สท.เตรียมต้อนรับเด็กจากโครงการเรือเยาวชนเอเชียอาคเนย์ กว่า 300 คน จาก 10 ประเทศอาเซียน เผยปี57 คัดเลือกเด็กไทยอีก 28คนเข้าโครงการ
วันนี้ (19 พ.ย.) นางสาวอุษณี กังวาลจิตต์ รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ (สท.) กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (20 พ.ย) เวลาประมาณ 13.00 น.เรือเยาวชนในโครงการเรือเยาวชนเอเชียอาคเนย์ที่เดินทางมาจากประเทศเวียดนาม จะทำการเทียบเรือที่บริเวณท่าเรือคลองเตย โดยเรือดังกล่าวเป็นเรือแลกเปลี่ยนการเรียนรู้วัฒนธรรม และอภิปรายด้านวิชาการ โดยมีเด็กประมาณ 330 คน จาก 10 ประเทศอาเซียน และประเทศญี่ปุ่นอีก 1 ประเทศ โดยในการเข้ามาจอดที่ประเทศไทยในครั้งนี้จะเปิดโอกาสให้เด็กไทยได้เข้าชมว่าวิถีชีวิตในเรือเป็นอย่างไร รวมทั้งจะมีการแสดงชงชาที่เป็นวัฒธรรมของประเทศญี่ปุ่นด้วย ซึ่งจะเปิดให้ได้ชมในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ทั้งนี้เรือจะจอดอยู่ที่ประเทศไทย 5 วันหลังจากนั้นจะเดินทางไปประเทศสิงคโปร์ และฟิลิปปินส์
นางสาวอุษณี กล่าวต่อว่า สำหรับสิ่งที่เด็กไทยทั้ง 28 คนที่ได้ลงเรือไปกับประเทศเพื่อนบ้านนั้น ตนคาดว่าสิ่งที่พวกเด็กจะได้กลับมาคือการพัฒนาศักยภาพของตัวเด็กเองให้ดีขึ้น มีความกล้าแสดงออก กล้าแสดงความคิดเห็น มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และเป็นการหาประสบการณ์ใหม่ๆ ได้มิตรภาพที่ดี เนื่องจากระหว่างที่ใช้ชีวิตบนเรือนั้นเด็กๆ จะได้เรียนรู้และทำกิจกรรมตลอด เช่น หากเรือจะเข้าจอดที่ประเทศใดก็จะมีการแสดงวัฒนธรรมของประเทศนั้นๆ โดยเด็กเป็นผู้แสดงเอง อย่างไรก็ตาม ในปี 2557 ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม สท.จะเปิดรับสมัครเยาวชนที่ให้ความสนใจ อายุระหว่าง 18-25 ปี เข้าคัดเลือกซึ่งมีหลักเกณฑ์คือมีสัญชาติไทย และจะต้องเข้าสอบข้อเขียนภาษาอังกฤษ เมื่อผ่านแล้วก็จะได้สอบสัมภาษณ์ต่อไปโดยจะรับเพียง 28 คนเท่านั้น
วันนี้ (19 พ.ย.) นางสาวอุษณี กังวาลจิตต์ รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ (สท.) กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (20 พ.ย) เวลาประมาณ 13.00 น.เรือเยาวชนในโครงการเรือเยาวชนเอเชียอาคเนย์ที่เดินทางมาจากประเทศเวียดนาม จะทำการเทียบเรือที่บริเวณท่าเรือคลองเตย โดยเรือดังกล่าวเป็นเรือแลกเปลี่ยนการเรียนรู้วัฒนธรรม และอภิปรายด้านวิชาการ โดยมีเด็กประมาณ 330 คน จาก 10 ประเทศอาเซียน และประเทศญี่ปุ่นอีก 1 ประเทศ โดยในการเข้ามาจอดที่ประเทศไทยในครั้งนี้จะเปิดโอกาสให้เด็กไทยได้เข้าชมว่าวิถีชีวิตในเรือเป็นอย่างไร รวมทั้งจะมีการแสดงชงชาที่เป็นวัฒธรรมของประเทศญี่ปุ่นด้วย ซึ่งจะเปิดให้ได้ชมในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ทั้งนี้เรือจะจอดอยู่ที่ประเทศไทย 5 วันหลังจากนั้นจะเดินทางไปประเทศสิงคโปร์ และฟิลิปปินส์
นางสาวอุษณี กล่าวต่อว่า สำหรับสิ่งที่เด็กไทยทั้ง 28 คนที่ได้ลงเรือไปกับประเทศเพื่อนบ้านนั้น ตนคาดว่าสิ่งที่พวกเด็กจะได้กลับมาคือการพัฒนาศักยภาพของตัวเด็กเองให้ดีขึ้น มีความกล้าแสดงออก กล้าแสดงความคิดเห็น มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และเป็นการหาประสบการณ์ใหม่ๆ ได้มิตรภาพที่ดี เนื่องจากระหว่างที่ใช้ชีวิตบนเรือนั้นเด็กๆ จะได้เรียนรู้และทำกิจกรรมตลอด เช่น หากเรือจะเข้าจอดที่ประเทศใดก็จะมีการแสดงวัฒนธรรมของประเทศนั้นๆ โดยเด็กเป็นผู้แสดงเอง อย่างไรก็ตาม ในปี 2557 ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม สท.จะเปิดรับสมัครเยาวชนที่ให้ความสนใจ อายุระหว่าง 18-25 ปี เข้าคัดเลือกซึ่งมีหลักเกณฑ์คือมีสัญชาติไทย และจะต้องเข้าสอบข้อเขียนภาษาอังกฤษ เมื่อผ่านแล้วก็จะได้สอบสัมภาษณ์ต่อไปโดยจะรับเพียง 28 คนเท่านั้น