เล็งนำเงินหมุนเวียนกยศ. 4-6 พันล้านบาท มาปล่อยกู้เด็กแทนขอจากงบกลาง “จาตุรนต์” หวั่นเงินไม่พอกับความต้องการผู้กู้ ระบุข้อมูลของ ศธ.ไม่ตรงกับข้อมูลกยศ. เร่งเสนอคณะกรรมการกยศ.พิจารณา กลัวเด็กทิ้งการเรียน
วันนี้ (11 มี.ค.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมไม่ได้นำการของบประมาณกลางเพื่อนำมาปล่อยกู้แก่ผู้กู้รายใหม่ของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.) ที่กระทรวงการคลังเสนอเข้าพิจารณาในครม. แต่ตนได้นำเรื่องดังกล่าวไปหารือกับนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รักษาการ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กระทรวงการคลังและผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ซึ่งได้รับการยืนยันว่า กยศ.มีเงินหมุนเวียนในแต่ละปี ประมาณ 4,000-6,000 ล้านบาท ซึ่งถ้านำมาใช้ในการบริหารจัดการน่าจะเพียงพอต่อจำนวนผู้กู้ยืมกยศ.ปีงบประมาณ 2557 ตามเป้าจำนวนผู้กู้ที่กำหนดไว้ได้โดยไม่ต้องเสนอของบประมาณกลาง
ทั้งนี้ ตนได้แจ้งว่าเป้าจำนวนผู้กู้รายใหม่ที่ศธ.ได้ไปสำรวจไม่ตรงกับของ กยศ. โดยจำนวนผู้กู้รายใหม่ ที่ศธ.ไปสำรวจมีประมาณ 151,000 รายและจะต้องใช้งบประมาณเพิ่มอีก 2,243 ล้านบาท ดังนั้น ศธ.มอบปลัดกระทรวงศึกษาธิการ รวบรวมจำนวนผู้กู้ยืมกยศ.เพื่อเสนอให้ทางคณะกรรมการกยศ.ไปพิจารณา แต่ถ้าเกินความสามารถของกยศ. หรือไม่เพียงพอก็จะรวมกันหาทางออกต่อไป
“ผมไม่แน่ใจว่าการแก้ปัญหาโดยใช้วิธีบริหารจัดการเงินหมุนเวียนที่มีอยู่จะสามารถรับมือกับจำนวนนักเรียนนักศึกษาที่ต้องการกู้ยืมได้หรือไม่ แต่เรื่องนี้ ศธ.ก็ต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบ และหาวิธีการ ข้อยุติโดยเร็วที่สุด เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ซึ่งไม่ใช่เป็นเรื่องว่าจะได้ใช้เงินกู้ยืมกยศ.วันไหน เมื่อไหร่ แต่เป็นเรื่องของการตัดสินใจของเด็กว่าจะเรียนต่อหรือไม่ เพราะบางคนพอไม่มีเงินกยศ. พ่อแม่ผู้ปกครองหรือ เด็กเองก็จะตัดสินใจไม่เรียน ไปทำงานเอง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่ออนาคตของพวกเขา เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง”นายจาตุรนต์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในการประชุม ครม.ได้เห็นชอบตามที่ ศธ.เสนอ 3 เรื่อง ได้แก่ 1. การขอความเห็นชอบจัดตั้งมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี และขออนุมัติงบประมาณในการสนับสนุนการดำเนินการจำนวน 20 ล้านบาท ซึ่งครม.รับทราบและเห็นว่าในการจัดตั้งมูลนิธิฯ ดำเนินการได้ทันที รวมถึงอนุมัติงบประมาณในการดำเนินการ 2. เรื่องขออนุมัติงบกลางเงินสำรองจ่ายในกรณีฉุกเฉิก จำนวน 167535300 บาท เพื่อเบิกจ่ายสนับสนุนโรงเรียนอนุบาลทีปังกรรัศมีโชติ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการอนุมัติเงินสนับสนุนไปแล้ว จำนวน 70 ล้าน แต่ต่อมาพบว่าไม่เพียงพอ ครม.จึงได้อนุมัติเพิ่มเติม แต่ต้องรอให้ทางกกต.เห็นชอบ และ 3.เห็นชอบแต่งตั้งแต่งตั้ง นางพรพรรณ ไวทยางกูร เป็นผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตามนัยมาตรา 21 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พ.ศ. 2541 โดยให้มีผลทันที แต่ทั้งนี้ไม่แน่ใจว่าต้องผ่าน กกต.ก่อนหรือไม่
วันนี้ (11 มี.ค.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมไม่ได้นำการของบประมาณกลางเพื่อนำมาปล่อยกู้แก่ผู้กู้รายใหม่ของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.) ที่กระทรวงการคลังเสนอเข้าพิจารณาในครม. แต่ตนได้นำเรื่องดังกล่าวไปหารือกับนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รักษาการ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กระทรวงการคลังและผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ซึ่งได้รับการยืนยันว่า กยศ.มีเงินหมุนเวียนในแต่ละปี ประมาณ 4,000-6,000 ล้านบาท ซึ่งถ้านำมาใช้ในการบริหารจัดการน่าจะเพียงพอต่อจำนวนผู้กู้ยืมกยศ.ปีงบประมาณ 2557 ตามเป้าจำนวนผู้กู้ที่กำหนดไว้ได้โดยไม่ต้องเสนอของบประมาณกลาง
ทั้งนี้ ตนได้แจ้งว่าเป้าจำนวนผู้กู้รายใหม่ที่ศธ.ได้ไปสำรวจไม่ตรงกับของ กยศ. โดยจำนวนผู้กู้รายใหม่ ที่ศธ.ไปสำรวจมีประมาณ 151,000 รายและจะต้องใช้งบประมาณเพิ่มอีก 2,243 ล้านบาท ดังนั้น ศธ.มอบปลัดกระทรวงศึกษาธิการ รวบรวมจำนวนผู้กู้ยืมกยศ.เพื่อเสนอให้ทางคณะกรรมการกยศ.ไปพิจารณา แต่ถ้าเกินความสามารถของกยศ. หรือไม่เพียงพอก็จะรวมกันหาทางออกต่อไป
“ผมไม่แน่ใจว่าการแก้ปัญหาโดยใช้วิธีบริหารจัดการเงินหมุนเวียนที่มีอยู่จะสามารถรับมือกับจำนวนนักเรียนนักศึกษาที่ต้องการกู้ยืมได้หรือไม่ แต่เรื่องนี้ ศธ.ก็ต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบ และหาวิธีการ ข้อยุติโดยเร็วที่สุด เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ซึ่งไม่ใช่เป็นเรื่องว่าจะได้ใช้เงินกู้ยืมกยศ.วันไหน เมื่อไหร่ แต่เป็นเรื่องของการตัดสินใจของเด็กว่าจะเรียนต่อหรือไม่ เพราะบางคนพอไม่มีเงินกยศ. พ่อแม่ผู้ปกครองหรือ เด็กเองก็จะตัดสินใจไม่เรียน ไปทำงานเอง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่ออนาคตของพวกเขา เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง”นายจาตุรนต์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในการประชุม ครม.ได้เห็นชอบตามที่ ศธ.เสนอ 3 เรื่อง ได้แก่ 1. การขอความเห็นชอบจัดตั้งมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี และขออนุมัติงบประมาณในการสนับสนุนการดำเนินการจำนวน 20 ล้านบาท ซึ่งครม.รับทราบและเห็นว่าในการจัดตั้งมูลนิธิฯ ดำเนินการได้ทันที รวมถึงอนุมัติงบประมาณในการดำเนินการ 2. เรื่องขออนุมัติงบกลางเงินสำรองจ่ายในกรณีฉุกเฉิก จำนวน 167535300 บาท เพื่อเบิกจ่ายสนับสนุนโรงเรียนอนุบาลทีปังกรรัศมีโชติ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการอนุมัติเงินสนับสนุนไปแล้ว จำนวน 70 ล้าน แต่ต่อมาพบว่าไม่เพียงพอ ครม.จึงได้อนุมัติเพิ่มเติม แต่ต้องรอให้ทางกกต.เห็นชอบ และ 3.เห็นชอบแต่งตั้งแต่งตั้ง นางพรพรรณ ไวทยางกูร เป็นผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตามนัยมาตรา 21 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พ.ศ. 2541 โดยให้มีผลทันที แต่ทั้งนี้ไม่แน่ใจว่าต้องผ่าน กกต.ก่อนหรือไม่