สมศ. ยกเลิกใช้ U-NET ประเมินภายนอกรอบสี่ เร่งถกบอร์ดหาทางออกคาดรู้ผลใน 1 เดือน เหตุต้องแจ้งให้มหา’ลัยรู้หลักเกณฑ์ในวันที่ 1 ต.ค. ขณะที่ “อั้ม เนโกะ” โหนกระแสยื่นหนังสือ สทศ. ร่วมต้านสอบ U-NET ส่วนรายชื่อค้าน 5 หมื่นชื่อยังไม่ครบ
วันนี้ (1 พ.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ศ.ดร.ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) กล่าวภายหลังการหารือร่วมคุณหญิงสุมณฑา พรหมบุญ ประธานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ศ.(พิเศษ) ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการ กกอ. และ ศ.(กิตติคุณ) ดร.สมหวัง พิธิยานุวัติ กรณีที่สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ หรือ สทศ. จะนำร่องจัดทดสอบทางการศึกษาระดับชาติระดับอุดมศึกษา (U-NET) วิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ในปีการศึกษา 2557 ขณะที่ในการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ (2559-2563) สมศ. จะกำหนดให้การจัดสอบ U-NET เป็นตัวชี้วัดหนึ่งของการประเมินคุณภาพสถานศึกษา ว่า เมื่อ สทศ. มีมติว่าการจัดสอบ U-NET จะนำร่องสอบวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารเพียงวิชาเดียวก่อนนั้น ทาง สมศ. คงไม่สามารถนำผลการสอบ U-NET มาใช้ประเมินรอบสี่ได้แล้ว เนื่องจากเป็นการวัดผลเพียงด้านเดียว ไม่สะท้อนคุณลักษณะตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ หรือ TQF ตามที่ สมศ. ต้องการ
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ตนจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือในที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร สมศ. เพื่อพิจารณาว่าจะใช้ตัวชี้วัดใดในการประเมินรอบสี่แทนผลการสอบ U-NET โดยจะต้องเร่งให้ได้ข้อสรุปภายในเดือนมิถุนายน 2557 เพราะ สมศ. ต้องประกาศเกณฑ์และตัวบ่งชี้การประเมินฯรอบสี่ให้สถาบันการศึกษาทราบภายในวันที่ 1 ตุลาคมนี้
“สมศ. คงต้องพิจารณาว่าจะใช้ผลประเมิน TQF ซึ่งเป็นตัวที่มหาวิทยาลัยประเมินตนเองอยู่แล้ว มาใช้ประเมินรอบสี่เหมือนเดิมหรือไม่ หรืออาจจะต้องพิจารณาหาตัวใหม่มาใช้ประเมินแทนไปก่อน เพื่อรอให้มีหน่วยงานกลางลุกขึ้นมาเป็นหน่วยประเมิน TQF และความพึงพอใจผู้ใช้บัณฑิต ทั้งนี้ จะต้องเป็นผลที่ได้มาตรฐานและเป็นที่ยอมรับของสังคม ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ สมศ. ก็คงจะนำผลมาใช้ต่อไป” ศ.ดร.ชาญณรงค์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันเมื่อเวลา 13.00 น. ที่สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) กลุ่มอิสระนิสิต นักศึกษาไทยไม่เอา U-NET ประมาณ 15 คน นำโดยนายศรันย์ ฉุยฉาย หรือ อั้ม เนโกะ นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ รศ.ดร.สัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ ผู้อำนวยการ สทศ. เพื่อยื่นแถลงการณ์คัดค้านการจัดทดสอบทางการศึกษาระดับชาติระดับอุดมศึกษา หรือ U-NET ซึ่งมีตัวแทน สทศ. เป็นผู้รับมอบหนังสือแทน ซึ่งแถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า รู้สึกไม่มั่นใจในมาตรฐานการจัดสอบของ สทศ. เนื่องจากที่ผ่านมาผิดพลาดมาโดยตลอด และการจัดสอบ U-NET ทำให้ภาษีของประชาชนสูญเปล่า เพราะเป็นการจัดซ้ำซ้อนกับการประเมินผลของมหาวิทยาลัย และการวัดความสามารถทางวิชาชีพที่แต่ละองค์กรวิชาชีพดำเนินการอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากยื่นหนังสือให้แก่ สทศ. เรียบร้อยแล้ว ได้มีการลงไปทำกิจกรรมแสดงพลังการคัดค้านการสอบ U-NET บริเวณด้านล่างของอาคารพญาไท จากนั้นได้เดินทางไปยังตึกวรรณสรณ์ เพื่อเชิญชวนนักเรียน นิสิต นักศึกษา เข้าร่วมคัดค้านการสอบ U-NET ด้วย
โดย นายศรันย์ กล่าวว่า ยืนยันว่าจะคัดค้านการสอบ U-NET จนถึงที่สุด ซึ่งแม้จะมีมติให้นำร่องสอบวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารวิชาเดียว แต่พวกเราก็ไม่เห็นด้วย เพราะเป็นความซ้ำซ้อน เนื่องจากมหาวิทยาลัยต่างๆ มีสถาบันที่ทดสอบทักษะภาษาอังกฤษของนิสิต นักศึกษา ซึ่งเป็นที่ยอมรับ และได้มาตรฐานอยู่แล้ว เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ใช้การสอบ CU-TAD และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ใช้การสอบ TU-GET อีกทั้งหากพิจารณาข้อสอบวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในการทดสอบวัดความถนัดทั่วไป หรือ GAT จะเห็นได้ว่า สทศ. ออกข้อสอบโดยเป็นภาษาอังกฤษที่เป็นคำศัพท์เกี่ยวกับวรรณกรรมที่คนทั่วไป ไม่ได้ใช้ ซึ่งไม่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้เลย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สามารถรวบรวมรายชื่อผู้ร่วมคัดค้านได้แล้วเกือบ 50,000 คน โดยจะมีการยื่นต่อ สทศ. เพื่อให้ยกเลิกการจัดสอบ U-NET และแสดงให้เห็นว่ามีคนจำนวนมากไม่พอใจกับเรื่องนี้
วันนี้ (1 พ.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ศ.ดร.ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) กล่าวภายหลังการหารือร่วมคุณหญิงสุมณฑา พรหมบุญ ประธานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ศ.(พิเศษ) ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการ กกอ. และ ศ.(กิตติคุณ) ดร.สมหวัง พิธิยานุวัติ กรณีที่สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ หรือ สทศ. จะนำร่องจัดทดสอบทางการศึกษาระดับชาติระดับอุดมศึกษา (U-NET) วิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ในปีการศึกษา 2557 ขณะที่ในการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ (2559-2563) สมศ. จะกำหนดให้การจัดสอบ U-NET เป็นตัวชี้วัดหนึ่งของการประเมินคุณภาพสถานศึกษา ว่า เมื่อ สทศ. มีมติว่าการจัดสอบ U-NET จะนำร่องสอบวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารเพียงวิชาเดียวก่อนนั้น ทาง สมศ. คงไม่สามารถนำผลการสอบ U-NET มาใช้ประเมินรอบสี่ได้แล้ว เนื่องจากเป็นการวัดผลเพียงด้านเดียว ไม่สะท้อนคุณลักษณะตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ หรือ TQF ตามที่ สมศ. ต้องการ
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ตนจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือในที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร สมศ. เพื่อพิจารณาว่าจะใช้ตัวชี้วัดใดในการประเมินรอบสี่แทนผลการสอบ U-NET โดยจะต้องเร่งให้ได้ข้อสรุปภายในเดือนมิถุนายน 2557 เพราะ สมศ. ต้องประกาศเกณฑ์และตัวบ่งชี้การประเมินฯรอบสี่ให้สถาบันการศึกษาทราบภายในวันที่ 1 ตุลาคมนี้
“สมศ. คงต้องพิจารณาว่าจะใช้ผลประเมิน TQF ซึ่งเป็นตัวที่มหาวิทยาลัยประเมินตนเองอยู่แล้ว มาใช้ประเมินรอบสี่เหมือนเดิมหรือไม่ หรืออาจจะต้องพิจารณาหาตัวใหม่มาใช้ประเมินแทนไปก่อน เพื่อรอให้มีหน่วยงานกลางลุกขึ้นมาเป็นหน่วยประเมิน TQF และความพึงพอใจผู้ใช้บัณฑิต ทั้งนี้ จะต้องเป็นผลที่ได้มาตรฐานและเป็นที่ยอมรับของสังคม ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ สมศ. ก็คงจะนำผลมาใช้ต่อไป” ศ.ดร.ชาญณรงค์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันเมื่อเวลา 13.00 น. ที่สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) กลุ่มอิสระนิสิต นักศึกษาไทยไม่เอา U-NET ประมาณ 15 คน นำโดยนายศรันย์ ฉุยฉาย หรือ อั้ม เนโกะ นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ รศ.ดร.สัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ ผู้อำนวยการ สทศ. เพื่อยื่นแถลงการณ์คัดค้านการจัดทดสอบทางการศึกษาระดับชาติระดับอุดมศึกษา หรือ U-NET ซึ่งมีตัวแทน สทศ. เป็นผู้รับมอบหนังสือแทน ซึ่งแถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า รู้สึกไม่มั่นใจในมาตรฐานการจัดสอบของ สทศ. เนื่องจากที่ผ่านมาผิดพลาดมาโดยตลอด และการจัดสอบ U-NET ทำให้ภาษีของประชาชนสูญเปล่า เพราะเป็นการจัดซ้ำซ้อนกับการประเมินผลของมหาวิทยาลัย และการวัดความสามารถทางวิชาชีพที่แต่ละองค์กรวิชาชีพดำเนินการอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากยื่นหนังสือให้แก่ สทศ. เรียบร้อยแล้ว ได้มีการลงไปทำกิจกรรมแสดงพลังการคัดค้านการสอบ U-NET บริเวณด้านล่างของอาคารพญาไท จากนั้นได้เดินทางไปยังตึกวรรณสรณ์ เพื่อเชิญชวนนักเรียน นิสิต นักศึกษา เข้าร่วมคัดค้านการสอบ U-NET ด้วย
โดย นายศรันย์ กล่าวว่า ยืนยันว่าจะคัดค้านการสอบ U-NET จนถึงที่สุด ซึ่งแม้จะมีมติให้นำร่องสอบวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารวิชาเดียว แต่พวกเราก็ไม่เห็นด้วย เพราะเป็นความซ้ำซ้อน เนื่องจากมหาวิทยาลัยต่างๆ มีสถาบันที่ทดสอบทักษะภาษาอังกฤษของนิสิต นักศึกษา ซึ่งเป็นที่ยอมรับ และได้มาตรฐานอยู่แล้ว เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ใช้การสอบ CU-TAD และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ใช้การสอบ TU-GET อีกทั้งหากพิจารณาข้อสอบวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในการทดสอบวัดความถนัดทั่วไป หรือ GAT จะเห็นได้ว่า สทศ. ออกข้อสอบโดยเป็นภาษาอังกฤษที่เป็นคำศัพท์เกี่ยวกับวรรณกรรมที่คนทั่วไป ไม่ได้ใช้ ซึ่งไม่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้เลย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สามารถรวบรวมรายชื่อผู้ร่วมคัดค้านได้แล้วเกือบ 50,000 คน โดยจะมีการยื่นต่อ สทศ. เพื่อให้ยกเลิกการจัดสอบ U-NET และแสดงให้เห็นว่ามีคนจำนวนมากไม่พอใจกับเรื่องนี้