิดผนึกถึง นพ.ประดิษฐ ก่อนเดินทางขึ้นไปบริเวณชั้น 4 อาคาร สป.สธ. ซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องทำงาน รมว.สาธารณสุข เพื่อยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง นพ.ประดิษฐ

ทั้งนี้ มีรายงานว่า นพ.ประดิษฐ ไม่ได้เดินทางเข้ามาที่ห้องทำงานแต่อย่างใด ซึ่งระหว่างที่ประชาคมสาธารณสุขเดินทางขึ้นมารวมตัวกันนั้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดูแลรักษาความปลอดภัยบริเวณประตูทางเข้าไปยังห้องทำงาน รมว.สาธารณสุข เพื่อไม่ให้กลุ่มประชาคมสาธารณสุขเข้าไปยังบริเวณห้องทำงานของ รมว.สาธารณสุข ดังนั้น กลุ่มประชาคมสาธารณสุขจึงยื่นจดหมายเปิดผนึกผ่าน น.ส.กฤษณา สนองคุณ รักษาการหัวหน้าสำนักรัฐมนตรีแทน พร้อมนำจดหมายเปิดผนึกขนาดใหญ่ปิดไว้ที่บริเวรประตูทางเข้าห้องทำงาน รมว.สาธารณสุข

สำหรับจดหมายเปิดผนึกมีใจความโดยสรุปว่า 1. คำสั่งดังกล่าวเป็นความลับทางราชการ แต่กลับปรากฏในสื่อมวลชนวงกว้างก่อนผู้ถูกกล่าวหาจะรับทราบ ที่สำคัญกระบวนการนำส่งเอกสารยังผิดขั้นตอน เป็นเจตนามุ่งหวังให้เกิดผลกระทบต่อชื่อเสียงของปลัด สธ. เป็นการข่มขู่ คุกคาม สกัดกั้นการแสดงความคิดเห็นของข้าราชการหรือไม่

2. ข้อหาตามที่ปรากฏส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการรวมตัวและดำเนินกิจกรรมของประชาคมสาธารณสุข ซึ่งเป็นสิทธิเสรีภาพของข้าราชการ และการที่ประชาคมสาธารณสุขปฏิบัติตนตามจรรยาแห่งข้าราชการที่ดี ยืนหยัด ยึดมั่นในการทำสิ่งที่ถูกต้องโดยเฉพาะการต่อต้านการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ และการไม่ยอมรับรัฐบาลที่โกงชาติ มีพฤติกรรมทุจริตคอร์รัปชันไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลใดในดุลพินิจของท่านคิดว่าเป็นการผิดวินัยร้ายแรงใช่หรือไม่

3. ปลัด สธ. เป็นหนึ่งในสมาชิกประชาคมสาธารณสุขจะเป็นการดีกว่าหรือไม่ที่จะออกคำสั่งนี้ต่อประชาคมสาธารณสุขโดยตรง ซึ่งสมาชิกทั้งหมดก็เป็นที่เปิดเผยอยู่แล้ว ประชาคมสาธารณสุขขอแจ้งให้ทราบว่า เราจะไม่ยอมตกเป็นเบี้ยล่างให้กับฝ่ายการเมืองในทุกๆ เรื่องที่ไม่ชอบธรรม และพร้อมตอบโต้การกระทำของท่านอย่างเปิดเผย ตรงไปตรงมา โดยไม่หวั่นเกรงต่ออิทธิพลใดๆ

พญ.อุทุมพร กล่าวว่า การมาทักท้วงก็เพื่อต้องการปกป้องระบบธรรมาภิบาลใน สธ. เพื่อไม่ให้มีการแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง เพื่อให้ข้าราชการประจำปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มความสามารถ ซึ่งระบบราชการเป็นเสาหลักของประเทศ กลไกบ้านเมืองจึงต้องสร้างความเข้มแข็งให้แก่เสาหลักนี้ หากถูกแทรกแซงความเจริญก้าวหน้าของบ้านเมืองก็จะไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ที่สำคัญคือการวางตัวต้องไม่นำบทบาทข้าราชการไปทางการเมือง และต้องทำให้เกิดประโยชน์สุขแก่บ้านเมือง

พญ.อุทุมพร กล่าวอีกว่า สำหรับการเดินทางไปยังสำนักงานคณะกรรมการข้ารากชารพลเรือน (ก.พ.) นั้น เนื่องจาก กพ. เป็นหน่วยงานที่ดูแลข้าราชการ ผดุงรักษาความถูกต้องระบบการทำงานข้าราชการในสังกัด ก.พ. ซึ่งข้าราชการ สธ.ก็อยู่ในสังกัด ก.พ. ดังนั้น ก.พ. จะวางเฉยต่อเหตุการณ์ปลัด สธ. ซึ่งเป็นข้าราชการผู้ใหญ่ถูกคุกคาม ด้วยการสั่งสอบวินัยร้ายแรงไม่ได้ เพราะในเมื่องเราปฏิบัติตามเป็นข้าราชการที่ดีตามคู่มือของ ก.พ. เมื่อถูกคุกคาม ก.พ. ก็ควรที่จะต้องมีการดำเนินการ

พญ.อุทุมพร กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ตนมีโอกาสเข้าพบพูดคุยกับปลัด สธ. พบว่าท่านไม่รู้สึกวิตกกังวล แต่มองว่าเรื่องนี้เป็นความพยายามข่มขู่ ซึ่งประชาคมสาธารณสุขเห็นว่าเรื่องนี้เป็นการใช้อำนาจหน้าที่กดขี่ข่มเหง ดูหมิ่นเกียรติยศศักดืศรีของข้าราชการอย่างไม่คำนึงถึงความถูกต้องชอบธรรม จึงเสนอให้ปลัด สธ.ดำเนินการฟ้องร้องทางกฎหมายต่อ นพ.ประดิษฐ เพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีของข้าราชการ 2 ข้อหา คือ 1.หมิ่นประมาท ทำให้ถูกดูหมิ่น เกลียดชัง เสื่อมเสียชื่อเสียง จากพฤติการณ์ที่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยอย่างร้ายแรง แต่ไม่มีการแจ้งคำสั่งให้ทราบโดยตรงหรือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับตามที่กำหนดไว้ในข้อ 21 (1)วรรคสอง ของกฎ ก.พ.ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ.2556 กลับให้เจ้าหน้าที่ของสำนักงานรัฐมนตรีเป็นผู้ถือหนังสือลับมาเปิดเผย นอกจากนี้ ยังเปิดเผยหนังสือลับของทางราชการต่อสื่อมวลชนนำไปเผยแพร่จนเป็นข่าวทำให้เกิดความเสื่อมเสีย

พญ.อุทุมพร กล่าวด้วยว่า 2.ละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157 จากพฤติการณ์ที่ไม่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนเพื่อหาพยานหลักฐานในเบื้องต้น เพื่อใช้ประกอบพิจารณาว่ากรณีมีมูลที่ควรกล่าวหา ก่อนจะมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง เป็นการกระทำไม่ถูกต้อง อีกทั้ง การตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงไม่เข้าองค์ประกอบความผิดวินัยร้ายแรงที่ต้องทุจริตคอร์รัปชัน หรือทำให้เกิดความเสียหายต่อราชการอย่างร้ายแรง จึงถือว่าเป็นการกลั่นแกล้ง เข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบตามมาตรา 157

“อย่างไรก็ตาม ปลัด สธ.จะดำเนินการฟ้องหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของปลัด สธ.และผู้เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ เบื้องต้นปลัด สธ. เตรียมส่งเรื่องและเอกสารประกอบไปยังประธานคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม(ก.พ.ค.) ซึ่งเป็นกลไกของระบบราชการ เพื่อให้เห็นว่าเรื่องนี้เป็นการแอบอ้างประเด็นทางการเมืองแต่งตั้งคณะกรรมการสอบทางวินัยอย่างร้ายแรงต่อข้าราชการอย่างไม่ถูกต้องชอบธรรม และขอให้เพิกถอนคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยดังกล่าว” พญ.อุทุมพร กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากยื่นจดหมายเปิดผนึกเสร็จแล้ว กลุ่มประชาคมสาธารณสุขได้เดนทางต่อไปยังสำนักงาน ก.พ. เพื่อยื่นจดหมายเปิดผนึกต่อเลขาธิการ ก.พ. ด้วย เพื่อจี้ให้ปกป้องข้าราชการที่ดีจากอิทธิพลทางการเมือง







กำลังโหลดความคิดเห็น