ร.ร.จ่านกร้อง สุดเจ๋ง! คว้ารางวัลชนะเลิศประกวดสื่อสิทธิเด็กอาเซียนของประเทศไทย พร้อมแนะอยากให้เยาวชนไทยสนใจเรื่องอาเซียนมากขึ้น ระบุไม่ใช่เรื่องไกลตัว
วันนี้ (20 พ.ย.) ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นางปวีณา หงสกุล รมว.พม.กล่าวระหว่างเป็นประธานในพิธีมอบรางวัลประกวดสื่อสิทธิเด็กอาเซียนของประเทศไทย ว่า การประกวดสื่อสิทธิเด็กอาเซียนของประเทศไทยในครั้งนี้เป็นกิจกรรมภายใต้การประชุมเด็กอาซียน ซึ่งประเทศสมาชิกจะเวียนกันเป็นเจ้าภาพจัดงานทุกๆ 2 ปี การจัดงานดังกล่าวมุ่งเน้นสร้างช่องทางการสื่อสาร ให้เด็กกล้าคิด กล้าแสดงออก มีทักษะการเป็นผู้นำ และการทำงานเป็นทีม โดยทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศรางวัลที่ 1 ชื่อทีมข้าวต้มหมู ชื่อผลงาน Unkhow ไม่รู้จักฉันไม่รู้จักเธอ จากโรงเรียนจ่านกร้อง จ.พิษณุโลก สมาชิกในทีมประกอบไปด้วย ด.ญ.พรนภา เจริญสุข ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ด.ญ.ธมลวรรณ จงปรีเปรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และนางสาวกนกวรรณ โพธิ์ทอง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ด.ญ.ธมลวรรณ กล่าวว่า ได้แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานมาจากมุมมองเกี่ยวกับประชาคมอาเซียนที่มาถึงในอีก 2 ปีข้างหน้า โดยเนื้อหาในเรื่องจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการเข้ามาของอาเซียนจะทำให้เกิดอาชีพและการเปลี่ยนแปลง การใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร และวัฒนธรรมในแต่ละประเทศ ซึ่งมีตัวการ์ตูนหลักของเรื่องชื่อ “สมชาย” เป็นตัวดำเนินเรื่อง ทั้งนี้ทีมของตนได้ใช้เวลารวบรวมข้อมูลทั้งหมด 3 วัน และสำหรับการวาดตัวการ์ตูนนั้นจะใช้เวลา 1 เดือน
“หนูคิดว่าเด็กเยาวชนไม่ค่อยให้ความสนใจเรื่องการเปิดประชาคมอาเซียน และไม่เข้าใจหากเปิดอาเซียนชีวิตจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร และยังคงมองว่าอาเซียนเป็นเรื่องไกลตัว” ด.ญ.ธมลวรรณ กล่าว
ด้าน นางสาวกนกวรรณ กล่าวว่า อาเซียนเป็นเรื่องที่สำคัญกับตัวเองมาก เพราะในอนาคตจะต้องคิดว่าต่อไปชีวิตจะดำเนินไปในรูปแบบใด เมื่อเข้ามหาวิทยาลัยจะเลือกเรียนต่อด้านใด เพราะหากยังมองว่าอาเซียนเป็นเรื่องไกลตัวเราอาจจะถูกแย่งอาชีพได้
ด.ญ.พรนภา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนมองว่าอาเซียนเป็นเรื่องไกลตัวตนไม่ได้ให้ความสนใจ แต่ทางโรงเรียนได้มีการนำเอาความรู้เรื่องการเปิดประชาคมอาเซียนมาสอน จึงทำให้ตนสนใจและติดตาม และทำให้ได้เรียนรู้ว่าหากจะต้องทำตัวอย่างไรเมื่อวันนั้นมาถึง และตนก็ศึกษาเรื่องดังกล่าวมาโดยตลอด
ด้าน นางสาวกัลยา รจิตรังสรรค์ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนจ่านกร้อง กล่าวว่า ในการส่งผลงานเข้าประกวดครั้งนี้ตนในฐานะที่เป็นอาจารย์ได้เข้าไปมีบทบาทในส่วนของการช่วยให้เด็กได้คิดว่าการเปิดอาเซียนมีความสำคัญอย่างไร และสอนให้เด็กหาข้อมูลในเชิงลึกก่อนที่จะนำมาสร้างเป็นการ์ตูน
ทั้งนี้ ตนมีความเห็นว่าหากประเทศไทยเข้าสู่ประชาคมอาเซียนแล้วเด็กจะต้องมีความสามารถในด้านภาษาที่เพียงพอ เพราะหากไม่อย่างนั้นก็จะถูกชาติอื่นเข้ามาแทนที่ ในส่วนของโรงเรียนเองได้มีการส่งเสริมให้เด็กได้เรียนรู้มากโดยการพยายามหาสื่อที่เกี่ยวกับอาเซียนไปนำเสนอ รวมถึงการบรรจุวิชาอาเซียนศึกษาเข้าไปเป็นวิชาเรียนด้วย ตนเชื่อว่าหากวันนั้นมาถึงเด็กๆ ไทยจะต้องปรับตัวให้เข้าสถานการณ์ และเรียนวิชาภาษาอังกฤษเพิ่มมากขึ้น หาความรู้และมองโลกให้กว้างขึ้น อย่างไรก็ตามในการประกวดผลงานครั้งนี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เด็กได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ นอกจากการที่เป็นผู้รับอย่างเดียวเด็กยังจะได้เป็นผู้บอกเล่าเรื่องราวไปให้คนอื่นๆ ฟังด้วย สำหรับช่องทางการติดตามผลงานสามารถรับชมได้ทาง WWW.ASEAN4YOU.ORG
วันนี้ (20 พ.ย.) ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นางปวีณา หงสกุล รมว.พม.กล่าวระหว่างเป็นประธานในพิธีมอบรางวัลประกวดสื่อสิทธิเด็กอาเซียนของประเทศไทย ว่า การประกวดสื่อสิทธิเด็กอาเซียนของประเทศไทยในครั้งนี้เป็นกิจกรรมภายใต้การประชุมเด็กอาซียน ซึ่งประเทศสมาชิกจะเวียนกันเป็นเจ้าภาพจัดงานทุกๆ 2 ปี การจัดงานดังกล่าวมุ่งเน้นสร้างช่องทางการสื่อสาร ให้เด็กกล้าคิด กล้าแสดงออก มีทักษะการเป็นผู้นำ และการทำงานเป็นทีม โดยทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศรางวัลที่ 1 ชื่อทีมข้าวต้มหมู ชื่อผลงาน Unkhow ไม่รู้จักฉันไม่รู้จักเธอ จากโรงเรียนจ่านกร้อง จ.พิษณุโลก สมาชิกในทีมประกอบไปด้วย ด.ญ.พรนภา เจริญสุข ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ด.ญ.ธมลวรรณ จงปรีเปรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และนางสาวกนกวรรณ โพธิ์ทอง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ด.ญ.ธมลวรรณ กล่าวว่า ได้แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานมาจากมุมมองเกี่ยวกับประชาคมอาเซียนที่มาถึงในอีก 2 ปีข้างหน้า โดยเนื้อหาในเรื่องจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการเข้ามาของอาเซียนจะทำให้เกิดอาชีพและการเปลี่ยนแปลง การใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร และวัฒนธรรมในแต่ละประเทศ ซึ่งมีตัวการ์ตูนหลักของเรื่องชื่อ “สมชาย” เป็นตัวดำเนินเรื่อง ทั้งนี้ทีมของตนได้ใช้เวลารวบรวมข้อมูลทั้งหมด 3 วัน และสำหรับการวาดตัวการ์ตูนนั้นจะใช้เวลา 1 เดือน
“หนูคิดว่าเด็กเยาวชนไม่ค่อยให้ความสนใจเรื่องการเปิดประชาคมอาเซียน และไม่เข้าใจหากเปิดอาเซียนชีวิตจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร และยังคงมองว่าอาเซียนเป็นเรื่องไกลตัว” ด.ญ.ธมลวรรณ กล่าว
ด้าน นางสาวกนกวรรณ กล่าวว่า อาเซียนเป็นเรื่องที่สำคัญกับตัวเองมาก เพราะในอนาคตจะต้องคิดว่าต่อไปชีวิตจะดำเนินไปในรูปแบบใด เมื่อเข้ามหาวิทยาลัยจะเลือกเรียนต่อด้านใด เพราะหากยังมองว่าอาเซียนเป็นเรื่องไกลตัวเราอาจจะถูกแย่งอาชีพได้
ด.ญ.พรนภา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนมองว่าอาเซียนเป็นเรื่องไกลตัวตนไม่ได้ให้ความสนใจ แต่ทางโรงเรียนได้มีการนำเอาความรู้เรื่องการเปิดประชาคมอาเซียนมาสอน จึงทำให้ตนสนใจและติดตาม และทำให้ได้เรียนรู้ว่าหากจะต้องทำตัวอย่างไรเมื่อวันนั้นมาถึง และตนก็ศึกษาเรื่องดังกล่าวมาโดยตลอด
ด้าน นางสาวกัลยา รจิตรังสรรค์ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนจ่านกร้อง กล่าวว่า ในการส่งผลงานเข้าประกวดครั้งนี้ตนในฐานะที่เป็นอาจารย์ได้เข้าไปมีบทบาทในส่วนของการช่วยให้เด็กได้คิดว่าการเปิดอาเซียนมีความสำคัญอย่างไร และสอนให้เด็กหาข้อมูลในเชิงลึกก่อนที่จะนำมาสร้างเป็นการ์ตูน
ทั้งนี้ ตนมีความเห็นว่าหากประเทศไทยเข้าสู่ประชาคมอาเซียนแล้วเด็กจะต้องมีความสามารถในด้านภาษาที่เพียงพอ เพราะหากไม่อย่างนั้นก็จะถูกชาติอื่นเข้ามาแทนที่ ในส่วนของโรงเรียนเองได้มีการส่งเสริมให้เด็กได้เรียนรู้มากโดยการพยายามหาสื่อที่เกี่ยวกับอาเซียนไปนำเสนอ รวมถึงการบรรจุวิชาอาเซียนศึกษาเข้าไปเป็นวิชาเรียนด้วย ตนเชื่อว่าหากวันนั้นมาถึงเด็กๆ ไทยจะต้องปรับตัวให้เข้าสถานการณ์ และเรียนวิชาภาษาอังกฤษเพิ่มมากขึ้น หาความรู้และมองโลกให้กว้างขึ้น อย่างไรก็ตามในการประกวดผลงานครั้งนี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เด็กได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ นอกจากการที่เป็นผู้รับอย่างเดียวเด็กยังจะได้เป็นผู้บอกเล่าเรื่องราวไปให้คนอื่นๆ ฟังด้วย สำหรับช่องทางการติดตามผลงานสามารถรับชมได้ทาง WWW.ASEAN4YOU.ORG