ศธ.เตรียมเชิญผู้เกี่ยวข้องร่วมวางมาตรการป้องกันอุบัติเหตุ เล็งยกเครื่องระเบียบ ศธ.ใหม่ที่ใช้มาแต่ปี 36 หลังเกิดอุบัติเหตุกับ นร.มาต่อเนื่อง
นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารองค์กรหลัก ศธ.ว่า สืบเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเกิดอุบัติเหตุกับนักเรียน ทั้งกรณีรถบัสทัศนศึกษาชนกับรถพ่วง 18 ล้อ กรณีเด็กจมน้ำเสียชีวิต และล่าสุดกรณีการเผยแพร่ภาพในโซเชียลเน็ตเวิร์ก พบนักเรียนระดับอนุบาล 3 คน ยืนและนั่งทับหางจระเข้แห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งขณะนี้ ศธ.ได้ส่งผู้ตรวจราชการ ศธ.ขึ้นไปตรวจสอบและพูดคุยพร้อมย้ำมาตรการดูแลความปลอดภัยกับผู้บริหารโรงเรียนเอกชน สมาคมโรงเรียนเอกชนในพื้นที่ ทั้งนี้ ที่ประชุมได้เน้นย้ำว่าความปลอดภัยของเด็กและเยาวชนนั้นเป็นเรื่องสำคัญควรจะต้องกำหนดมาตรการที่ชัดเจนและเข้มงวด แม้ที่ผ่านมา ศธ.มีระเบียบ ศธ.ว่าด้วยการควบคุมดูแลการใช้รถโรงเรียน พ.ศ.2536 ออกมาบังคับใช้ ซึ่งทั้งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ก็รายงานว่ามีการกำหนดมาตรการควบคุมด้วย แต่บางครั้งครูที่พานักเรียนไปอาจจะเกิดความประมาทเลินเล่อทำให้เกิดเหตุ ซึ่งก็ดำเนินการว่ากล่าวตักเตือนไป ขณะเดียวกันก็พบว่าบางครั้งโรงเรียนก็ใช้วิธีการเดินทางกลางคืนเพื่อประหยัดงบประมาณ ทั้งที่ในระเบียบก็มีการเน้นย้ำให้หลีกเลี่ยงการเดินทางกลางคืน
อย่างไรก็ตาม ระเบียบดังกล่าวมีการประกาศใช้มานานอาจจะต้องมีการดังนั้นอาจจะต้องมีการทบทวนหรือปรับแก้ไข โดยในสัปดาห์หน้า ศธ.จะจัดประชุมคณะกรรมการดูแลการป้องกันอุบัติภัย พร้อมเชิญผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง อาทิ จากกรมการขนส่งทางบก ร่วมประชุมและดูว่าระเบียบดังกล่าวที่ใช้อยู่นั้นต้องปรับแก้จุดใด จากนั้นจะออกแนวปฏิบัติประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน
นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารองค์กรหลัก ศธ.ว่า สืบเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเกิดอุบัติเหตุกับนักเรียน ทั้งกรณีรถบัสทัศนศึกษาชนกับรถพ่วง 18 ล้อ กรณีเด็กจมน้ำเสียชีวิต และล่าสุดกรณีการเผยแพร่ภาพในโซเชียลเน็ตเวิร์ก พบนักเรียนระดับอนุบาล 3 คน ยืนและนั่งทับหางจระเข้แห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งขณะนี้ ศธ.ได้ส่งผู้ตรวจราชการ ศธ.ขึ้นไปตรวจสอบและพูดคุยพร้อมย้ำมาตรการดูแลความปลอดภัยกับผู้บริหารโรงเรียนเอกชน สมาคมโรงเรียนเอกชนในพื้นที่ ทั้งนี้ ที่ประชุมได้เน้นย้ำว่าความปลอดภัยของเด็กและเยาวชนนั้นเป็นเรื่องสำคัญควรจะต้องกำหนดมาตรการที่ชัดเจนและเข้มงวด แม้ที่ผ่านมา ศธ.มีระเบียบ ศธ.ว่าด้วยการควบคุมดูแลการใช้รถโรงเรียน พ.ศ.2536 ออกมาบังคับใช้ ซึ่งทั้งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ก็รายงานว่ามีการกำหนดมาตรการควบคุมด้วย แต่บางครั้งครูที่พานักเรียนไปอาจจะเกิดความประมาทเลินเล่อทำให้เกิดเหตุ ซึ่งก็ดำเนินการว่ากล่าวตักเตือนไป ขณะเดียวกันก็พบว่าบางครั้งโรงเรียนก็ใช้วิธีการเดินทางกลางคืนเพื่อประหยัดงบประมาณ ทั้งที่ในระเบียบก็มีการเน้นย้ำให้หลีกเลี่ยงการเดินทางกลางคืน
อย่างไรก็ตาม ระเบียบดังกล่าวมีการประกาศใช้มานานอาจจะต้องมีการดังนั้นอาจจะต้องมีการทบทวนหรือปรับแก้ไข โดยในสัปดาห์หน้า ศธ.จะจัดประชุมคณะกรรมการดูแลการป้องกันอุบัติภัย พร้อมเชิญผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง อาทิ จากกรมการขนส่งทางบก ร่วมประชุมและดูว่าระเบียบดังกล่าวที่ใช้อยู่นั้นต้องปรับแก้จุดใด จากนั้นจะออกแนวปฏิบัติประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน
