สปส.เปิดรับสมัครชิงทุนแพทย์ พยาบาล ก.พ.นี้ ตั้งเป้าผลิตบุคลากรการแพทย์รักษาเจ็บป่วยจากการทำงาน
นพ.สุรเดช วลีอิทธิกุล รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงการดำเนินโครงการผลิตแพทย์และพยาบาลด้านอาชีวเวชศาสตร์และอาชีวอนามัย ของกองทุนเงินทดแทนของ สปส.ว่า สปส.ได้ดำเนินโครงการรุ่นแรกโดยให้ทุนแพทย์มาเรียนเฉพาะทางด้านอาชีวเวชศาสตร์จำนวน 6 ทุน เป็นเงินทุนละ 3.3 แสนบาทไปเรียบร้อยแล้ว แต่ในส่วนของทุนพยาบาลเรียนต่อเฉพาะทางด้านอาชีวอนามัย ซึ่งให้จะให้ทุนทั้งหมด 60 ทุน เป็นเงินทุนละ 5 หมื่นบาท แต่ขณะนี้มีพยาบาลที่ผ่านการคัดเลือกและได้รับทุนไปเรียนต่อแล้ว 23 คน ยังเหลืออีก 37 ทุนซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือกพยาบาลผู้ขอรับทุนจะประกาศผลคัดเลือกได้ในวันที่ 25 ม.ค.นี้
รองเลขาธิการ สปส.กล่าวอีกว่า ส่วนการดำเนินโครงการรุ่นที่สองนั้นจะดำเนินการในปีนี้หลังจากคัดเลือกผู้รับทุนพยาบาลในรุ่นแรกได้ครบถ้วนแล้ว ทั้งนี้ คาดว่ารุ่นที่ 2 จะประกาศรับสมัครในช่วงเดือน ก.พ.นี้ ซึ่งกองทุนเงินทดแทนยังคงให้ทุนแพทย์ 6 ทุน เป็นเงินทุนละ 3.3 แสนบาท และพยาบาล 60 ทุน เป็นเงินทุนละ 5 หมื่นบาทโดยมีเงื่อนไขอายุไม่เกิน 55 ปี เป็นบุตรหรือคู่สมรสของลูกจ้างที่เป็นผู้ประกันตนเช่นเดิม โดยแพทย์และพยาบาลที่สนใจจะรับทุนสามารถติดตามดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ของสปส.ที่www.sso.go.th หรือwww.mol.go.th
“เป้าหมายของโครงการนี้กองทุนเงินทดแทนมุ่งให้มีแพทย์ พยาบาลที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการป้องกันและรักษาโรคที่เจ็บป่วยจากการทำงาน เพื่อให้ลูกจ้างเข้าถึงบริการทางการแพทย์และได้รับการส่งเสริมสุขภาพ คำแนะนำในการป้องกันโรคหรืออันตรายจากการทำงานได้อย่างถูกต้องโดยโรงพยาบาลที่มีแพทย์หรือพยาบาลที่ได้รับทุนโครงการฯ จะต้องให้การรักษาและคำแนะนำการดูแลสุขภาพแก่ลูกจ้างที่บาดเจ็บหรือเจ็บป่วยจากการทำงาน หากสามารถจะจัดตั้งคลินิกรักษาโรคเจ็บป่วยจากการทำงานขึ้นมาได้ สปส.ก็พร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่”นพ.สุรเดชกล่าว
นพ.สุรเดช วลีอิทธิกุล รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงการดำเนินโครงการผลิตแพทย์และพยาบาลด้านอาชีวเวชศาสตร์และอาชีวอนามัย ของกองทุนเงินทดแทนของ สปส.ว่า สปส.ได้ดำเนินโครงการรุ่นแรกโดยให้ทุนแพทย์มาเรียนเฉพาะทางด้านอาชีวเวชศาสตร์จำนวน 6 ทุน เป็นเงินทุนละ 3.3 แสนบาทไปเรียบร้อยแล้ว แต่ในส่วนของทุนพยาบาลเรียนต่อเฉพาะทางด้านอาชีวอนามัย ซึ่งให้จะให้ทุนทั้งหมด 60 ทุน เป็นเงินทุนละ 5 หมื่นบาท แต่ขณะนี้มีพยาบาลที่ผ่านการคัดเลือกและได้รับทุนไปเรียนต่อแล้ว 23 คน ยังเหลืออีก 37 ทุนซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือกพยาบาลผู้ขอรับทุนจะประกาศผลคัดเลือกได้ในวันที่ 25 ม.ค.นี้
รองเลขาธิการ สปส.กล่าวอีกว่า ส่วนการดำเนินโครงการรุ่นที่สองนั้นจะดำเนินการในปีนี้หลังจากคัดเลือกผู้รับทุนพยาบาลในรุ่นแรกได้ครบถ้วนแล้ว ทั้งนี้ คาดว่ารุ่นที่ 2 จะประกาศรับสมัครในช่วงเดือน ก.พ.นี้ ซึ่งกองทุนเงินทดแทนยังคงให้ทุนแพทย์ 6 ทุน เป็นเงินทุนละ 3.3 แสนบาท และพยาบาล 60 ทุน เป็นเงินทุนละ 5 หมื่นบาทโดยมีเงื่อนไขอายุไม่เกิน 55 ปี เป็นบุตรหรือคู่สมรสของลูกจ้างที่เป็นผู้ประกันตนเช่นเดิม โดยแพทย์และพยาบาลที่สนใจจะรับทุนสามารถติดตามดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ของสปส.ที่www.sso.go.th หรือwww.mol.go.th
“เป้าหมายของโครงการนี้กองทุนเงินทดแทนมุ่งให้มีแพทย์ พยาบาลที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการป้องกันและรักษาโรคที่เจ็บป่วยจากการทำงาน เพื่อให้ลูกจ้างเข้าถึงบริการทางการแพทย์และได้รับการส่งเสริมสุขภาพ คำแนะนำในการป้องกันโรคหรืออันตรายจากการทำงานได้อย่างถูกต้องโดยโรงพยาบาลที่มีแพทย์หรือพยาบาลที่ได้รับทุนโครงการฯ จะต้องให้การรักษาและคำแนะนำการดูแลสุขภาพแก่ลูกจ้างที่บาดเจ็บหรือเจ็บป่วยจากการทำงาน หากสามารถจะจัดตั้งคลินิกรักษาโรคเจ็บป่วยจากการทำงานขึ้นมาได้ สปส.ก็พร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่”นพ.สุรเดชกล่าว
