xs
xsm
sm
md
lg

ภัยเงียบ... โรคเบาหวาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รศ.พญ.สุภาวดี ลิขิตมาศกุล
ประธานศูนย์เบาหวานศิริราช




เชื่อมั้ย โรคเบาหวานเป็นได้ทุกเพศ ทุกวัย
เบาหวาน เป็นโรคเรื้อรังทางสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศ เนื่องจากมีจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปี และมีเพียงร้อยละ 50 ของผู้ป่วยเบาหวานที่ได้รับการตรวจวินิจฉัย

จากข้อมูลล่าสุดของสหพันธ์เบาหวานนานาชาติ พบว่า จำนวนผู้ป่วยเบาหวานทั่วโลกยังเพิ่มขึ้น ขณะนี้ทั่วโลกมีผู้ป่วยเบาหวานมากกว่า 371 ล้านคน รวมถึงประเทศไทย และที่โรงพยาบาลศิริราช แต่ละปีมีผู้ป่วยใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เท่านั้นไม่พอ ยังพบในคนอายุน้อยลง น้อยที่สุดเป็นเด็กอายุ 2-3 เดือน และเบาหวานชนิดที่ 2 ที่พบในผู้ใหญ่ ปัจจุบันกลับพบในเด็กวัย 8-9 ขวบที่น้ำหนักเกิน ซึ่ง 1 ใน 3 ของเด็กและวัยรุ่นที่อ้วน พบว่า เริ่มมีการเผาผลาญน้ำตาลผิดปกติ และตรวจพบระดับน้ำตาลสูงเข้าเกณฑ์เป็นเบาหวานร้อยละ 4 ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้แสดงอาการ คาดว่าหากไม่ดำเนินการใดๆ ในปี 2573 ผู้ป่วยเบาหวานจะเพิ่มขึ้นเป็น 552 ล้านคน โดยร้อยละ 80 ของผู้ป่วยเบาหวานทั้งหมดเป็นประชากรในประเทศด้อยพัฒนาและประเทศกำลังพัฒนา

ดังที่ทราบโดยทั่วกันว่า การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมดำรงชีวิต เป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่ง ที่ทำให้พบจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม โรคบาหวานสามารถป้องกันได้ โดยการดูแลสุขภาพตนเอง อย่าให้น้ำหนักตัวมากเกิน ดำรงชีวิตด้วยหลัก “3 อ.2 ส.”

1. อ.แรก อาหาร เลือกรับประทานอาหารไม่หวานจัด มันน้อย เค็มน้อย รับประทานปริมาณเหมาะสมมีผักและผลไม้พอเหมาะ ตามพลังงานที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน ในผู้ใหญ่ 1,600-2,000 กิโลแคลอรีต่อวัน และในเด็ก จำนวนพลังงานจะสัมพันธ์กับอายุ ซึ่งควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง

2. อ.สอง ออกกำลังกาย ประมาณ 50-60 นาที อย่างน้อย 3 วัน ต่อสัปดาห์ หรือให้ได้ 150 นาทีต่อสัปดาห์

3. อ.สาม อารมณ์ ไม่ตึงเครียด จัดการความเครียดอย่างเหมาะสม ทำจิตให้สงบ มีสมาธิ

4. ส.แรก งดสูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงจากสถานที่ที่มีควันบุหรี่

5. ส.สอง งดดื่มสุรา
สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงแนะนำ ควบคุมน้ำหนักให้คงที่ ถ้าน้ำหนักเกิน ให้ลดลง 5-10% ของน้ำหนักเดิม ปฏิบัติตาม “3 อ.2 ส.” และควรตรวจหาว่าเป็นโรคเบาหวานหรือไม่ทุกปี เพราะการรักษาระยะเริ่มแรกทำได้ง่าย และเมื่อควบคุมได้จะเกิดประโยชน์สูงสุดคือ ไม่เกิดโรคแทรกซ้อนขึ้น ส่วนผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ต้องทำความรู้จักและเข้าใจโรค ปฏิบัติตาม “3 อ.2 ส.” โดยมีเป้าหมายเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติหรือใกล้เคียงปกติ ด้วยการใช้ยากินและการฉีดอินซูลินควบคู่ไปกับการลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและไม่ประมาท รวมถึงควรตรวจประเมินระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตนเองอย่างสม่ำเสมอ ให้เกิดความเข้าใจค่าระดับน้ำตาลปกติ-สูง-ต่ำที่เกิดตามมาหลังกินอาหาร หรือทำกิจกรรมบางอย่างหรือทั้งสองอย่าง ทำให้เกิดความสมดุลทั้งในด้านโภชนาการ การออกกำลังกาย และการใช้ยารักษา

ตรงกันข้ามหากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ ในระยะยาวจะส่งผลต่อเนื้อเยื่อทั่วร่างกาย ทั้งหลอดเลือด ระบบประสาทส่วนปลาย และอวัยวะอื่นๆ อันนำไปสู่ภาวะแทรก ซ้อนที่เกิดกับตา ไต เส้นประสาทและสมอง หัวใจ หรือที่เท้ารวมทั้งแผลเรื้อรัง ซึ่งจะทำให้เกิดความพิการทาง ร่างกายและผลกระทบต่อการดำรงชีวิตประจำวัน และที่รุนแรงกว่านั้นคือ การสูญเสียชีวิต

-------------------------------------------------------------------

พบกิจกรรมดีๆ ที่ศิริราช
27-29 พ.ย.นี้ ศูนย์บริรักษ์ศิริราช ขอเชิญบุคลากรทางการแพทย์และผู้สนใจเข้าร่วมงาน  Siriraj
Palliative Care Day 2013 “การดูแลระยะท้าย : คุณค่าเหนือความคาดหมาย”  ที่ห้องราชปนัดดาสิรินธร อาคารศรีสวรินทิรา ชั้น 1 รพ.ศิริราช และร่วมฟัง “ปาฏิหาริย์แห่งการเยียวยา” โดย แม่ชี ศันสนีย์ เสถียรสุต (29 พ.ย. 10.00-12.00 น.) สอบถาม โทร.02419 9679-80
27 พ.ย.นี้ ขอเชิญร่วมแสดงความยินดีกับ ศ.นพ.วิศิษฎ์ ทองบุญเกิด ในพิธีมอบรางวัลปาฐกถาสุด
แสงวิเชียร พร้อมฟังการบรรยาย “Proteomics ; นักวิจัยสู่เวทีโลก” เวลา 13.30-15.00 น.ที่ห้องอทิตยาทรกิติคุณ ตึกสยามินทร์ ชั้น 7 รพ.ศิริราช


แพทย์ชี้ ‘ความเครียด’ ซ้ำเติม+เพิ่มโรคเบาหวาน/Health Line สายตรงสุขภาพ
แพทย์ชี้ ‘ความเครียด’ ซ้ำเติม+เพิ่มโรคเบาหวาน/Health Line สายตรงสุขภาพ
โรคเบาหวานกำลังเป็นภัยเงียบของคนไทยและทั่วโลก สหพันธ์เบาหวานนานาชาติรายงานล่าสุด พบทั่วโลกมีผู้ป่วยเบาหวานมากกว่า 371 ล้านคน จำนวนยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดในปี พ.ศ.2573 จะมีมากถึง 552 ล้านคน โดยร้อยละ 80 อยู่ในประเทศด้อยพัฒนาและประเทศกำลังพัฒนา ในส่วนของไทย ผลการสำรวจสุขภาพคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไปทั่วประเทศครั้งล่าสุด เมื่อปี 2552 พบคนไทยป่วยโรคเบาหวานกว่า 3.5 ล้านคน เสียชีวิตจากเบาหวานเฉลี่ยปีละเกือบ 8,000 ราย แนวโน้มพบในเด็กมากขึ้น เนื่องจากขณะนี้เด็กไทยเผชิญความอ้วนและกินหวานมากขึ้น หากไม่มีการป้องกันควบคุมโรคที่ดีพอ คาดว่าในอีก 8 ปีข้างหน้า ไทยจะพบผู้ป่วยถึง 4.7 ล้านราย
กำลังโหลดความคิดเห็น