สธ.จัดทีมกู้ชีพชั้นสูง 12 ทีมประจำหน่วยเลือกตั้งล่วงหน้าดูแลรักษาผู้เจ็บป่วยฉุกเฉินในวันใช้สิทธิ ขณะที่สถานการณ์ชุมนุมการเมืองตลอด 24 ชม.ที่ผ่านมา ไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติ ระบุยอดผู้ป่วยสะสมปะทะตั้งแต่ 30 พ.ย.-ปัจจุบัน จำนวน 564 ราย ยังนอน รพ.17 ราย และตาย 9 ราย ย้ำทีมแพทย์พร้อมให้การดูแล ช่วยเหลือทุกคนอย่างเสมอภาค
วันนี้ (26 ม.ค.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัยด้านการแพทย์และการสาธารณสุข (ส่วนหน้า) ของกระทรวงสาธารณสุข กรณีชุมนุมทางการเมือง ที่ รพ.สงฆ์ กทม. นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวภายหลังประชุมผู้บริหาร ทีมแพทย์กู้ชีพ และเจ้าหน้าที่ เพื่อประเมินสถานการณ์และผลการปฏิบัติงานของทีมแพทย์กู้ชีพในการดูแลผู้บาดเจ็บและเจ็บป่วยฉุกเฉินจากกรณีการชุมนุมทางการเมืองและแผนการจัดบริการดูแลประชาชนในวันใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในวันนี้ ว่า สถานการณ์ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ในพื้นที่ที่มีการชุมนุมทางการเมืองที่อยู่ในความดูแลของกระทรวงสาธารณสุข คือตั้งแต่ห้าแยกลาดพร้าว จนถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติ ไม่มีผู้บาดเจ็บเกิดขึ้น ทั้งนี้ สถานการณ์ผู้บาดเจ็บหลังจากที่มีการชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2556 เป็นต้นมาจนถึงเวลา 10.00 น.ของวันที่ 26 ม.ค.2557 มีผู้บาดเจ็บสะสมรวมทั้งหมด 564 ราย ขณะนี้ยังมีผู้บาดเจ็บพักรักษาตัวในโรงพยาบาล 17 ราย ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตมีทั้งหมด 9 ราย
ขณะเดียวกัน ในจุดที่ให้ประชาชนใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าก็ได้เตรียมแผนปฏิบัติด้านการแพทย์รับมือสถานการณ์ในหลายจุด โดย สธ.ได้จัดทีมแพทย์กู้ชีพชั้นสูง จำนวน 12 ทีม ประกอบด้วยทีมของโรงพยาบาลที่อยู่ใน กทม.8 ทีม จากโรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลเลิดสิน โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี โรงพยาบาลรามาธิบดี และอีก 4 ทีม มาจากโรงพยาบาลภูมิภาค คือโรงพยาบาลจังหวัดชัยภูมิ โรงพยาบาลตราด โรงพยาบาลระนอง และโรงพยาบาลบ้านฉาง จังหวัดระยอง จะกระจายบริการและสนธิกำลังปฏิบัติงานร่วมกับทีมกู้ชีพพื้นฐานจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มูลนิธิร่วมกตัญญู มูลนิธิร่มไทร มูลนิธิสยามรวมใจ และทีมกู้ชีพหงษ์แดง รวมกว่า 40 ทีม ปฏิบัติการในพื้นที่ที่ได้รับมอบหมายจากศูนย์เอราวัณ กรุงเทพมหานคร คือ ที่ห้าแยกลาดพร้าว จนถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เขตดินแดง และโซนพื้นที่ในเขตมีนบุรี หนองจอก คันนายาว บางกะปิ ซึ่งเป็นพื้นที่ในเขตรับผิดชอบของโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี โรงพยาบาลเลิดสิน เเละโรงพยาบาลราชวิถี โดยมีเครือข่ายประสานทำงานร่วมกับศูนย์เอราวัณของ กทม.ตลอด 24 ชั่วโมง
นายแพทย์สุพรรณ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการดูแลรักษาผู้เจ็บป่วย ขณะนี้ สธ.ได้คงความพร้อมโรงพยาบาลในสังกัดกรมการแพทย์ที่อยู่ในพื้นที่ กทม.ทุกแห่งตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งด้านห้องฉุกเฉิน เตียงผู้ป่วย ห้องผ่าตัด แพทย์เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ คลังเลือด เวชภัณฑ์ และได้เตรียมพร้อมโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป ในเขตปริมณฑล เช่น นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม ฉะเชิงเทรา นครนายก สมุทรปราการ เป็นต้น ไว้รองรับผู้เจ็บป่วยด้วย ทุกแห่งพร้อมให้การดูแลช่วยชีวิตประชาชนทุกคนอย่างเต็มที่เสมอภาค ไม่มีการเลือกฝ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
วันนี้ (26 ม.ค.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัยด้านการแพทย์และการสาธารณสุข (ส่วนหน้า) ของกระทรวงสาธารณสุข กรณีชุมนุมทางการเมือง ที่ รพ.สงฆ์ กทม. นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวภายหลังประชุมผู้บริหาร ทีมแพทย์กู้ชีพ และเจ้าหน้าที่ เพื่อประเมินสถานการณ์และผลการปฏิบัติงานของทีมแพทย์กู้ชีพในการดูแลผู้บาดเจ็บและเจ็บป่วยฉุกเฉินจากกรณีการชุมนุมทางการเมืองและแผนการจัดบริการดูแลประชาชนในวันใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในวันนี้ ว่า สถานการณ์ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ในพื้นที่ที่มีการชุมนุมทางการเมืองที่อยู่ในความดูแลของกระทรวงสาธารณสุข คือตั้งแต่ห้าแยกลาดพร้าว จนถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติ ไม่มีผู้บาดเจ็บเกิดขึ้น ทั้งนี้ สถานการณ์ผู้บาดเจ็บหลังจากที่มีการชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2556 เป็นต้นมาจนถึงเวลา 10.00 น.ของวันที่ 26 ม.ค.2557 มีผู้บาดเจ็บสะสมรวมทั้งหมด 564 ราย ขณะนี้ยังมีผู้บาดเจ็บพักรักษาตัวในโรงพยาบาล 17 ราย ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตมีทั้งหมด 9 ราย
ขณะเดียวกัน ในจุดที่ให้ประชาชนใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าก็ได้เตรียมแผนปฏิบัติด้านการแพทย์รับมือสถานการณ์ในหลายจุด โดย สธ.ได้จัดทีมแพทย์กู้ชีพชั้นสูง จำนวน 12 ทีม ประกอบด้วยทีมของโรงพยาบาลที่อยู่ใน กทม.8 ทีม จากโรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลเลิดสิน โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี โรงพยาบาลรามาธิบดี และอีก 4 ทีม มาจากโรงพยาบาลภูมิภาค คือโรงพยาบาลจังหวัดชัยภูมิ โรงพยาบาลตราด โรงพยาบาลระนอง และโรงพยาบาลบ้านฉาง จังหวัดระยอง จะกระจายบริการและสนธิกำลังปฏิบัติงานร่วมกับทีมกู้ชีพพื้นฐานจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มูลนิธิร่วมกตัญญู มูลนิธิร่มไทร มูลนิธิสยามรวมใจ และทีมกู้ชีพหงษ์แดง รวมกว่า 40 ทีม ปฏิบัติการในพื้นที่ที่ได้รับมอบหมายจากศูนย์เอราวัณ กรุงเทพมหานคร คือ ที่ห้าแยกลาดพร้าว จนถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เขตดินแดง และโซนพื้นที่ในเขตมีนบุรี หนองจอก คันนายาว บางกะปิ ซึ่งเป็นพื้นที่ในเขตรับผิดชอบของโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี โรงพยาบาลเลิดสิน เเละโรงพยาบาลราชวิถี โดยมีเครือข่ายประสานทำงานร่วมกับศูนย์เอราวัณของ กทม.ตลอด 24 ชั่วโมง
นายแพทย์สุพรรณ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการดูแลรักษาผู้เจ็บป่วย ขณะนี้ สธ.ได้คงความพร้อมโรงพยาบาลในสังกัดกรมการแพทย์ที่อยู่ในพื้นที่ กทม.ทุกแห่งตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งด้านห้องฉุกเฉิน เตียงผู้ป่วย ห้องผ่าตัด แพทย์เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ คลังเลือด เวชภัณฑ์ และได้เตรียมพร้อมโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป ในเขตปริมณฑล เช่น นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม ฉะเชิงเทรา นครนายก สมุทรปราการ เป็นต้น ไว้รองรับผู้เจ็บป่วยด้วย ทุกแห่งพร้อมให้การดูแลช่วยชีวิตประชาชนทุกคนอย่างเต็มที่เสมอภาค ไม่มีการเลือกฝ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
