ชมรมสหวิชาชีพฯ ประณามคนร้ายยิงเจ้าหน้าที่ สธ. นราธิวาส เสียชีวิต จี้ สธ. ช่วยเหลือดูแล ด้าน สธ.มอบเงิน 5 แสนบาทช่วยผู้เสียชีวิต พร้อมขอพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ ยันเจ้าหน้าที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ยังตั้งใจดูแลประชาชนในพื้นที่
วันนี้ (30 เม.ย.) ชมรมสหวิชาชีพกระทรวงสาธารณสุข ออกแถลงการณ์เรื่อง สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีใจความว่า ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในวันที่ 29 เมษายน 2557 เวลาประมาณ 14.00 น. เมื่อผู้ก่อการร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอศรีสาคร จ.นราธิวาส เป็นเหตุให้นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการเสียชีวิต และลูกจ้างสาธารณสุขอำเภอศรีสาคร จ.นราธิวาส บาดเจ็บสาหัสนั้น ชมรมฯ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทั้งสองท่านที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว และขอเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ และครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวดำเนินชีวิตอย่างเข้มแข็งต่อไป พร้อมทั้งขอประณามการกระทำของผู้ก่อการร้ายที่กระทำต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขผู้บริสุทธิ์ ซึ่งได้ให้บริการดูแลสุขภาพประชาชนในพื้นที่ที่ดีเสมอมา
นอกจากนี้ ชมรมฯ ขอเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหน่วยงานต้นสังกัด พร้อมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือดูแลครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว อีกทั้งขอเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความสำคัญในการดูแลความปลอดภัย สวัสดิการ และความมั่นคงของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขคนอื่นๆ ที่ปฏิบัติงานท่ามกลางสถานการณืความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยความทุ่มเท อดทน และเสียสละเสมอมา เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเหล่านี้ต่อไป
ด้าน นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า เบื้องต้น สธ.ได้มอบเงินให้ครอบครัวผู้เสียชีวิต 500,000 บาท พร้อมด้วยเงินจากกองทุนบรรเทาสาธารณภัยของจังหวัดนราธิวาสอีก 50,000 บาท เบื้องต้นรวม 550,000 บาท และเปิดบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาศรีสาคร ชื่อบัญชี “กองทุนช่วยเหลือครอบครัวนางสาวจริยา พรหมนวล” เลขบัญชี 020-0-3549394-2 ส่วนผู้บาดเจ็บสาหัส ได้มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น จำนวน 50,000 บาท และได้ให้ทีมสุขภาพจิตดูแลจิตใจของครอบครัวเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 รายด้วย พร้อมได้กำชับให้แพทย์โรงพยาบาลปัตตานี ให้การดูแลอย่างเต็มที่ ขณะนี้อาการอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย รู้สึกตัวดี
นพ.ณรงค์ กล่าวว่า ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ความไม่สงบที่กระทบต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เสียชีวิต 3 ราย และในปี 2557 เป็นเหตุการณ์รายแรกที่มีเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่มีความตั้งใจให้บริการดูแลสุขภาพประชาชนในพื้นที่อย่างดีที่สุด และได้ให้ผู้บริหารระดับสูง ดูแลบำรุงขวัญ ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอย่างภาคภูมิใจ ในการให้บริการประชาชน โดยในวันที่ 1 พฤษภาคม 2557 จะเดินทางไปเป็นประธานในพิธีรดน้ำศพ นางสาวจริยา พรหมนวล ที่วัดโคกเนียน ต.คูหาสวรรค์ อ.เมือง จ.พัทลุง และอยู่ในระหว่างขอพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ
นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่เพียงแต่เป็นการสูญเสียบุคลากรในวิชาชีพสาธารณสุข ยังทำลายขวัญกำลังใจบุคลากรในแวดวงสาธารณสุขอย่างมาก เพราะป็นที่ทราบดีว่าวิชาชีพแพทย์ พยาบาล ตลอดจนบุคลากรในวิชาชีพสาธารณสุข แม้จะทำงานอยู่ภายใต้สถานการณ์ความขัดแย้ง จะได้รับการยกเว้นการทำร้าย และถือเป็นหลักสากลที่ปฏิบัติแม้ในภาวะสงครามระหว่างประเทศ นับเป็นเหตุการณ์สร้างความเศร้าสลดใจเพิ่มมากขึ้น นอกจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ถูกทำร้ายทั้ง 2 รายเป็นผู้หญิงแล้ว น.ส.จริยา เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่เสียชีวิตลง ยังอยู่ระหว่างการตั้งครรภ์ได้ 2 เดือน จึงขอร่วมประณามเหตุการณ์ความรุนแรง ซึ่งเชื่อว่าคงไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น และขอแสดงความเสียใจกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ถูกทำร้ายจากเหตุการณ์นี้
นพ.วินัย กล่าวว่า น.ส.จริยา และ น.ส.พิณยุพา เป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุข โดยในช่วงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งตาม “ข้อบังคับคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีผู้ให้บริการได้รับความเสียหายจากการให้บริการสาธารณสุข พ.ศ. 2556” ซึ่งเป็นกฎหมายเพื่อให้การดูแลผู้ให้บริการในหน่วยบริการระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยจะให้การชดเชยความเสียหายที่เกิดจากการให้บริการสาธารณสุขกับผู้ให้บริการหรือทายาท ซึ่งจะได้รับการชดเชยเช่นเดียวกับ มาตรา 41 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ในการเยียวยาความเสียหายเบื้องต้นให้กับผู้รับบริการ
ทั้งนี้ในกรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพอย่างถาวร หรือเจ็บป่วยเรื้อรังที่ต้องได้รับการรักษาตลอดชีวิต และมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการดำรงชีวิต จ่ายเงินช่วยเหลือได้ตั้งแต่ 240,000 บาท แต่ไม่เกิน 400,000 บาท กรณีสูญเสียอวัยวะหรือพิการที่มีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต จ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นได้ 100,000 บาท แต่ไม่เกิน 240,000 บาท และกรณีบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยต่อเนื่อง จ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นได้ไม่เกิน 100,000 บาท ซึ่งทางคณะอนุกรรมการพิจารณาวินิจฉัยคำร้องของรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นระดับจังหวัดจะเป็นผู้พิจารณาตามหลักเกณฑ์การช่วยเหลือเบื้องต้นดังกล่าว
วันนี้ (30 เม.ย.) ชมรมสหวิชาชีพกระทรวงสาธารณสุข ออกแถลงการณ์เรื่อง สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีใจความว่า ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในวันที่ 29 เมษายน 2557 เวลาประมาณ 14.00 น. เมื่อผู้ก่อการร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอศรีสาคร จ.นราธิวาส เป็นเหตุให้นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการเสียชีวิต และลูกจ้างสาธารณสุขอำเภอศรีสาคร จ.นราธิวาส บาดเจ็บสาหัสนั้น ชมรมฯ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทั้งสองท่านที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว และขอเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ และครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวดำเนินชีวิตอย่างเข้มแข็งต่อไป พร้อมทั้งขอประณามการกระทำของผู้ก่อการร้ายที่กระทำต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขผู้บริสุทธิ์ ซึ่งได้ให้บริการดูแลสุขภาพประชาชนในพื้นที่ที่ดีเสมอมา
นอกจากนี้ ชมรมฯ ขอเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหน่วยงานต้นสังกัด พร้อมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือดูแลครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว อีกทั้งขอเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความสำคัญในการดูแลความปลอดภัย สวัสดิการ และความมั่นคงของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขคนอื่นๆ ที่ปฏิบัติงานท่ามกลางสถานการณืความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยความทุ่มเท อดทน และเสียสละเสมอมา เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเหล่านี้ต่อไป
ด้าน นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า เบื้องต้น สธ.ได้มอบเงินให้ครอบครัวผู้เสียชีวิต 500,000 บาท พร้อมด้วยเงินจากกองทุนบรรเทาสาธารณภัยของจังหวัดนราธิวาสอีก 50,000 บาท เบื้องต้นรวม 550,000 บาท และเปิดบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาศรีสาคร ชื่อบัญชี “กองทุนช่วยเหลือครอบครัวนางสาวจริยา พรหมนวล” เลขบัญชี 020-0-3549394-2 ส่วนผู้บาดเจ็บสาหัส ได้มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น จำนวน 50,000 บาท และได้ให้ทีมสุขภาพจิตดูแลจิตใจของครอบครัวเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 รายด้วย พร้อมได้กำชับให้แพทย์โรงพยาบาลปัตตานี ให้การดูแลอย่างเต็มที่ ขณะนี้อาการอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย รู้สึกตัวดี
นพ.ณรงค์ กล่าวว่า ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ความไม่สงบที่กระทบต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เสียชีวิต 3 ราย และในปี 2557 เป็นเหตุการณ์รายแรกที่มีเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่มีความตั้งใจให้บริการดูแลสุขภาพประชาชนในพื้นที่อย่างดีที่สุด และได้ให้ผู้บริหารระดับสูง ดูแลบำรุงขวัญ ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอย่างภาคภูมิใจ ในการให้บริการประชาชน โดยในวันที่ 1 พฤษภาคม 2557 จะเดินทางไปเป็นประธานในพิธีรดน้ำศพ นางสาวจริยา พรหมนวล ที่วัดโคกเนียน ต.คูหาสวรรค์ อ.เมือง จ.พัทลุง และอยู่ในระหว่างขอพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ
นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่เพียงแต่เป็นการสูญเสียบุคลากรในวิชาชีพสาธารณสุข ยังทำลายขวัญกำลังใจบุคลากรในแวดวงสาธารณสุขอย่างมาก เพราะป็นที่ทราบดีว่าวิชาชีพแพทย์ พยาบาล ตลอดจนบุคลากรในวิชาชีพสาธารณสุข แม้จะทำงานอยู่ภายใต้สถานการณ์ความขัดแย้ง จะได้รับการยกเว้นการทำร้าย และถือเป็นหลักสากลที่ปฏิบัติแม้ในภาวะสงครามระหว่างประเทศ นับเป็นเหตุการณ์สร้างความเศร้าสลดใจเพิ่มมากขึ้น นอกจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ถูกทำร้ายทั้ง 2 รายเป็นผู้หญิงแล้ว น.ส.จริยา เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่เสียชีวิตลง ยังอยู่ระหว่างการตั้งครรภ์ได้ 2 เดือน จึงขอร่วมประณามเหตุการณ์ความรุนแรง ซึ่งเชื่อว่าคงไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น และขอแสดงความเสียใจกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ถูกทำร้ายจากเหตุการณ์นี้
นพ.วินัย กล่าวว่า น.ส.จริยา และ น.ส.พิณยุพา เป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุข โดยในช่วงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งตาม “ข้อบังคับคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีผู้ให้บริการได้รับความเสียหายจากการให้บริการสาธารณสุข พ.ศ. 2556” ซึ่งเป็นกฎหมายเพื่อให้การดูแลผู้ให้บริการในหน่วยบริการระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยจะให้การชดเชยความเสียหายที่เกิดจากการให้บริการสาธารณสุขกับผู้ให้บริการหรือทายาท ซึ่งจะได้รับการชดเชยเช่นเดียวกับ มาตรา 41 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ในการเยียวยาความเสียหายเบื้องต้นให้กับผู้รับบริการ
ทั้งนี้ในกรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพอย่างถาวร หรือเจ็บป่วยเรื้อรังที่ต้องได้รับการรักษาตลอดชีวิต และมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการดำรงชีวิต จ่ายเงินช่วยเหลือได้ตั้งแต่ 240,000 บาท แต่ไม่เกิน 400,000 บาท กรณีสูญเสียอวัยวะหรือพิการที่มีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต จ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นได้ 100,000 บาท แต่ไม่เกิน 240,000 บาท และกรณีบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยต่อเนื่อง จ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นได้ไม่เกิน 100,000 บาท ซึ่งทางคณะอนุกรรมการพิจารณาวินิจฉัยคำร้องของรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นระดับจังหวัดจะเป็นผู้พิจารณาตามหลักเกณฑ์การช่วยเหลือเบื้องต้นดังกล่าว