“กรมศิลป์” บวงสรวงราชรถพระนำ-ราชรถอัญเชิญพระโกศสมเด็จพระสังฆราช เผยราชรถทั้ง 2องค์ใช้อัญเชิญพระศพสังฆราชมาแล้ว 8 พระองค์ คาดบูรณะเสร็จกันยานี้ ใช้งบ 2 ล้านบาท
วันนี้ (6 มี.ค.) เมื่อเวลา 14.09 น. ณโรงเก็บเครื่องราชพิธีฯ สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร จ.นครปฐม นายเอนก สีหามาตย์ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวภายหลังเป็นประธานพิธีบวงสรวงเพื่อการบูรณะซ่อมแซมราชรถพระนำ และราชรถเชิญพระโกศพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก โดยมีพล.ท.เกริกชัย จันทร์สุวานิชย์ เจ้ากรมสรรพาวุธทหารบก ทหารจากกองทัพเรือ เจ้าหน้าที่ช่างร่วมพิธีบวงสรวงจำนวนมาก ว่า คณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระศพสมเด็จพระสังฆราช มอบหมายให้กรมศิลปากรบูรณะซ่อมแซมราชรถพระนำ และราชรถเชิญพระโกศพระศพสมเด็จพระสังฆราช จึงมอบหมายให้สำนักช่างสิบหมู่ ประสานสำนักพระราชวัง เชิญราชรถทั้ง 2 องค์จากที่เก็บรักษา ณ พระราชวังสนามจันทร์ มายังสำนักช่างสิบหมู่ เมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา จึงจัดพิธีบวงสรวงราชรถทั้ง 2องค์ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อยเป็นสิริมงคลและรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีโบราณไว้ โดยมีพระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ เป็นผู้ประกอบพิธี หลังจากนี้ช่างจะเริ่มดำเนินการบูรณะ 8 มี.ค.เป็นต้นไป
การบูรณะซ่อมแซม มี 3 หน่วยงาน คือสำนักช่างสิบหมู่ รับผิดชอบบูรณะซ่อมแซมศิลปกรรมราชรถ เช่น ซ่อมเสริมความมั่นคงแข็งแรงของโครงสร้างไม้ลวดลายแกะสลัก ปิดทองประดับกระจกราชรถใหม่ทั้งหมด กรมสรรพาวุธทหารบก รับผิดชอบบูรณะซ่อมแซมกลไกขับเคลื่อนราชรถ เช่น ล้อ เพลา แหนบ คันบังคับเลี้ยวและซ่อมเสริมความแข็งแรงของส่วนรับน้ำหนักตัวราชรถ เช่น คาน ส่วนกรมอู่ทหารเรือ จัดทำเชือกฉุดชักราชรถ โดยราชรถพระนำ เลขทะเบียน วม.ม. 0289 เป็นราชรถสำหรับพระอ่านพระอภิธรรม นำราชรถเชิญพระโกศในริ้วกระบวนพระอิสริยยศสมเด็จพระสังฆราชไปยังพระเมรุ วัดเทพศิรินทราวาส ส่วนราชรถเชิญพระโกศทะเบียน วม.ม.0290 ใช้สำหรับเทียบม้าหรือคนฉุดชัก ราว 44 คน มีแท่นรองรับพระโกศทำเป็นสี่เหลี่ยม ส่วนหน้าและส่วนท้ายมีเกรินราชรถ สำหรับชาวภูษามาลาขึ้นประคองพระโกศ ใช้สำหรับพระบรมวงศ์ชั้นสมเด็จเจ้าฟ้าและพระสงฆ์ผู้มีสมณศักดิ์
สำหรับราชรถทั้ง 2องค์ ได้สร้างขึ้นสมัยรัชกาลที่ 6 ใช้ในงานพิธีหรือพระราชพิธีที่เกี่ยวข้องกับทางพระพุทธศาสนา เช่น นำอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ จากวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) มายังท้องสนามหนามหลวง และใช้ในกระบวนพระอิสริยยศเชิญพระโกศสมเด็จพระสังฆราชในอดีต ทั้งหมดรวม 8 พระองค์ ตั้งแต่สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 11 สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ ในการพระราชทานเพลิงพระศพ ณ พระเมรุวัดเทพศิรินทราวาส ในรัชกาลที่ 8 และสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ (หม่อมราชวงศ์ชื่น นพวงศ์สุจิตโต) องค์ที่ 13 วัดบวรนิเวศวิหาร ปี 2502 และสมเด็จพระอรินวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสโน) องค์ที่ 18 วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ในรัชกาลที่ 9 ปี 2531 จากการตรวจสอบสภาพของราชรถพระนำนั้น พบว่างอนหัวนาคตรงบันไดบังคับเลี้ยวหักออกจากกัน ธงสามชายเสื่อมสภาพสีจาง แผ่ลวดชำรุด สีทองหมองคล้ำ กระจกประดับลายหลุดร่อน ชุดขับเคลื่อน เช่น เพลา กระดุมล้อต้องเปลี่ยนและเสริมความมั่นคง สำหรับราชรถเชิญพระโกศ สีทองหมองคล้ำ กระจกประดับลวดลายหลุดร่อน ลวดลายไม้แกะสลักในส่วนต่างๆ รอบองค์ราชรถมีรอยแตก บางส่วนหลุดหายไป เช่น กระจังรวน ระบบขับเคลื่อนชำรุดวงล้อรับน้ำหนักรับน้ำหนักไม่แข็งแรงต้องเสริมความมั่นคง
นายเอนก กล่าวว่า การบูรณะราชรถทั้ง 2 องค์ใช้งบ 2 ล้านบาท และคาดว่าจะแล้วเสร็จกันยายนนี้ นอกจากนี้กรมศิลปากรยังได้รับมอบหมายให้ดำเนินการออกแบบซุ้มถวายดอกไม้จันทน์และดำเนินการบูรณะซ่อมแซม “ซ่าง” ที่สำหรับพระสงฆ์นั่งสวดพระอภิธรรม 2 หลัง ณ เมรุพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส โดยมอบหมายให้สำนักสถาปัตยกรรมดำเนินการ ส่วนจัดแสดงมหรสพสมโภช งานออกพระเมรุนั้น สำนักการสังคีต เป็นผู้ดูแล ขณะที่สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ ดำเนินการจัดทำหนังสือจดหมายเหตุงานพระศพฯ ทั้งหมด