สกอ. เปิดช่องท้วงผลประเมินหลักสูตรนอกที่ตั้ง หลังพบไม่ผ่าน 11 หลักสูตร ปรับปรุง 2 หลักสูตร ยื่นเอกสาร หลักฐานภายใน 30 วัน หลังได้รับแจ้งผลตรวจประเมิน ระบุหากไม่ท้วงต้องปรับปรุงหลักสูตร กลุ่มผ่านต้องยุติการรับนักศึกษา ด้านวิทยาลัยนานาชาติ มหิดลเผยหลักสูตรมีคุณภาพ แต่ตกเรื่องสถานที่
ศ.พิเศษ ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขาธิการ กกอ.) กล่าวว่า แม้ที่ประชุมบอร์ด กกอ. เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา จะได้เห็นชอบผลประเมินการจัดการศึกษานอกสถานที่ตั้ง ซึ่งพบว่าไม่ผ่าน 11 หลักสูตร และต้องปรับปรุง 2 หลักสูตรแล้วนั้น ต่อจากนี้ยังมีกระบวนการที่ต้องดำเนินการอีก เพราะยังไม่สิ้นสุด โดย สกอ. จะแจ้งผลการตรวจประเมินไปยังสถาบันอุดมศึกษา และสถาบันสามารถทักท้วงได้ หากไม่เห็นด้วยกับผลการตรวจประเมินภายใน 30 วัน นับจากวันที่ได้รับหนังสือแจ้งผล โดยสถาบันสามารถนำหลักฐานที่เป็นข้อมูลที่มีอยู่ก่อน หรือ ณ วันที่ตรวจประเมิน แต่ไม่ได้นำมาแสดงให้คณะกรรมการตรวจประเมินได้พิจารณามาทักท้วงผลการประเมินได้ ซึ่ง สกอ. จะนำข้อมูลดังกล่าวเสนอต่อคณะอนุกรรมการด้านการติดตามและประเมินผล พิจารณาทบทวนผลการประเมินและนำเสนอ กกอ. ต่อไป และจะแจ้งผลการทักท้วงผลการประเมินต่อสถาบันอุดมศึกษาเมื่อกระบวนการทักท้วงถือเป็นที่สิ้นสุด
ศ.พิเศษ ดร.ทศพร กล่าวอีกว่า สำหรับสถาบันที่ไม่ทักท้วงผลการประเมินเมื่อครบกำหนดระยะเวลา 30 วัน สถาบันอุดมศึกษาจะต้องดำเนินการตามผลการประเมิน โดย 1. กรณีต้องปรับปรุง ให้ปรับปรุงก่อนภายใน 1 ภาคการศึกษา และส่งแผนการพัฒนาที่ได้ไปดำเนินการมายัง สกอ. เพื่อพิจารณาดำเนินการตรวจประเมินซ้ำต่อไป หากปรับปรุงไม่ได้ให้ดำเนินการเช่นเดียวกับกรณีไม่ผ่าน 2. กรณีไม่ผ่าน ขอให้ยุติการรับนักศึกษาใหม่ในปีการศึกษาถัดไป หากยังเปิดรับนักศึกษาใหม่อยู่ จะไม่รับทราบหลักสูตรนั้นทั้งในและนอกสถานที่ตั้ง นับตั้งแต่วันที่แจ้งไม่รับทราบและประกาศต่อสาธารณะ รวมทั้งแจ้งสำนักงาน ก.พ. ทั้งนี้ สถาบันอุดมศึกษาต้องแจ้งระยะเวลาที่จะปิดศูนย์การจัดการศึกษานอกสถานที่ตั้งดังกล่าว โดยรายงานข้อมูลจำนวนนักศึกษาที่ยังไม่สำเร็จการศึกษาและมาตรการ/วิธีการ ดำเนินการต่อนักศึกษาที่ยังไม่สำเร็จการศึกษาภายใน 90 วัน หลังจากได้รับหนังสือแจ้งผลการตรวจประเมินพร้อมแนบมติสภาสถาบันอุดมศึกษาที่ให้ปิดศูนย์การจัดการศึกษานอกสถานที่ตั้งมายัง สกอ. เพื่อเสนอ กกอ. ต่อไป
ด้าน ศ.ดร.มาลียา เครือตราชู คณบดีวิทยาลัยนานาชาติ ม.มหิดล กล่าวว่า จากกรณีข่าวหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสร้างตัวแบบและการพัฒนาธุรกิจ และหลักสูตรการจัดการมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการบริการนานาชาติ ที่ศูนย์บัณฑิตศึกษา อาคารสาทรซิตี วิทยาลัยนานาชาติ ม.มหิดล ไม่ผ่านการตรวจประเมินการจัดการศึกษานอกสถานที่จาก กกอ. นั้น ขอชี้แจงว่า ทั้ง 2 หลักสูตรมีคุณภาพและได้ผ่านการรับรองจาก สกอ.แล้วเมื่อปี 2550 - 2551 และได้มีการปรับปรุงหลักสูตรในปี 2555 โดยมีการจัดการเรียนการสอนนอกสถานที่ของมหาวิทยาลัย เพื่อตอบสนองความต้องการของนักศึกษาที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีแล้วและทำงานในเมืองเป็นหลัก ซึ่งไม่เป็นไปตามที่ทาง สกอ. กำหนดขึ้นภายหลังในปี 2552 โดยขณะนี้วิทยาลัยฯ อยู่ระหว่างการดำเนินการปรับปรุงด้านสถานที่ตามนิยามที่กำหนดไว้ และได้รับการยืนยันจากประธาน กกอ. แล้วว่ามติดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับคุณภาพของหลักสูตร และไม่มีผลกระทบต่อการสำเร็จการศึกษา รวมทั้งการได้รับปริญญาอย่างแน่นอน
ศ.พิเศษ ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขาธิการ กกอ.) กล่าวว่า แม้ที่ประชุมบอร์ด กกอ. เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา จะได้เห็นชอบผลประเมินการจัดการศึกษานอกสถานที่ตั้ง ซึ่งพบว่าไม่ผ่าน 11 หลักสูตร และต้องปรับปรุง 2 หลักสูตรแล้วนั้น ต่อจากนี้ยังมีกระบวนการที่ต้องดำเนินการอีก เพราะยังไม่สิ้นสุด โดย สกอ. จะแจ้งผลการตรวจประเมินไปยังสถาบันอุดมศึกษา และสถาบันสามารถทักท้วงได้ หากไม่เห็นด้วยกับผลการตรวจประเมินภายใน 30 วัน นับจากวันที่ได้รับหนังสือแจ้งผล โดยสถาบันสามารถนำหลักฐานที่เป็นข้อมูลที่มีอยู่ก่อน หรือ ณ วันที่ตรวจประเมิน แต่ไม่ได้นำมาแสดงให้คณะกรรมการตรวจประเมินได้พิจารณามาทักท้วงผลการประเมินได้ ซึ่ง สกอ. จะนำข้อมูลดังกล่าวเสนอต่อคณะอนุกรรมการด้านการติดตามและประเมินผล พิจารณาทบทวนผลการประเมินและนำเสนอ กกอ. ต่อไป และจะแจ้งผลการทักท้วงผลการประเมินต่อสถาบันอุดมศึกษาเมื่อกระบวนการทักท้วงถือเป็นที่สิ้นสุด
ศ.พิเศษ ดร.ทศพร กล่าวอีกว่า สำหรับสถาบันที่ไม่ทักท้วงผลการประเมินเมื่อครบกำหนดระยะเวลา 30 วัน สถาบันอุดมศึกษาจะต้องดำเนินการตามผลการประเมิน โดย 1. กรณีต้องปรับปรุง ให้ปรับปรุงก่อนภายใน 1 ภาคการศึกษา และส่งแผนการพัฒนาที่ได้ไปดำเนินการมายัง สกอ. เพื่อพิจารณาดำเนินการตรวจประเมินซ้ำต่อไป หากปรับปรุงไม่ได้ให้ดำเนินการเช่นเดียวกับกรณีไม่ผ่าน 2. กรณีไม่ผ่าน ขอให้ยุติการรับนักศึกษาใหม่ในปีการศึกษาถัดไป หากยังเปิดรับนักศึกษาใหม่อยู่ จะไม่รับทราบหลักสูตรนั้นทั้งในและนอกสถานที่ตั้ง นับตั้งแต่วันที่แจ้งไม่รับทราบและประกาศต่อสาธารณะ รวมทั้งแจ้งสำนักงาน ก.พ. ทั้งนี้ สถาบันอุดมศึกษาต้องแจ้งระยะเวลาที่จะปิดศูนย์การจัดการศึกษานอกสถานที่ตั้งดังกล่าว โดยรายงานข้อมูลจำนวนนักศึกษาที่ยังไม่สำเร็จการศึกษาและมาตรการ/วิธีการ ดำเนินการต่อนักศึกษาที่ยังไม่สำเร็จการศึกษาภายใน 90 วัน หลังจากได้รับหนังสือแจ้งผลการตรวจประเมินพร้อมแนบมติสภาสถาบันอุดมศึกษาที่ให้ปิดศูนย์การจัดการศึกษานอกสถานที่ตั้งมายัง สกอ. เพื่อเสนอ กกอ. ต่อไป
ด้าน ศ.ดร.มาลียา เครือตราชู คณบดีวิทยาลัยนานาชาติ ม.มหิดล กล่าวว่า จากกรณีข่าวหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสร้างตัวแบบและการพัฒนาธุรกิจ และหลักสูตรการจัดการมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการบริการนานาชาติ ที่ศูนย์บัณฑิตศึกษา อาคารสาทรซิตี วิทยาลัยนานาชาติ ม.มหิดล ไม่ผ่านการตรวจประเมินการจัดการศึกษานอกสถานที่จาก กกอ. นั้น ขอชี้แจงว่า ทั้ง 2 หลักสูตรมีคุณภาพและได้ผ่านการรับรองจาก สกอ.แล้วเมื่อปี 2550 - 2551 และได้มีการปรับปรุงหลักสูตรในปี 2555 โดยมีการจัดการเรียนการสอนนอกสถานที่ของมหาวิทยาลัย เพื่อตอบสนองความต้องการของนักศึกษาที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีแล้วและทำงานในเมืองเป็นหลัก ซึ่งไม่เป็นไปตามที่ทาง สกอ. กำหนดขึ้นภายหลังในปี 2552 โดยขณะนี้วิทยาลัยฯ อยู่ระหว่างการดำเนินการปรับปรุงด้านสถานที่ตามนิยามที่กำหนดไว้ และได้รับการยืนยันจากประธาน กกอ. แล้วว่ามติดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับคุณภาพของหลักสูตร และไม่มีผลกระทบต่อการสำเร็จการศึกษา รวมทั้งการได้รับปริญญาอย่างแน่นอน
