สธ.โยกทีมกู้ชีพ หลัง กปปส.ยุบเวทีห้าแยกลาดพร้าว อนุสาวรีย์ชัยฯ เข้าประจำจุดสวนลุมพินี ดูแลร่วมสภากาชาดไทย สั่งเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะสำนักงานปลัด ก.กลาโหม ด้านยอดเจ็บตายยังเท่าเดิม
วันนี้ (4 ก.พ.) นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า หลังจากยุบเวทีห้าแยกลาดพร้าวและเวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ไปรวมที่สวนลุมพินีแล้ว สธ.ได้ประชุมร่วมกับศูนย์เอราวัณ กทม.ได้ปรับพื้นที่ดูแลผู้ชุมนุมเล็กน้อย โดยส่วนของ สธ.ได้ปรับจำนวนทีมแพทย์กู้ชีพฉุกเฉินให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยจัดทีมแพทย์ฉุกเฉินชั้นสูงร่วมปฏิบัติงานกับสภากาชาดไทย ไปประจำการที่จุดชุมนุมสวนลุมพินี 1 ทีม และประจำการที่ รพ.สงฆ์ 1 ทีม สำรองที่ รพ.ราชวิถี รพ.เลิดสิน และ รพ.นพรัตนราชธานี แห่งละ 2 ทีม พร้อมออกปฏิบัติการทันทีหากมีสถานการณ์รุนแรง โดยให้ทีมแพทย์ฯ เฝ้าระวังจุดเสี่ยงพื้นที่ชุมนุม สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และตามสถานการณ์ สำหรับในต่างจังหวัดได้กำชับให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงเป็นพิเศษ โดยเฉพาะจุดที่มีการชุมนุมของชาวนาใน 3 จังหวัด ได้แก่ แยกวังมะนาว จ.ราชบุรี พิจิตร และอ่างทอง ให้เตรียมความพร้อมทีมแพทย์ฉุกเฉินชั้นสูงตลอด 24 ชั่วโมง
ด้าน นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัย ด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีชุมนุมทางการเมือง (ส่วนหน้า) สธ. กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงมานี้ ในพื้นที่การชุมนุมใน กทม. ไม่มีผู้บาดเจ็บเพิ่มขึ้น ยอดผู้บาดเจ็บตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย. 2556-4 ก.พ.2557 ผู้บาดเจ็บเท่าเดิมรวม 603 ราย ยังคงนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 15 ราย จำนวนนี้อาการน่าห่วง 2 ราย รายแรกอยู่ที่ รพ.วิภาวดี เป็นชายอายุ 71 ปี ถูกยิงที่แยกหลักสี่ วันที่ 1 ก.พ. กระสุนเข้าต้นคอ ใส่ท่อช่วยหายใจ กระสุนปืนถูกกระดูกต้นคอ ขณะนี้อยู่ในหอไอซียู ใส่เครื่องช่วยหายใจ อีก 1 ราย เป็นหญิง เหตุเกิดในซอยแจ้งวัฒนะ 10 เมื่อช่วงดึกวันที่ 1 ก.พ. ถูกยิงกระสุนปืนเข้าที่ราวนมซ้าย ถูกปอดด้านขวา มีเลือดออกในช่องปอด แพทย์ใส่ท่อระบายเลือดออกจากปอด ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิต 10 รายเท่าเดิม