เครือข่ายสันติภาวนา ออกแถลงการณ์ไม่ยอมรับการใช้ความรุนแรงต่อผูชุมนุมทางการเมืองทุกกลุ่ม จี้รัฐบาลปู ต้องไม่ออกคำสั่งให้มีการปราบปรามผู้ชุมนุม แกนนำทุกฝ่ายต้องไม่ยั่วยุ ขออย่าให้มีการทำลายหรือปกปิดกล้องซีซีทีวี และวอนเปิดทางแพทย์พยาบาลเพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
วันนี้ (30 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครือข่ายสันติภาวนา ได้ออกแถลงการณ์ไม่ยอมรับการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบต่อผู้ชุมนุมทางการเมือง มีใจความโดยสรุปดังนี้ 1.ฝ่ายรัฐบาลโดย ฯพณฯ ท่านนายกรัฐมนตรี และผู้ใต้บังคับบัญชา ต้องไม่ออกคำสั่งควบคุมฝูงชนหรือมิให้มีการปราบปรามการชุมนุมของประชาชน โดยเจ้าหน้าที่ที่ติดอาวุธหรืออุปกรณ์คุมฝูงชนทุกชนิด รวมทั้งกลุ่ม นปช.ที่อาจก่อให้เกิดปะทะ อันตรายต่อสุขภาพ การบาดเจ็บ และเสียชีวิตได้ (แม้ว่าจะได้ประกาศที่จะปฏิบัติการตามขั้นตอนของนานาอารยะประเทศก็ตาม)
2.ฝ่ายผู้นำการชุมนุม พร้อมทั้งแกนนำต้องไม่ยั่วยุผู้ชุมนุมและฝ่ายตรงข้าม ทั้งด้วยทีท่าและวาจาที่ก่อให้เกิดการใช้ความรุนแรงต่อกัน รวมถึงไม่ให้เกิดการทำลายทรัพย์สินของทางราชการและเอกชน 3.ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายผู้ชุมนุมต้องจัดเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย บริเวณนอกเขตการชุมนุมของประชาชน และนอกเขตแนวกั้นของฝ่ายเจ้าหน้าที่ โดยทั้งฝ่ายเจ้าหน้าที่และฝ่ายดูแลความปลอดภัยของผู้ชุมนุมในแต่ละจุดต้องมีผู้ประสานงานและทำความรู้จักกันและกันไว้ด้วย เพื่อมิให้มือที่สามฉวยโอกาสสร้างสถานการณ์ ที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดจนเป็นชนวนสู่ความรุนแรง 4.ขอให้ทุกฝ่ายปกป้องและแก้ไขโดยเร่งด่วน มิให้มีการทำลายหรือปกปิดกล้องวงจรปิด (CCTV) ทุกพื้นที่ในกรุงเทพและปริมณฑล และ 5.ในกรณีที่เกิดความรุนแรงขึ้นทั้งสองฝ่ายต้องอนุญาตให้หน่วยแพทย์ พยาบาล ตลอดจนหน่วยงานของกาชาดสากลสามารถเข้าปฏิบัติหน้าที่ด้านมนุษยธรรมได้โดยสะดวกในทันที
นางทิชา ณ นคร ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนบ้านกาญจนาภิเษก หนึ่งในผู้ร่วมลงนามแถลงการณ์ดังกล่าว กล่าวว่า ขอให้ทุกคนอดทนอดกลั้นและพากันก้าวข้ามความรุนแรงไปให้ได้ พัฒนาการประชาธิปไตยของประเทศไทยไม่จาเป็นต้องจ่ายด้วยเลือดเนื้อชีวิตของมวลชนอีกแล้ว การแสดงออกตามสิทธิ เสรีภาพ และหน้าที่ของพลเมืองผู้รักความเป็นธรรม คือ เรื่องปกติของระบอบประชาธิปไตย ที่เราควรร่วมกันก้าวข้ามไปให้ได้
สำหรับผู้ร่วมลงนามในแถลงการณ์ ประกอบด้วย นางเตือนใจ ดีเทศน์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา นางทิชา ณ นคร นพ.พลเดช ปิ่นประทีป สถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา LDI นายเอนก นาคะบุตร ประธานมูลนิธิชุมชนท้องถิ่นพัฒนา นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา”35 นิศานาถ รัตนนาคินทร์ เตชิต ชาวบางพรหม เครือข่ายคนรุ่นใหม่หัวใจพลเมือง ฉัฐสัตสิงห์ คีฟเลอร์ อาสาสมัครอิสระเพื่อมนุษยธรรมและสิทธิมนุษยชน ดร.เดชรัตน์ สุขกาเนิด อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน อัญชัน แกมเชย ผู้จัดการบางกอกฟอรั่ม จอมขวัญ โยธาสมุทร ดร.สุธาดา เมฆรุ่งเรือง อาจารย์ประจาศูนย์อาเซียนและเอเชียศึกษาสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) นพ.จุมพล พรรณเชษฐ์ ดร.จรรยา พุคยาภรณ์ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยศรีปทุม สมบุญ สีคาดอกแค สภาเครือข่ายกลุ่มผู้ป่วยจากการทางานและสิ่งแวดล้อมแห่งประเทศไทย นัยนา หวายคา มูลนิธิพัฒนาภาคเหนือ เชษฐา มั่นคง เครือข่ายคณะทางานด้านเด็ก และสมลักษณ์ หุตานุวัตร อาสาสมัครอิสระเพื่อมนุษยธรรมและสิทธิมนุษยชน
วันนี้ (30 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครือข่ายสันติภาวนา ได้ออกแถลงการณ์ไม่ยอมรับการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบต่อผู้ชุมนุมทางการเมือง มีใจความโดยสรุปดังนี้ 1.ฝ่ายรัฐบาลโดย ฯพณฯ ท่านนายกรัฐมนตรี และผู้ใต้บังคับบัญชา ต้องไม่ออกคำสั่งควบคุมฝูงชนหรือมิให้มีการปราบปรามการชุมนุมของประชาชน โดยเจ้าหน้าที่ที่ติดอาวุธหรืออุปกรณ์คุมฝูงชนทุกชนิด รวมทั้งกลุ่ม นปช.ที่อาจก่อให้เกิดปะทะ อันตรายต่อสุขภาพ การบาดเจ็บ และเสียชีวิตได้ (แม้ว่าจะได้ประกาศที่จะปฏิบัติการตามขั้นตอนของนานาอารยะประเทศก็ตาม)
2.ฝ่ายผู้นำการชุมนุม พร้อมทั้งแกนนำต้องไม่ยั่วยุผู้ชุมนุมและฝ่ายตรงข้าม ทั้งด้วยทีท่าและวาจาที่ก่อให้เกิดการใช้ความรุนแรงต่อกัน รวมถึงไม่ให้เกิดการทำลายทรัพย์สินของทางราชการและเอกชน 3.ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายผู้ชุมนุมต้องจัดเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย บริเวณนอกเขตการชุมนุมของประชาชน และนอกเขตแนวกั้นของฝ่ายเจ้าหน้าที่ โดยทั้งฝ่ายเจ้าหน้าที่และฝ่ายดูแลความปลอดภัยของผู้ชุมนุมในแต่ละจุดต้องมีผู้ประสานงานและทำความรู้จักกันและกันไว้ด้วย เพื่อมิให้มือที่สามฉวยโอกาสสร้างสถานการณ์ ที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดจนเป็นชนวนสู่ความรุนแรง 4.ขอให้ทุกฝ่ายปกป้องและแก้ไขโดยเร่งด่วน มิให้มีการทำลายหรือปกปิดกล้องวงจรปิด (CCTV) ทุกพื้นที่ในกรุงเทพและปริมณฑล และ 5.ในกรณีที่เกิดความรุนแรงขึ้นทั้งสองฝ่ายต้องอนุญาตให้หน่วยแพทย์ พยาบาล ตลอดจนหน่วยงานของกาชาดสากลสามารถเข้าปฏิบัติหน้าที่ด้านมนุษยธรรมได้โดยสะดวกในทันที
นางทิชา ณ นคร ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนบ้านกาญจนาภิเษก หนึ่งในผู้ร่วมลงนามแถลงการณ์ดังกล่าว กล่าวว่า ขอให้ทุกคนอดทนอดกลั้นและพากันก้าวข้ามความรุนแรงไปให้ได้ พัฒนาการประชาธิปไตยของประเทศไทยไม่จาเป็นต้องจ่ายด้วยเลือดเนื้อชีวิตของมวลชนอีกแล้ว การแสดงออกตามสิทธิ เสรีภาพ และหน้าที่ของพลเมืองผู้รักความเป็นธรรม คือ เรื่องปกติของระบอบประชาธิปไตย ที่เราควรร่วมกันก้าวข้ามไปให้ได้
สำหรับผู้ร่วมลงนามในแถลงการณ์ ประกอบด้วย นางเตือนใจ ดีเทศน์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา นางทิชา ณ นคร นพ.พลเดช ปิ่นประทีป สถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา LDI นายเอนก นาคะบุตร ประธานมูลนิธิชุมชนท้องถิ่นพัฒนา นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา”35 นิศานาถ รัตนนาคินทร์ เตชิต ชาวบางพรหม เครือข่ายคนรุ่นใหม่หัวใจพลเมือง ฉัฐสัตสิงห์ คีฟเลอร์ อาสาสมัครอิสระเพื่อมนุษยธรรมและสิทธิมนุษยชน ดร.เดชรัตน์ สุขกาเนิด อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน อัญชัน แกมเชย ผู้จัดการบางกอกฟอรั่ม จอมขวัญ โยธาสมุทร ดร.สุธาดา เมฆรุ่งเรือง อาจารย์ประจาศูนย์อาเซียนและเอเชียศึกษาสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) นพ.จุมพล พรรณเชษฐ์ ดร.จรรยา พุคยาภรณ์ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยศรีปทุม สมบุญ สีคาดอกแค สภาเครือข่ายกลุ่มผู้ป่วยจากการทางานและสิ่งแวดล้อมแห่งประเทศไทย นัยนา หวายคา มูลนิธิพัฒนาภาคเหนือ เชษฐา มั่นคง เครือข่ายคณะทางานด้านเด็ก และสมลักษณ์ หุตานุวัตร อาสาสมัครอิสระเพื่อมนุษยธรรมและสิทธิมนุษยชน