“หมอประดิษฐ” วอนผู้ชุมนุมคุยกับรัฐบาล ชี้ทางออก “เทพเทือก” เป็นไปไม่ได้ ยกคำพูดชาวเขาเหน็บต้องมาคุยภาษาคน อย่าคุยภาษาผีคนจะเจ็บตาย ระบุมวลชนออกมามากทั้งสองฝ่ายเป็นการกดดัน ทำสติปัญญาการเจรจาไม่มี
วันนี้ (4 ธ.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางเข้าเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ปะทะบริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล โดยมี นพ.ชัยวัน เจริญโชคทวี คณบดีคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช พาเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บ ว่า จุดประสงค์การมาเยี่ยมในครั้งนี้ เพราะรัฐบาลและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อยากให้มาแสดงความเสียใจต่อผู้บาดเจ็บทุกคนว่า รัฐบาลเสียใจและไม่สบายที่ทุกคนต้องบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และอยากส่งข้อความถึงทุกคนว่ารัฐบาลต้องการอยู่อย่างปรองดองและสันติ หากมีอะไรมาคุยกันได้เพื่อให้เกิดทางออกต่อสังคม นายกฯก็ยินดีที่จะทำในเรื่องนี้
“สังคมตอนนี้ใช้ความรู้สึกมาตัดสินก็จะละทิ้งด้วยเหตุผล เราจะต้องมาคุยกันก่อน แต่ทางออกที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เสนอนั้นเป็นไปไม่ได้ หากประชาชนต้องการทางออกที่เป็นไปได้ก็ต้องมาคุยกันด้วยเหตุผล หากใช้อารมณ์ก็จะไม่จบ ผมเคยดูการสัมภาษณ์ชาวเขา เขาบอกว่าที่บ้านถ้าคุยด้วยภาษาชาวบ้าน หรือภาษาคนเจรจาในขอบเขตตามความเชื่อก็จบ ถ้าเมื่อไรล้ำเขตความเชื่อวัฒนธรรมก็จะกลายเป็นภาษาผี เกิดการบาดเจ็บล้มตายกัน ขณะนี้เราต้องคุยภาษาคนกัน อย่าล้ำเส้นตรงนั้น และคุยด้วยสันติวิธี การที่เอาคนออกมากันเยอะๆ ทั้งสองฝ่ายก็เป็นการกดดัน ก็จะทำให้สติปัญญาที่จะคุยไม่มี” รมว.สาธารณสุข กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงแผนปฏิบัติการในัวันที่ 6 ธ.ค. นพ.ประดิษฐ กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ก็เบาลง แต่จะยังคงตามแผนเดิมเอาไว้ทุกอย่าง ส่วนกรณีที่แพทย์ชนบทนำรถพยาบาลเข้ามาช่วยเสริมนั้น ก็ต้องไปคุยกับทีมแพทย์สนาม เพราะเขาทำมาก่อน การจะเข้าไปจัดการเองนั้นอาจจะทำให้คนทำงานไม่พอใจได้ ที่สำคัญหากทีมแพทย์ที่จะเข้ามาก็ควรที่จะต้องมาอยู่ทีมเสริมที่ รพ.สงฆ์ก่อน เพื่อเตรียมในกรณีมีการเจ็บป่วยรุนแรงที่ต้องการทีมดูแลที่มากกว่าทีมพื้นฐาน การส่งทีมแพทย์เข้าไปเยอะๆ ขณะที่ รพ.สนามมีพื้นที่จำกัดก็จะเป็นอุปสรรคมากกว่า ซึ่งที่ผ่านมาเราทำงานใกล้ชิด รพ.สนามมาตลอด ทั้งการส่งยา เวชภัณฑ์ และน้ำเกลือต่างๆ ให้ รวมทั้งเน้นทีมเคลื่อนย้านผู้ป่วย รถพยาบาลกู้ชีพ เพื่อนำไปส่งโรงพยาบาลก็จะปลอดภัยกว่า
ด้าน นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ.ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมศูนย์บัญชาการการแพทย์กระทรวงสาธารณสุขส่วนหน้า ว่า จากการประเมินสถานการณ์ความรุนแรงนั้น เบื้องต้นจะให้มีทีมเตรียมความพร้อมเข้าช่วยเหลือหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินก็สามารถเข้าช่วยเหลือได้ทันทีนั้นจำนวน 8 ทีม ส่วนที่เหลืออีก 32 ทีมเช่นทีมจากต่างจังหวัดก็จะให้กลับไปเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ที่บ้านแทน ส่วนทางศูนย์บัญชาการฯก็จะยังคงมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมที่เหลือตลอดเวลาเหมือนเดิมในรูปแบบของหน่วยเอราวัณ สำหรับสิ่งที่จะต้องทำต่อไปคือการส่งทีมสุขภาพจิตเข้าไปดูแลกลุ่มผู้ชุมนุม อย่างไรก็ตามกรณีที่พบโครงกระดูกถูกเผาอยู่ในรถบัสนั้นขณะนี้กำลังรอผลตรวจทางนิติเวชจากสถาบันนิติเวชอีกครั้ง นอกจากนี้ในส่วนของศูนย์บัญชาการการแพทย์กระทรวงสาธารณสุขที่โรงพยาบาลสงฆ์ก็จะยังคงมีเหมือนเดิม และในอนาคตอาจตั้งโรงพยาบาลสงฆ์เป็นศูนย์บัญชาการการแพทย์กระทรวงสาธารณสุขรองรับกรณีเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองหรือเหตุการณ์ชุมนุมต่างๆ ด้วย
ด้านชมรมแพทย์ชนบท เผยแพร่ข้อความให้ความเห็นกรณี นพงประดิษฐ ระบุใช้ให้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ สรุปใจความได้ว่า นพ.ประดิษฐ เป็นโมฆะบุรุษ และหมดจากความเป็นผู้นำของบุคลากรเครือข่ายโรงพยาบาลชุมชน (รพช.) แล้ว และไม่มีใครอยากคุยด้วยเหตุผลกับ นพ.ประดิษฐ เพราะเป็นผี เนื่องจากแพทย์ชนบททำการเผาไปแล้วสองครั้ง การมาเรียกร้องให้เจรจานั้น ขอให้รู้ไว้ว่า นพ.ประดิษฐ เคยเจรจากับแพทย์ชนบทมาแล้วที่ทำเนียบรัฐบาล แต่ไม่ทำตามผลการเจรจาใดๆ แล้วจะให้ประชาชนเชื่อได้อย่างไร ส่วนการมาเยี่ยมผู้ป่วยเป็นเพียงการสร้างภาพ แต่เบื้องหลังสั่งไม่ให้ไปช่วยผู้ชุมนุม ไม่ให้น้ำเกลือ อย่าตระบัดสัตย์ต่อหน้าสาธารณชน ต้องไล่ นพ.ประดิษฐ ออกไปจากระบบสุขภาพ เพราะมีแต่ทำให้ถดถอย