“หมอณรงค์” เชื่อ “ประดิษฐ” แมนพอ ไม่คิดสั่งสอบวินัยร้ายแรง เหตุหนังสือคำสั่งมาผิดระเบียบสารบรรณ คาดมีคนต้องการสะกดข้าราชการ ไม่ให้แสดงออก ย้อนถามนิยามผิดวินัยร้ายแรงคือผิดอย่างไร ด้านประชาคม สธ. ป้อง ปลัด สธ. ไม่ผิด
วันนี้ (8 พ.ค.) นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณี นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รักษาการ รมว.สาธารณสุข ทำหนังคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงปลัด สธ. 5 ประเด็น ว่า มีหนังสือมาที่ห้องทำงาน แต่ตนยังไม่ได้อ่าน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ทำเอกสารเห็นว่าหนังสือนี้ไม่ถูกต้องตามระเบียบสารบรรณที่ว่า เป็นหนังสือลับต้องส่งตรงถึงตนเอง แต่กลับไม่มีซองปิดมิดชิด จึงส่งเรื่องไปยังสำนักบริหารกลางตรวจสอบที่มา อย่างไรก็ตาม ทราบมาว่าข้อหาที่จะตั้งคณะกรรมการสอบตนในครั้งนี้เป็นเรื่องความผิดวินัยร้ายแรง จึงอยากถามกลับว่า คำว่าวินัยร้ายแรงมีนิยามอย่างไร
“อยากให้ไปถามเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ว่า วินัยร้ายแรงมีนิยามอย่างไร เพราะเท่าที่ทราบคือ ต้องประพฤติชั่ว มีการทุจริตคอร์รัปชัน แต่ผมยังเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะใช่ นพ.ประดิษฐ เป็นคนสั่ง เพราะจากการทำงานด้วยกันมา 1 ปีกว่า ทราบดีว่า นพ.ประดิษฐ มีความเป็นสุภาพบุรุษและมืออาชีพพอ ท่านเป็นคนบริหารงานเพื่อระบบสุขภาพ เพื่อประชาชน จึงไม่คิดว่าจะทำเช่นนี้ เพราะหากทำจริงต้องส่งเรื่องถึงผมก่อนตามกระบวนการ แต่ผมกลับรู้หลังสื่ออีก แสดงให้เห็นว่าการกระทำนี้ต้องการสะกดข้าราชการไม่ให้แสดงออก ยิ่งปลัดกระทรวงยุติธรรมแล้ว มาถึงผม ก็เพื่อไม่ให้ใครกล้าแสดงออก แต่ส่วนตัวผมคิดว่า ไม่น่าเป็นเรื่องจริง แต่ผมไม่รู้ว่าใครทำ” ปลัด สธ. กล่าว
นพ.ณรงค์ กล่าวอีกว่า การแสดงความคิดเห็นที่ผ่านมา ตนทำในนามข้าราชการ ประชาชนคนหนึ่ง ซึ่งเป็นสิทธิเสรีภาพตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 63 และ 64 ว่า ข้าราชการสามารถรวมตัวแสดงความคิดเห็นได้ เป็นสิทธิเสรีภาพ แต่ต้องไม่กระทบการทำการหรือประชาชน ซึ่งในที่นี้ก็ไม่มีการกระทบการบริการประชาชน ดังนั้น การแสดงความเห็นจึงถูกต้อง และจากกรณีที่เกิดขึ้น ถือเป็นการส่งสัญญาณให้ข้าราชการทุกคนต้องออกมาเพื่อบ้านเมือง ไม่ควรอยู่เฉย และอย่าเกรงกลัว อย่างคณะกรรมการที่ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อสอบสวนตนนั้น ประธานคือ ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ตนคิดว่าปลัดทุกคนมีศักดิ์ศรี ดังนั้น อย่าให้ความไม่ถูกต้องมาทำลายจุดยืนของข้าราชการที่ต้องการทำประโยชน์เพื่อบ้านเมือง
พญ.ประชุมพร บูรณ์เจริญ ตัวแทนประชาคมสาธารณสุข กล่าวว่า การสอบสวนวินัยปลัด สธ. เป็นการตั้งจำเลยผิด เพราะแถลงการณ์ต่างๆ ที่ประชาคมสาธารณสุขออกมานั้น เป็นเรื่องที่ตัวแทนจากวิชาต่างๆ ร่วมกันทำออกมา ปลัด สธ. ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และหากจะสอบวินัยร้ายแรงจริง เรื่องนี้ก็ไม่ใช่ความผิดวินัยร้ายแรง เพราะเป็นเรื่องสัพเพเหระ ความผิดร้ายแรงของข้าราชการคือการทุจริตเท่านั้น ซึ่งปลัด สธ. ก็บริสุทธิ์ในเรื่องนี้ ทั้งนี้ ในฐานะที่ตนเป็นหนึ่งในประชาคมสาธารณสุข ร่วมออกแถลงการณ์ อยากทราบว่า รมว.สาธารณสุข จะไปสอบปลัด สธ. เพื่ออะไร และการสอบนั้นต้องมีการนำเรื่องเข้า กกต. ให้รับทราบและเห็นชอบก่อน ไม่ทราบว่า รมว.สาธารณสุข ดำเนินการหรือยัง
“การทำแบบนี้ถือว่าไม่แฟร์กับปลัด สธ. แต่หากไปขออนุมัติจาก กกต. แล้ว ทางประชาคมฯ อาจต้องมีการหารือกันและถือเป็นเรื่องใหญ่ เนื่องจากประชาคมฯ เป็นคนออกแถลงการณ์ แต่ถ้ามีการสอบจริงๆ ปลัด สธ. ก็ไม่ผิด เพราะเวลาปลัด สธ. เข้าประชุมกับประชาคมก็ไม่ได้ออกความเห็นอะไร เป็นเพียงสมาชิกคนหนึ่งเท่านั้น ทั้งนี้ วันที่ 8 พ.ค. ประชาคมสาธารณสุขก็จะมีการหารือในเรื่องดังกล่าวด้วย” พญ.ประชุมพร กล่าว
วันนี้ (8 พ.ค.) นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณี นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รักษาการ รมว.สาธารณสุข ทำหนังคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงปลัด สธ. 5 ประเด็น ว่า มีหนังสือมาที่ห้องทำงาน แต่ตนยังไม่ได้อ่าน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ทำเอกสารเห็นว่าหนังสือนี้ไม่ถูกต้องตามระเบียบสารบรรณที่ว่า เป็นหนังสือลับต้องส่งตรงถึงตนเอง แต่กลับไม่มีซองปิดมิดชิด จึงส่งเรื่องไปยังสำนักบริหารกลางตรวจสอบที่มา อย่างไรก็ตาม ทราบมาว่าข้อหาที่จะตั้งคณะกรรมการสอบตนในครั้งนี้เป็นเรื่องความผิดวินัยร้ายแรง จึงอยากถามกลับว่า คำว่าวินัยร้ายแรงมีนิยามอย่างไร
“อยากให้ไปถามเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ว่า วินัยร้ายแรงมีนิยามอย่างไร เพราะเท่าที่ทราบคือ ต้องประพฤติชั่ว มีการทุจริตคอร์รัปชัน แต่ผมยังเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะใช่ นพ.ประดิษฐ เป็นคนสั่ง เพราะจากการทำงานด้วยกันมา 1 ปีกว่า ทราบดีว่า นพ.ประดิษฐ มีความเป็นสุภาพบุรุษและมืออาชีพพอ ท่านเป็นคนบริหารงานเพื่อระบบสุขภาพ เพื่อประชาชน จึงไม่คิดว่าจะทำเช่นนี้ เพราะหากทำจริงต้องส่งเรื่องถึงผมก่อนตามกระบวนการ แต่ผมกลับรู้หลังสื่ออีก แสดงให้เห็นว่าการกระทำนี้ต้องการสะกดข้าราชการไม่ให้แสดงออก ยิ่งปลัดกระทรวงยุติธรรมแล้ว มาถึงผม ก็เพื่อไม่ให้ใครกล้าแสดงออก แต่ส่วนตัวผมคิดว่า ไม่น่าเป็นเรื่องจริง แต่ผมไม่รู้ว่าใครทำ” ปลัด สธ. กล่าว
นพ.ณรงค์ กล่าวอีกว่า การแสดงความคิดเห็นที่ผ่านมา ตนทำในนามข้าราชการ ประชาชนคนหนึ่ง ซึ่งเป็นสิทธิเสรีภาพตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 63 และ 64 ว่า ข้าราชการสามารถรวมตัวแสดงความคิดเห็นได้ เป็นสิทธิเสรีภาพ แต่ต้องไม่กระทบการทำการหรือประชาชน ซึ่งในที่นี้ก็ไม่มีการกระทบการบริการประชาชน ดังนั้น การแสดงความเห็นจึงถูกต้อง และจากกรณีที่เกิดขึ้น ถือเป็นการส่งสัญญาณให้ข้าราชการทุกคนต้องออกมาเพื่อบ้านเมือง ไม่ควรอยู่เฉย และอย่าเกรงกลัว อย่างคณะกรรมการที่ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อสอบสวนตนนั้น ประธานคือ ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ตนคิดว่าปลัดทุกคนมีศักดิ์ศรี ดังนั้น อย่าให้ความไม่ถูกต้องมาทำลายจุดยืนของข้าราชการที่ต้องการทำประโยชน์เพื่อบ้านเมือง
พญ.ประชุมพร บูรณ์เจริญ ตัวแทนประชาคมสาธารณสุข กล่าวว่า การสอบสวนวินัยปลัด สธ. เป็นการตั้งจำเลยผิด เพราะแถลงการณ์ต่างๆ ที่ประชาคมสาธารณสุขออกมานั้น เป็นเรื่องที่ตัวแทนจากวิชาต่างๆ ร่วมกันทำออกมา ปลัด สธ. ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และหากจะสอบวินัยร้ายแรงจริง เรื่องนี้ก็ไม่ใช่ความผิดวินัยร้ายแรง เพราะเป็นเรื่องสัพเพเหระ ความผิดร้ายแรงของข้าราชการคือการทุจริตเท่านั้น ซึ่งปลัด สธ. ก็บริสุทธิ์ในเรื่องนี้ ทั้งนี้ ในฐานะที่ตนเป็นหนึ่งในประชาคมสาธารณสุข ร่วมออกแถลงการณ์ อยากทราบว่า รมว.สาธารณสุข จะไปสอบปลัด สธ. เพื่ออะไร และการสอบนั้นต้องมีการนำเรื่องเข้า กกต. ให้รับทราบและเห็นชอบก่อน ไม่ทราบว่า รมว.สาธารณสุข ดำเนินการหรือยัง
“การทำแบบนี้ถือว่าไม่แฟร์กับปลัด สธ. แต่หากไปขออนุมัติจาก กกต. แล้ว ทางประชาคมฯ อาจต้องมีการหารือกันและถือเป็นเรื่องใหญ่ เนื่องจากประชาคมฯ เป็นคนออกแถลงการณ์ แต่ถ้ามีการสอบจริงๆ ปลัด สธ. ก็ไม่ผิด เพราะเวลาปลัด สธ. เข้าประชุมกับประชาคมก็ไม่ได้ออกความเห็นอะไร เป็นเพียงสมาชิกคนหนึ่งเท่านั้น ทั้งนี้ วันที่ 8 พ.ค. ประชาคมสาธารณสุขก็จะมีการหารือในเรื่องดังกล่าวด้วย” พญ.ประชุมพร กล่าว
