เหตุระเบิดงานฉลองอุโบสถวัดบ้านตาแหลว ร้อยเอ็ด ตาย 3 ราย เจ็บ 28 ราย ต้องแอดมิต 10 ราย พบอาการสาหัส 2 ราย มีเลือดและลมในช่องปอด ต้องใส่ท่อระบายออก อีกรายมีเลือดออกในช่องท้อง อยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
วันนี้ (25 ก.พ.) ที่โรงพยาบาลร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิดงานฉลองอุโบสถวัดบ้านตาแหลว ต.นาใหญ่ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด หน้าเวทีหมอลำเมื่อเวลาประมาณ 03.40 น.ระหว่างการตรวจเยี่ยมความคืบหน้าการบริหารจัดการเขตบริการสุขภาพที่ 7 ว่า หลังเกิดเหตุสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ร้อยเอ็ด ได้ระดมทีมแพทย์กู้ชีพชั้นสูง และหน่วยปฏิบัติการขั้นพื้นฐาน จากโรงพยาบาลภายในจังหวัดกว่า 10 ทีม เข้าให้การดูแลช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บอย่างเต็มที่ในที่เกิดเหตุและนำส่งโรงพยาบาล เบื้องต้นเวลา 11.00 น. ได้รับรายงานมีผู้บาดเจ็บจำนวน 28 ราย เสียชีวิต 3 ราย ต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล 10 ราย เป็นชาย 5 ราย หญิง 5 ราย ส่วนใหญ่มีบาดแผลถูกสะเก็ดระเบิดตามร่างกาย แขนขาหัก จำนวนนี้อาการสาหัส 2 ราย รายแรกเป็นชาย อายุ 32 ปี ถูกแรงอัดระเบิด มีเลือดและลมในช่องปอด แพทย์ใส่ท่อระบายออก และใส่เครื่องช่วยหายใจ รู้สึกตัวดี รายที่ 2 เป็นชาย อายุ 35 ปี ถูกแรงอัดระเบิด มีเลือดออกในช่องท้อง แพทย์ส่งตัวเข้าห้องผ่าตัด จากการตรวจเยี่ยมผู้ป่วยมีขวัญกำลังใจดี ซึ่งทีมแพทย์ได้ให้การดูแลเป็นอย่างดี เนื่องจากมีการเตรียมความพร้อมรับเหตุฉุกเฉินไว้ตลอดเวลา
วันนี้ (25 ก.พ.) ที่โรงพยาบาลร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิดงานฉลองอุโบสถวัดบ้านตาแหลว ต.นาใหญ่ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด หน้าเวทีหมอลำเมื่อเวลาประมาณ 03.40 น.ระหว่างการตรวจเยี่ยมความคืบหน้าการบริหารจัดการเขตบริการสุขภาพที่ 7 ว่า หลังเกิดเหตุสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ร้อยเอ็ด ได้ระดมทีมแพทย์กู้ชีพชั้นสูง และหน่วยปฏิบัติการขั้นพื้นฐาน จากโรงพยาบาลภายในจังหวัดกว่า 10 ทีม เข้าให้การดูแลช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บอย่างเต็มที่ในที่เกิดเหตุและนำส่งโรงพยาบาล เบื้องต้นเวลา 11.00 น. ได้รับรายงานมีผู้บาดเจ็บจำนวน 28 ราย เสียชีวิต 3 ราย ต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล 10 ราย เป็นชาย 5 ราย หญิง 5 ราย ส่วนใหญ่มีบาดแผลถูกสะเก็ดระเบิดตามร่างกาย แขนขาหัก จำนวนนี้อาการสาหัส 2 ราย รายแรกเป็นชาย อายุ 32 ปี ถูกแรงอัดระเบิด มีเลือดและลมในช่องปอด แพทย์ใส่ท่อระบายออก และใส่เครื่องช่วยหายใจ รู้สึกตัวดี รายที่ 2 เป็นชาย อายุ 35 ปี ถูกแรงอัดระเบิด มีเลือดออกในช่องท้อง แพทย์ส่งตัวเข้าห้องผ่าตัด จากการตรวจเยี่ยมผู้ป่วยมีขวัญกำลังใจดี ซึ่งทีมแพทย์ได้ให้การดูแลเป็นอย่างดี เนื่องจากมีการเตรียมความพร้อมรับเหตุฉุกเฉินไว้ตลอดเวลา