xs
xsm
sm
md
lg

โวย “สธ.-สปสช.” ตั้งแง่เปิดศึกกระทบ ปชช. จี้แก้ปัญหาภาคเหนือเข้าไม่ถึงบริการ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ลืออ้างคำสั่งปลัด สธ. ห้ามร่วมประชุม อปสข. ภาคเหนือ ร่วม สปสช. ส่งผล สสจ. รพศ. รพท. เข้าร่วมน้อย ซ้ำรอยภาคใต้ ด้าน ผอ.รพ. พรานกระต่าย โวยอย่าตั้งแง่เปิดศึก สั่งให้คนทำงานไม่ประสานกัน ชี้ส่งผลกระทบประชาชน จี้แก้ปัญหาเข้าไม่ถึงบริการดีกว่า ระบุไส้ติ่งแตกยังเป็นปัญหา ขาด รพ. ชั้นสูงด้านหัวใจ หลอดเลือด รังสีรักษาโรคมะเร็ง
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ. (ซ้าย) นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการ สปสช. (ขวา)
วันนี้ (6 พ.ค.) ที่พิษณุโลก นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เป็นประธานเปิดการประชุมคณะอนุกรรมการหลักประกันสุขภาพเขต (อปสข.) เขตภาคเหนือและภาคกลางตอนบน เพื่อแก้ไขปัญหาการเข้าไม่ถึงบริการสาธารณสุขในพื้นที่ และระดมความเห็นการปฏิรูประบบหลักประกันสุขภาพในบริบทพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลางตอนบน โดยมี อปสข. หน่วยบริการสาธารณสุขในพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลางตอนบน และภาคประชาชน กว่า 220 คน เข้าร่วมการประชุม

นางศิวะพร คงทรัพย์ อนุกรรมการหลักประกันสุขภาพเขต 2 พิษณุโลก ตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชน กล่าวว่า ภาคเหนือยังพบปัญหาผู้ป่วยบางโรคไม่สามารถเข้าถึงการรักษา และยังมีสภาพปัญหาด้านสาธารณสุขเฉพาะพื้นที่ เช่น ปัญหาหมอกควันในทุกปี ทำให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจ และลักษณะภูมิประเทศกว้างขวางและเป็นภูเขา ทำให้เดินทางยากลำบาก ผู้ป่วยบางส่วนเข้าไม่ถึงบริการ จึงต้องมีการกระตุ้นให้จัดทำระบบการค้นหาและคัดกรองผู้ป่วยเพื่อเข้ารับการรักษา ขณะที่ภาคเหนือตอนล่าง มีปัญหาการเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมอง หลอดเลือดหัวใจ ในลำดับต้นๆ และปัญหาการเข้ารับบริการ ในผู้ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูง วัณโรค และการติดเชื้อในกระแสโลหิต อปสข. จึงได้พยายามส่งเสริมให้เกิดเครือข่ายในพื้นที่

“ซึ่งประเด็นนี้อยากให้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และ สปสช. เร่งแก้ไข เนื่องจากแม้ว่าจะมีหลักประกันสุขภาพ แต่ก็ไม่มีประโยชน์หากประชาชนไม่สามารถได้รับการรักษาในโรคที่จำเป็นได้ โดยเฉพาะกลุ่มโรคค่าใช้จ่ายสูง ที่ต้องรอคิวนาน จนผู้ป่วยบางรายเสียชีวิตไปก่อนที่จะได้การรักษา” นางศิวะพร กล่าว

นพ.ธวัช สุนทราจารย์ ประธาน อปสข. เขต 3 นครสวรรค์ กล่าวว่า พื้นที่ยังมีปัญหาการเข้าถึงบริการสุขภาพระดับบริการชั้นสูงหรือตติยภูมิ เนื่องจากเป็นเขตพื้นที่เดียวในประเทศไทย ที่ยังไม่มีศูนย์บริการตติยภูมิเฉพาะด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด และด้านรังสีรักษาโรคมะเร็ง ซึ่ง อปสข. ก็พยายามแก้ไข ทั้งสนับสนุนงบค่าเสื่อมตติยภูมิเพื่อเพิ่มศักยภาพ รพศ. รพท. 5 แห่ง รวมถึงความร่วมมือกับ รพ.เอกชน และ รพ.มหาวิทยาลัยนเรศวร

ด้าน นพ.วินัย กล่าวว่า การประชุม อปสข. พื้นที่ภาคเหนือวาระพิเศษนี้ ก็เพื่อแก้ไขปัญหาระบบบริการสาธารณสุขที่อาจจะชะงักงันในช่วงที่เกิดความคิดเห็นที่แตกต่างในประเด็นที่ สธ. แย้งว่า สสจ. จังหวัดจะยังเป็นสาขาจังหวัดของ สปสช. หรือไม่ และมาเพื่อเร่งรัดการใช้งบประมาณ ผ่านกลไก อปสข. ที่มีกระจายอยู่ทุกเขตทั่วประเทศไทย ซึ่งจากการประชุม อปสข. สัญจรที่ภาคใต้ครั้งแรก ก็พบว่า ยังมีปัญหาการเข้าถึงบริการสาธารณสุข เช่นเดียวกับพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลางตอนบน แต่ก็มีความแตกต่างในบางโรค ซึ่งแต่ละพื้นที่ก็มีบริบทต่างกัน

“สปสช. จึงส่งเสริมกลไก อปสข. ซึ่งเป็นกลไกในพื้นที่ในการส่งเสริมและพัฒนาระบบบริการสาธารณสุขที่สอดคล้องกับปัญหาของแต่ละพื้นที่ และจะรวบรวมปัญหาแต่ละพื้นที่ และข้อเสนอจากภาคส่วนต่างๆ ทำเป็นแผนการปฏิรูประบบหลักประกันสุขภาพที่สอดคล้องกับบริบทของแต่ละพื้นที่ต่อไป เพื่อทำให้ประชาชนได้เข้าถึงบริการสาธารณสุขที่จำเป็น” เลขาธิการ สปสช. กล่าว

นพ.บัลลังก์ อุปพงษ์ ผู้อำนวยการรพ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร กล่าวว่า การประชุมวันนี้ สสจ. ขอความร่วมมือไม่ให้เข้าร่วมประชุมกับ สปสช. โดยอ้างว่าเป็นคำสั่งของปลัด สธ. ซึ่งจะเห็นว่าเหมือนที่เกิดขึ้นตอนประชุม อปสข. ที่ภาคใต้ มีแต่ รพ. ชุมชนร่วมประชุม แต่ขาดสสจ. กับ รพศ. และ รพท. ทั่วไป ส่วนตัวไม่เห็นด้วย เรื่องระดับนโยบายมีปัญหาอะไรก็ว่ากันไป แต่อย่าสั่งให้ระดับปฏิบัติการไม่คุยกัน หรือไม่ทำงานร่วมกัน สปสช. กับ สธ. อย่างไรก็ต้องทำงานร่วมกันเพื่อประชาชน มีปัญหากันข้างบน แล้วให้ข้างล่างไม่คุยกันไม่ถูกต้อง ในระดับพื้นที่ เรามีปัญหาเรื้อรังมานาน คือ ผู้ป่วยที่ต้องได้รับการรักษา แต่เข้าไม่ถึงบริการ รวมถึงโรคง่ายๆ ที่รักษาได้ เช่น ไส้ติ่งแตก ทุกวันนี้มีสถิติผู้ป่วยไส้ติ่งแตกเพิ่มสูงขึ้น ทั้งที่ไส้ติ่งเป็นอาการที่ตรวจพบได้ง่าย ไม่ซับซ้อน และสามารถนัดผ่าตัดได้ก่อน การปล่อยให้มีไส้ติ่งแตก จึงถือว่าเป็นข้อบกพร่องของการพัฒนาระบบบริการ แทนที่ สธ. จะแก้ไขปัญหานี้ แต่กลับตั้งแง่ในระดับนโยบาย จนทำให้การทำงานและความร่วมมือระหว่างกันป่วนไปหมด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมดังกล่าวมีนายแพทย์ สสจ. ในพื้นที่ภาคเหนือและกลางตอนบนเข้าร่วมน้อยมากเช่นเดียวกับที่มีการประชุม อปสข. ในภาคใต้เมื่อ 30 เม.ย. ที่ผ่านมา โดย ผอ.รพ. ชุมชนแห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า เป็นเพราะมีคำสั่งจากปลัด สธ. ไม่ให้เข้าร่วมเวทีการประชุมของ สปสช. ทั้งเวที อปสข. และเวทีรับฟังความคิดเห็น ทำให้การประชุมวันนี้ขาด นพ.สสจ. และ ผอ.รพ. ศูนย์หลายคน แต่ รพ. ชุมชน ยังคงยืนยันเข้าร่วมเพราะมีวาระสำคัญเกี่ยวกับ รพ. และผู้ป่วย และไม่เห็นด้วยที่มีคำสั่งห้ามไม่ให้เข้าร่วมประชุมจากผู้มีอำนาจ เพราะทำให้ประชาชนเสียประโยชน์ รพ. ขาดงบประมาณ




กำลังโหลดความคิดเห็น