กรมควบคุมโรคระบุหวัดนก H7N9 แสบกว่า H5N1 เพราะอยู่ในสัตว์ปีกจะไม่ทำให้สัตว์ปีกตาย แนะเดินทางไปจีนเลี่ยงเข้าตลาดสดที่ขายสัตว์เป็นๆ เผยยังไม่จำเป็นต้องเฝ้าระวังสนามบิน
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า จากการพบการระบาดของโรคไข้หวัดนกชนิด H7N9 ที่ประเทศจีน และล่าสุดพบผู้ป่วยที่ประเทศฮ่องกงนั้น สำหรับความแตกต่างระหว่างไข้หวัดนกชนิด H7N9 และ H5N1 นั้น พบว่า ทั้งสองชนิดมีความรุนแรงใกล้เคียงกัน แต่ความแตกต่าง คือ ไข้หวัดนก H5N1 จะทำให้สัตว์ป่วยและตาย ทำให้สังเกตได้ง่าย ส่วนไข้หวัดนก ชนิด H7N9 เชื้อจะอยู่ในสัตว์ปีก แต่ไม่ทำให้สัตว์ปีกตาย จึงทำให้สังเกตได้ยาก ซึ่งวัฒนธรรมของชาวจีน มักจะนิยมเลือกซื้อไก่ที่ยังเป็นๆ เพื่อนำมาทำอาหาร จึงทำให้ได้รับเชื้อจากสัตว์ที่มีเชื้อเหล่านี้ได้ ซึ่งล่าสุดจากคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) ยังระบุว่า การรักษาทำคล้ายกัน และยังไม่พบการติดต่อจากคนสู่คนในวงกว้าง มีการติดต่อได้ในวงจำกัด โดยพบว่า H5N1 มักจะเกิดในเด็กและคนทั่วไป ส่วน H7N9 มักเกิดในผู้สูงอายุ
นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า จากสถานการณ์การระบาดที่ยังคงพบเพียงในประเทศจีน การแจ้งเตือนประชาชน จะเป็นการแจ้งเตือนหากเดินทางเข้าไปในประเทศจีน ให้หลีกเลี่ยงการเข้าไปในตลาดสดที่มีการขายสัตว์เป็นๆ เพราะเชื้อจะอยู่ในสัตว์และคนขาย และยังไม่จำเป็นต้องเฝ้าระวังที่ท่าอากาศยานเพราะไม่ใช่จุดเสี่ยง อย่างไรก็ตาม กรมควบคุมโรค ได้จัดทำคำแนะนำ เผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์และส่งให้บริษัทท่องเที่ยวที่ต้องเดินทางเข้าไปยังประเทศต่างๆ เพื่อแจ้งเตือนและแนะนำการปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง ซึ่งแต่ละประเทศจะมีความเสี่ยงการเกิดโรคที่แตกต่างกันออกไป โดยผู้ที่ต้องการเดินทางไปยังประเทศต่างๆ สามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์การโรค การปฏิบัติตน และแจ้งเตือน ในเว็บไซต์ของกรมควบคุมโรคได้ ส่วนการเฝ้าระวังการนำเข้าสัตว์นั้นเป็นการจัดการของกรมปศุสัตว์? ซึ่งปัจจุบันมีมาตรการเฝ้าระวังอยู่แล้ว
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า จากการพบการระบาดของโรคไข้หวัดนกชนิด H7N9 ที่ประเทศจีน และล่าสุดพบผู้ป่วยที่ประเทศฮ่องกงนั้น สำหรับความแตกต่างระหว่างไข้หวัดนกชนิด H7N9 และ H5N1 นั้น พบว่า ทั้งสองชนิดมีความรุนแรงใกล้เคียงกัน แต่ความแตกต่าง คือ ไข้หวัดนก H5N1 จะทำให้สัตว์ป่วยและตาย ทำให้สังเกตได้ง่าย ส่วนไข้หวัดนก ชนิด H7N9 เชื้อจะอยู่ในสัตว์ปีก แต่ไม่ทำให้สัตว์ปีกตาย จึงทำให้สังเกตได้ยาก ซึ่งวัฒนธรรมของชาวจีน มักจะนิยมเลือกซื้อไก่ที่ยังเป็นๆ เพื่อนำมาทำอาหาร จึงทำให้ได้รับเชื้อจากสัตว์ที่มีเชื้อเหล่านี้ได้ ซึ่งล่าสุดจากคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) ยังระบุว่า การรักษาทำคล้ายกัน และยังไม่พบการติดต่อจากคนสู่คนในวงกว้าง มีการติดต่อได้ในวงจำกัด โดยพบว่า H5N1 มักจะเกิดในเด็กและคนทั่วไป ส่วน H7N9 มักเกิดในผู้สูงอายุ
นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า จากสถานการณ์การระบาดที่ยังคงพบเพียงในประเทศจีน การแจ้งเตือนประชาชน จะเป็นการแจ้งเตือนหากเดินทางเข้าไปในประเทศจีน ให้หลีกเลี่ยงการเข้าไปในตลาดสดที่มีการขายสัตว์เป็นๆ เพราะเชื้อจะอยู่ในสัตว์และคนขาย และยังไม่จำเป็นต้องเฝ้าระวังที่ท่าอากาศยานเพราะไม่ใช่จุดเสี่ยง อย่างไรก็ตาม กรมควบคุมโรค ได้จัดทำคำแนะนำ เผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์และส่งให้บริษัทท่องเที่ยวที่ต้องเดินทางเข้าไปยังประเทศต่างๆ เพื่อแจ้งเตือนและแนะนำการปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง ซึ่งแต่ละประเทศจะมีความเสี่ยงการเกิดโรคที่แตกต่างกันออกไป โดยผู้ที่ต้องการเดินทางไปยังประเทศต่างๆ สามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์การโรค การปฏิบัติตน และแจ้งเตือน ในเว็บไซต์ของกรมควบคุมโรคได้ ส่วนการเฝ้าระวังการนำเข้าสัตว์นั้นเป็นการจัดการของกรมปศุสัตว์? ซึ่งปัจจุบันมีมาตรการเฝ้าระวังอยู่แล้ว