กยศ.รับแล้ว!มีเงินพอบริหารจัดการให้ผู้กู้รายใหม่ได้ 2 พันกว่าล้าน ขณะที่ ศธ.จ่อหารือนอกรอบกับ กยศ.ดูช่องทางหางบจากส่วนอื่นมาเพิ่มให้พอปล่อยกู้ตามจำนวน 2.34 แสนรายที่ปรับเพิ่ม ก่อนเสนอให้บอร์ด กยศ.27 มี.ค.นี้ จ่อฟื้นโครงการหารายได้ระหว่างเรียนช่วย นร.นศ.มีรายได้ และให้ทุกหน่วยงานสำรวจทุนที่มี รวมทั้งจะประสานภาคเอกชนระดมทุนการศึกษาช่วยเด็ก
วันนี้ (18 มี.ค.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหากรณีกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ถูกตัดงบประมาณปี 2557 จำนวน 6,700 ล้านบาททำให้ในปีการศึกษา 2557 อาจจะไม่มีงบประมาณสำหรับผู้กู้รายใหม่ ว่า ตามที่ ศธ.ได้จะเสนอขอปรับเพิ่มจำนวนผู้กู้รายใหม่ เป็น 234,000 ราย ใช้งบประมาณทั้งหมด 3,104 ล้านบาท นั้นเท่าที่ดูตัวเลขดังกล่าว มีความแตกต่างจากข้อมูลของ กยศ.ค่อนข้างมาก ดังนั้นตนจึงมอบให้องค์กรหลักไปหารือเรื่องงบประมาณกับกยศ. ในการประชุมคณะกรรมการ กยศ.ในวันที่ 27 มีนาคมนี้ ซึ่งหาก กยศ.มีงบประมาณไม่เพียงพอและมีความจำเป็นก็ให้เสนอของบกลางจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งจะพยายามให้ได้ข้อสรุปภายในปลายเดือน มี.ค.นี้
ด้าน นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัด ศธ.เปิดเผยภายหลังเป็นประธานคณะอนุกรรมการบัญชีจ่ายที่ 1 กยศ.กล่าวว่า ที่ประชุมรับทราบจำนวนผู้กู้รายใหม่ที่ ศธ.เสนอขอปรับเพิ่ม ขณะเดียวกัน รองผู้จัดการ กยศ.ซึ่งเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ก็ชี้แจงว่าเท่าที่ดูงบประมาณคาดว่าน่าจะสามารถนำมาบริหารจัดการสำหรับผู้กู้รายใหม่ได้ประมาณ 2,000 กว่าล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับงบประมาณเดิมที่ กยศ.จะเสนอของบกลาง จำนวน 2,118 ล้านบาทแต่ก็ยังขาดงบประมาณอีกจำนวนหนึ่ง จึงจะครอบคลุมจำนวนผู้กู้รายใหม่ทั้งหมดที่ศธ.ขอเพิ่มไป ดังนั้น ศธ.จะหารือนอกรอบกับทาง กยศ.อีกครั้งว่าจะมีงบประมาณจากส่วนใดมาเพิ่มได้บ้างก่อนจะเสนอให้คณะกรรมการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เห็นชอบในวันที่ 27 มี.ค.นี้ ขณะเดียวกัน ที่ประชุมจะเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) และกยศ. เร่งประชาสัมพันธ์ ให้นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ที่เคยกู้กยศ. ต่อเนื่องและเรียนในสาขาขาดแคลน เปลี่ยนไปกู้กองทุนกองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) แทน เพื่อกยศ. จะมีเงินเพื่อบริหารจัดการให้ครอบคลุมจำนวนผู้กู้รายใหม่ทั้งหมด
“ในส่วน ศธ.จะฟื้นโครงการหารายได้ระหว่างเรียนขึ้นมาใหม่เพื่อช่วยเหลือนักเรียนให้มีรายได้ รวมถึงจะขอให้หน่วยงานที่มีสถานศึกษาในสังกัด ทั้งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และ สกอ.ไปสำรวจทุนการศึกษาว่ามีจำนวนเท่าไหร่ เพื่อแจ้งให้นักเรียนทราบและจะเชิญชวนให้ภาคเอกชนระดมเงินเพื่อเป็นกองทุนการศึกษาให้กับเด็กอีกช่องทางหนึ่ง”ปลัด ศธ.กล่าว
วันนี้ (18 มี.ค.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหากรณีกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ถูกตัดงบประมาณปี 2557 จำนวน 6,700 ล้านบาททำให้ในปีการศึกษา 2557 อาจจะไม่มีงบประมาณสำหรับผู้กู้รายใหม่ ว่า ตามที่ ศธ.ได้จะเสนอขอปรับเพิ่มจำนวนผู้กู้รายใหม่ เป็น 234,000 ราย ใช้งบประมาณทั้งหมด 3,104 ล้านบาท นั้นเท่าที่ดูตัวเลขดังกล่าว มีความแตกต่างจากข้อมูลของ กยศ.ค่อนข้างมาก ดังนั้นตนจึงมอบให้องค์กรหลักไปหารือเรื่องงบประมาณกับกยศ. ในการประชุมคณะกรรมการ กยศ.ในวันที่ 27 มีนาคมนี้ ซึ่งหาก กยศ.มีงบประมาณไม่เพียงพอและมีความจำเป็นก็ให้เสนอของบกลางจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งจะพยายามให้ได้ข้อสรุปภายในปลายเดือน มี.ค.นี้
ด้าน นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัด ศธ.เปิดเผยภายหลังเป็นประธานคณะอนุกรรมการบัญชีจ่ายที่ 1 กยศ.กล่าวว่า ที่ประชุมรับทราบจำนวนผู้กู้รายใหม่ที่ ศธ.เสนอขอปรับเพิ่ม ขณะเดียวกัน รองผู้จัดการ กยศ.ซึ่งเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ก็ชี้แจงว่าเท่าที่ดูงบประมาณคาดว่าน่าจะสามารถนำมาบริหารจัดการสำหรับผู้กู้รายใหม่ได้ประมาณ 2,000 กว่าล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับงบประมาณเดิมที่ กยศ.จะเสนอของบกลาง จำนวน 2,118 ล้านบาทแต่ก็ยังขาดงบประมาณอีกจำนวนหนึ่ง จึงจะครอบคลุมจำนวนผู้กู้รายใหม่ทั้งหมดที่ศธ.ขอเพิ่มไป ดังนั้น ศธ.จะหารือนอกรอบกับทาง กยศ.อีกครั้งว่าจะมีงบประมาณจากส่วนใดมาเพิ่มได้บ้างก่อนจะเสนอให้คณะกรรมการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เห็นชอบในวันที่ 27 มี.ค.นี้ ขณะเดียวกัน ที่ประชุมจะเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) และกยศ. เร่งประชาสัมพันธ์ ให้นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ที่เคยกู้กยศ. ต่อเนื่องและเรียนในสาขาขาดแคลน เปลี่ยนไปกู้กองทุนกองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) แทน เพื่อกยศ. จะมีเงินเพื่อบริหารจัดการให้ครอบคลุมจำนวนผู้กู้รายใหม่ทั้งหมด
“ในส่วน ศธ.จะฟื้นโครงการหารายได้ระหว่างเรียนขึ้นมาใหม่เพื่อช่วยเหลือนักเรียนให้มีรายได้ รวมถึงจะขอให้หน่วยงานที่มีสถานศึกษาในสังกัด ทั้งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และ สกอ.ไปสำรวจทุนการศึกษาว่ามีจำนวนเท่าไหร่ เพื่อแจ้งให้นักเรียนทราบและจะเชิญชวนให้ภาคเอกชนระดมเงินเพื่อเป็นกองทุนการศึกษาให้กับเด็กอีกช่องทางหนึ่ง”ปลัด ศธ.กล่าว
