สธ.เตรียมส่งยาพร้อมน้ำเกลือน้ำหนักรวม 60 ตัน ช่วยผู้ประสบภัยพายุไห่เยี่ยนที่ฟิลิปปินส์ คาดเดินทางวันที่ 18 พ.ย.โดยเครื่องบินกองทัพอากาศ พร้อมเตรียมประชุมทีมแพทย์สนาม 3 ทีมใหญ่ เพื่อช่วยรักษาพยาบาล ควบคุมโรค และฟื้นฟูสุขาภิบาล
วันนี้ (14 พ.ย.) นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากการร่วมประชุมวางแผนกับกระทรวงการต่างประเทศได้รับแจ้งว่า ขณะนี้ฟิลิปปินส์มีความต้องการรับความช่วยเหลือจากการประสบภัยพายุไห่เยี่ยน ในเบื้องต้นคือด้านยา เวชภัณฑ์ และเครื่องยังชีพ ส่วนทีมแพทย์อยู่ระหว่างรอการประสานงาน ดังนั้น จึงได้สั่งการให้องค์การเภสัชกรรม (อภ.) จัดยาที่จำเป็น ได้แก่ ยาแก้ปวดลดไข้ ยารักษาโรคระบบทางเดินอาหาร ยารักษาโรคผิวหนัง น้ำเกลือที่ใช้ทำแผลและน้ำเกลือให้ทดแทนน้ำ น้ำหนักรวมประมาณ 60 ตัน จัดส่งร่วมกับความช่วยเหลือของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องโดยเครื่องบินกองทัพอากาศ คาดว่าจะเดินทางได้ในวันที่ 18 พ.ย.นี้
นพ.ประดิษฐ กล่าวอีกว่า วันที่ 15 พ.ย. สธ.จะประชุมเตรียมความพร้อมของหน่วยแพทย์สนาม ที่เตรียมการจะส่งไปช่วย สธ.ประเทศฟิลิปปินส์ จำนวน 3 ทีม ซึ่งเป็นทีมแพทย์ขนาดใหญ่ทีมละ 15-20 คน พร้อมอุปกรณ์ที่จำเป็นในการปฏิบัติงาน ซึ่งประกอบด้วยทีมให้การรักษาพยาบาลทั่วไป การควบคุมป้องกันโรค การดูแลฟื้นฟูสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม การฟื้นฟูสุขภาพจิตอย่างครบถ้วน ทีมแพทย์สนามดังกล่าวจะปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ประสบภัยทีมละ 2 สัปดาห์ โดยพึ่งตนเองทั้งหมด พร้อมเดินทางทันทีเมื่อได้รับการแจ้งยืนยันจากกระทรวงการต่างประเทศ
วันนี้ (14 พ.ย.) นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากการร่วมประชุมวางแผนกับกระทรวงการต่างประเทศได้รับแจ้งว่า ขณะนี้ฟิลิปปินส์มีความต้องการรับความช่วยเหลือจากการประสบภัยพายุไห่เยี่ยน ในเบื้องต้นคือด้านยา เวชภัณฑ์ และเครื่องยังชีพ ส่วนทีมแพทย์อยู่ระหว่างรอการประสานงาน ดังนั้น จึงได้สั่งการให้องค์การเภสัชกรรม (อภ.) จัดยาที่จำเป็น ได้แก่ ยาแก้ปวดลดไข้ ยารักษาโรคระบบทางเดินอาหาร ยารักษาโรคผิวหนัง น้ำเกลือที่ใช้ทำแผลและน้ำเกลือให้ทดแทนน้ำ น้ำหนักรวมประมาณ 60 ตัน จัดส่งร่วมกับความช่วยเหลือของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องโดยเครื่องบินกองทัพอากาศ คาดว่าจะเดินทางได้ในวันที่ 18 พ.ย.นี้
นพ.ประดิษฐ กล่าวอีกว่า วันที่ 15 พ.ย. สธ.จะประชุมเตรียมความพร้อมของหน่วยแพทย์สนาม ที่เตรียมการจะส่งไปช่วย สธ.ประเทศฟิลิปปินส์ จำนวน 3 ทีม ซึ่งเป็นทีมแพทย์ขนาดใหญ่ทีมละ 15-20 คน พร้อมอุปกรณ์ที่จำเป็นในการปฏิบัติงาน ซึ่งประกอบด้วยทีมให้การรักษาพยาบาลทั่วไป การควบคุมป้องกันโรค การดูแลฟื้นฟูสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม การฟื้นฟูสุขภาพจิตอย่างครบถ้วน ทีมแพทย์สนามดังกล่าวจะปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ประสบภัยทีมละ 2 สัปดาห์ โดยพึ่งตนเองทั้งหมด พร้อมเดินทางทันทีเมื่อได้รับการแจ้งยืนยันจากกระทรวงการต่างประเทศ
