ศธ.เดินหน้ายกเครื่องภาษาอังกฤษ เตรียมประเมินความพร้อมครูมัธยม4 หมื่นคน พร้อมจัดค่ายภาษาอังกฤษ 431ค่ายสำหรับ นร.ชั้นป.3-5 และ ม.1-2 ช่วงปิดเทอมเน้นเรียนเพื่อการสื่อสาร
นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ตามที่ ตนได้ได้ลงนามในประกาศ ศธ.เรื่องนโยบายการปฏิรูปการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ไปเมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินการ โดยได้จัดทำกรอบมาตรฐานความสามารถด้านภาษาอังกฤษที่เป็นสากล หรือ The Common European Framework of Reference for Languages (CEFR) เพื่อนำมาใช้เป็นเกณฑ์สำหรับจัดการเรียนการสอน โดยครูผู้สอนจะถูกประเมินความสามารถด้านการใช้ภาษาตามกรอบนี้ด้วย สำหรับสถานศึกษาจะต้องปรับการเรียนการสอนใหม่ให้เป็นแบบธรรมชาติ หรือ Communicative Languages Teaching (CLT) ซึ่งเริ่มจากการฟัง พูด อ่าน และเขียน ซึ่งจากนี้ สพฐ. จะประเมินความพร้อมของสถานศึกษา และช่วงปิดภาคเรียนนี้จะมีการจัดค่ายภาษาอังกฤษ ของชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ป.4 ,ป.5 และ มัธยมศึกษาปีที่3 รวม 431 ค่ายทั่วประเทศ เน้นการเรียนเพื่อใช้สื่อสารรวมถึงจะมีการประเมินความสามารถด้านภาษาอังกฤษของครู 40,000 คน โดยจะเริ่มจากครูระดับมัธยมศึกษา 20,000 คนก่อน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาครูในระดับต่าง ๆ
ขณะเดียวกันหน่วยงานอื่น ๆ ทั้งสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ก็ต้องนำประกาศดังกล่าวและแนวปฏิบัติของสพฐ. ไปปรับทำเป็นแนวปฏิบัติของตนเอง เพื่อให้การสามารถดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวได้ภายในปีการศึกษา 2557 นี้พร้อมกันทุกสังกัด นอก จากนั้น จะประสาน ไปยังสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) และที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดสอบเข้าเรียนต่อในสถาบันอุดมศึกษา ซึ่งหากมีการปรับการเรียนการสอนในวิชาอังกฤษของระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ดังนั้นการออกข้อสอบเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยในอนาคต ก็ควรจะต้องมีการปรับ โดยเน้นวัดความสามารถในการเขียน และการสื่อสารมากขึ้น
นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ตามที่ ตนได้ได้ลงนามในประกาศ ศธ.เรื่องนโยบายการปฏิรูปการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ไปเมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินการ โดยได้จัดทำกรอบมาตรฐานความสามารถด้านภาษาอังกฤษที่เป็นสากล หรือ The Common European Framework of Reference for Languages (CEFR) เพื่อนำมาใช้เป็นเกณฑ์สำหรับจัดการเรียนการสอน โดยครูผู้สอนจะถูกประเมินความสามารถด้านการใช้ภาษาตามกรอบนี้ด้วย สำหรับสถานศึกษาจะต้องปรับการเรียนการสอนใหม่ให้เป็นแบบธรรมชาติ หรือ Communicative Languages Teaching (CLT) ซึ่งเริ่มจากการฟัง พูด อ่าน และเขียน ซึ่งจากนี้ สพฐ. จะประเมินความพร้อมของสถานศึกษา และช่วงปิดภาคเรียนนี้จะมีการจัดค่ายภาษาอังกฤษ ของชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ป.4 ,ป.5 และ มัธยมศึกษาปีที่3 รวม 431 ค่ายทั่วประเทศ เน้นการเรียนเพื่อใช้สื่อสารรวมถึงจะมีการประเมินความสามารถด้านภาษาอังกฤษของครู 40,000 คน โดยจะเริ่มจากครูระดับมัธยมศึกษา 20,000 คนก่อน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาครูในระดับต่าง ๆ
ขณะเดียวกันหน่วยงานอื่น ๆ ทั้งสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ก็ต้องนำประกาศดังกล่าวและแนวปฏิบัติของสพฐ. ไปปรับทำเป็นแนวปฏิบัติของตนเอง เพื่อให้การสามารถดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวได้ภายในปีการศึกษา 2557 นี้พร้อมกันทุกสังกัด นอก จากนั้น จะประสาน ไปยังสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) และที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดสอบเข้าเรียนต่อในสถาบันอุดมศึกษา ซึ่งหากมีการปรับการเรียนการสอนในวิชาอังกฤษของระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ดังนั้นการออกข้อสอบเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยในอนาคต ก็ควรจะต้องมีการปรับ โดยเน้นวัดความสามารถในการเขียน และการสื่อสารมากขึ้น
