สธ. เผยพบประชาชนเครียด ซึมเศร้าจากน้ำท่วมร้อยละ 2 สั่งกรมสุขภาพจิตและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขติดตามเฝ้าระวังผลกระทบด้านจิตใจประชาชนในพื้นที่ประสบภัยทุกแห่ง เน้นพิเศษ 8 อำเภอในจังหวัดปราจีนบุรีและฉะเชิงเทรา
วันนี้ (26 ต.ค.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากการประเมินผลการดูแลช่วยเหลือด้านสุขภาพกายของหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ของกระทรวงสาธารณสุขทุกพื้นที่ จัดว่าอยู่ในเกณฑ์น่าพอใจ พบผู้เจ็บป่วย 160,000 กว่าราย อาการไม่รุนแรง เช่น น้ำกัดเท้า ผื่นคัน ไข้หวัด และไม่พบปัญหาโรคระบาด แต่เรื่องที่เป็นห่วงคือผลกระทบต่อสุขภาพจิตของประชาชน ซึ่งจะปรากฏให้เห็นหลังจากน้ำท่วมแล้วประมาณ 2 สัปดาห์เป็นต้นไป เป็นช่วงที่จะต้องติดตามให้การดูแลอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง พื้นที่ที่น้ำท่วมมากแต่น้ำลดลงเร็ว ประชาชนจะปรับตัวได้ดีกว่าพื้นที่ที่น้ำท่วมขังนาน เนื่องจากไม่สามารถคาดเดาเหตุการณ์ข้างหน้าได้
สำหรับมาตรการคลี่คลายความเครียดประชาชน กระทรวงสาธารณสุขได้ระดมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาลในสังกัดทุกแห่ง จัดหน่วยแพทย์และทีมสุขภาพจิตออกให้บริการตรวจรักษาและฟื้นฟูสุขภาพจิต เฝ้าระวังผลกระทบด้านจิตใจอย่างต่อเนื่องทุกพื้นที่หลังน้ำลด และทำต่อเนื่องเป็นเวลา 3-6 เดือน โดยเน้นเป็นพิเศษใน 8 อำเภอ 2 จังหวัด คือ ปราจีนบุรี และฉะเชิงเทรา เนื่องจากน้ำท่วมปีนี้รุนแรงกว่าอดีต ที่ปราจีนบุรีเน้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง อ.กบินทร์บุรี อ.ศรีมโหสถ อ.บ้านสร้าง และ อ.ประจันตคาม ส่วนที่ จ.ฉะเชิงเทรา เน้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.ราชสาส์น อ.บางคล้า และ อ.บางน้ำเปรี้ยว โดยได้ส่งทีมสุขภาพจิต 5 ทีม จาก รพ.ศรีธัญญา รพ.จิตเวชสระแก้ว สถาบันจิตเวชสมเด็จเจ้าพระยา สถาบันกัลยาราชนครินทร์ รพ.ราชานุกูล มาร่วมบริการกับพื้นที่ด้วย ผลการจนถึงวันนี้รวม 39 วัน ตรวจพบผู้ที่มีปัญหาเครียดระดับสูง นอนไม่หลับ มีอาการซึมเศร้า เสี่ยงฆ่าตัวตาย รวม 326 ราย คิดเป็นร้อยละ 2 จากจำนวนผู้ที่ตรวจประเมินทั้งหมด 18,492 ราย จากพื้นที่ประสบภัยกว่า 30 จังหวัด ที่ จ.ฉะเชิงเทรา พบผู้มีความเครียดสูง 7 ราย ซึมเศร้า 2 ราย ต้องติดตามดูแลเป็นพิเศษ 6 ราย
นายสรวงศ์ กล่าวอีกว่า ในการช่วยกันบรรเทาความเครียด ขอให้ประชาชนค่อยๆ ปรับจิตใจยอมรับความสูญเสียและวางแผนแก้ไขปัญหาทีละเรื่อง และปรึกษาพูดคุยปรับทุกข์และหาแนวทางแก้ไขร่วมกันระหว่างสมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนบ้าน ให้ช่วยกันดูแลให้กำลังใจและสังเกตอาการผิดปกติของคนใกล้ชิด หากพบว่ามีพฤติกรรมเปลี่ยนจากเดิม เช่นเคยร่าเริง หัวเราะง่าย กลับมาเป็นเก็บตัว เงียบขรึม อารมณ์ฉุนเฉียวง่าย ขอให้แจ้ง อสม.หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือโทร.ปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง
วันนี้ (26 ต.ค.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากการประเมินผลการดูแลช่วยเหลือด้านสุขภาพกายของหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ของกระทรวงสาธารณสุขทุกพื้นที่ จัดว่าอยู่ในเกณฑ์น่าพอใจ พบผู้เจ็บป่วย 160,000 กว่าราย อาการไม่รุนแรง เช่น น้ำกัดเท้า ผื่นคัน ไข้หวัด และไม่พบปัญหาโรคระบาด แต่เรื่องที่เป็นห่วงคือผลกระทบต่อสุขภาพจิตของประชาชน ซึ่งจะปรากฏให้เห็นหลังจากน้ำท่วมแล้วประมาณ 2 สัปดาห์เป็นต้นไป เป็นช่วงที่จะต้องติดตามให้การดูแลอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง พื้นที่ที่น้ำท่วมมากแต่น้ำลดลงเร็ว ประชาชนจะปรับตัวได้ดีกว่าพื้นที่ที่น้ำท่วมขังนาน เนื่องจากไม่สามารถคาดเดาเหตุการณ์ข้างหน้าได้
สำหรับมาตรการคลี่คลายความเครียดประชาชน กระทรวงสาธารณสุขได้ระดมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาลในสังกัดทุกแห่ง จัดหน่วยแพทย์และทีมสุขภาพจิตออกให้บริการตรวจรักษาและฟื้นฟูสุขภาพจิต เฝ้าระวังผลกระทบด้านจิตใจอย่างต่อเนื่องทุกพื้นที่หลังน้ำลด และทำต่อเนื่องเป็นเวลา 3-6 เดือน โดยเน้นเป็นพิเศษใน 8 อำเภอ 2 จังหวัด คือ ปราจีนบุรี และฉะเชิงเทรา เนื่องจากน้ำท่วมปีนี้รุนแรงกว่าอดีต ที่ปราจีนบุรีเน้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง อ.กบินทร์บุรี อ.ศรีมโหสถ อ.บ้านสร้าง และ อ.ประจันตคาม ส่วนที่ จ.ฉะเชิงเทรา เน้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.ราชสาส์น อ.บางคล้า และ อ.บางน้ำเปรี้ยว โดยได้ส่งทีมสุขภาพจิต 5 ทีม จาก รพ.ศรีธัญญา รพ.จิตเวชสระแก้ว สถาบันจิตเวชสมเด็จเจ้าพระยา สถาบันกัลยาราชนครินทร์ รพ.ราชานุกูล มาร่วมบริการกับพื้นที่ด้วย ผลการจนถึงวันนี้รวม 39 วัน ตรวจพบผู้ที่มีปัญหาเครียดระดับสูง นอนไม่หลับ มีอาการซึมเศร้า เสี่ยงฆ่าตัวตาย รวม 326 ราย คิดเป็นร้อยละ 2 จากจำนวนผู้ที่ตรวจประเมินทั้งหมด 18,492 ราย จากพื้นที่ประสบภัยกว่า 30 จังหวัด ที่ จ.ฉะเชิงเทรา พบผู้มีความเครียดสูง 7 ราย ซึมเศร้า 2 ราย ต้องติดตามดูแลเป็นพิเศษ 6 ราย
นายสรวงศ์ กล่าวอีกว่า ในการช่วยกันบรรเทาความเครียด ขอให้ประชาชนค่อยๆ ปรับจิตใจยอมรับความสูญเสียและวางแผนแก้ไขปัญหาทีละเรื่อง และปรึกษาพูดคุยปรับทุกข์และหาแนวทางแก้ไขร่วมกันระหว่างสมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนบ้าน ให้ช่วยกันดูแลให้กำลังใจและสังเกตอาการผิดปกติของคนใกล้ชิด หากพบว่ามีพฤติกรรมเปลี่ยนจากเดิม เช่นเคยร่าเริง หัวเราะง่าย กลับมาเป็นเก็บตัว เงียบขรึม อารมณ์ฉุนเฉียวง่าย ขอให้แจ้ง อสม.หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือโทร.ปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง