โพลล์เทคโนโลยีสยามตบหน้าผลสำรวจ ศธ.ชี้ชัดใช้เพื่อการศึกษาน้อยแค่ 1 ใน 3 เท่านั้น เกือบครึ่งนิยมใช้เพื่อทำกิจกรรมอื่น ทั้งเล่นเกม แชต ระบุกลุ่มที่ไม่เคยใช้เพื่อการศึกษากว่า 80% ให้เหตุผลใช้งานยาก แม้ 68% เห็นด้วยส่งเสริมใช้ประกอบการเรียน แต่ 36% เห็นว่าส่งผลปานกลางที่จะทำให้เด็กเรียนดีขึ้น
สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมวัยรุ่นในกรุงเทพฯและปริมณฑล ในการใช้แท็บเล็ตเพื่อประโยชน์ทางการศึกษา จำนวน 1,066 คน ระหว่างวันที่ 13-18 ต.ค. 2556 พบว่า กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 34.89 หรือ 1 ใน 3 ระบุว่า ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาบ้างเป็นบางครั้ง ร้อยละ 27.77 ระบุว่าใช้เฉพาะเมื่อครูอาจารย์สั่งงาน โดยร้อยละ 35.78 ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาประมาณ 30-60 นาทีโดยเฉลี่ยต่อครั้ง ส่วนกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์ทางการศึกษา ซึ่งกลุ่มตัวอย่างนิยมใช้มากที่สุด 3 อันดับ ได้แก่ ค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเรียน ร้อยละ 84.76 ค้นหาข้อมูลความรู้ทั่วไป ร้อยละ 81.41 และเล่นเกมที่เกี่ยวกับการศึกษา ร้อยละ 78.8
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างการใช้คอมพิวเตอร์แท็บเล็ตเพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษากับเพื่อทำกิจกรรมอื่นๆ เช่น เล่นเกม พูดคุย พบว่า ร้อยละ 45.73 ใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นมากกว่า ร้อยละ 30.49 ระบุว่าใช้พอๆ กัน และร้อยละ 23.78 ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษามากกว่า สำหรับสาเหตุที่นิยมใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาพบว่า ร้อยละ 80.11 ค้นหาข้อมูลต่างๆ ได้สะดวกรวดเร็ว ร้อยละ 77.73 ใช้งานได้ทุกเวลา ร้อยละ 76.11 ใช้งานง่าย ร้อยละ 74.81 พกพาได้สะดวก/นำไปได้ในทุกสถานที่ และร้อยละ 72.11 จัดเก็บข้อมูลต่างๆ ได้มาก
ส่วนสาเหตุที่ไม่เคยใช้คอมพิวเตอร์แท็บเล็ตเพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษา ร้อยละ 81.56 ระบุว่า ใช้งานได้ยาก ร้อยละ 79.43 ใช้คอมพิวเตอร์แท็บเล็ตไม่คล่อง ร้อยละ 76.6 ค้นหาข้อมูลต่างๆ ได้ยาก ร้อยละ 71.63 กลัวข้อมูลต่างๆ สูญหาย และร้อยละ 68.09 ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ เมื่อถามความคิดเห็นต่อการใช้คอมพิวเตอร์แท็บเล็ตเพื่อประกอบการเรียน ร้อยละ 68.57 เห็นด้วยกับการส่งเสริมให้ใช้เพื่อประกอบการเรียน นอกจากนี้ ร้อยละ 36.21 มีความคิดเห็นว่าการใช้คอมพิวเตอร์แท็บเล็ตเพื่อประกอบการเรียนส่งผลในระดับปานกลางที่จะทำให้นักเรียนนักศึกษามีผลการเรียนที่ดีขึ้นได้ ขณะที่ร้อยละ 31.05 เห็นว่าการใช้คอมพิวเตอร์แท็บเล็ตเพื่อประกอบการเรียนส่งผลในระดับปานกลางที่จะทำให้นักเรียนนักศึกษาอ่านหนังสือเรียนน้อยลง
สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมวัยรุ่นในกรุงเทพฯและปริมณฑล ในการใช้แท็บเล็ตเพื่อประโยชน์ทางการศึกษา จำนวน 1,066 คน ระหว่างวันที่ 13-18 ต.ค. 2556 พบว่า กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 34.89 หรือ 1 ใน 3 ระบุว่า ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาบ้างเป็นบางครั้ง ร้อยละ 27.77 ระบุว่าใช้เฉพาะเมื่อครูอาจารย์สั่งงาน โดยร้อยละ 35.78 ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาประมาณ 30-60 นาทีโดยเฉลี่ยต่อครั้ง ส่วนกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์ทางการศึกษา ซึ่งกลุ่มตัวอย่างนิยมใช้มากที่สุด 3 อันดับ ได้แก่ ค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเรียน ร้อยละ 84.76 ค้นหาข้อมูลความรู้ทั่วไป ร้อยละ 81.41 และเล่นเกมที่เกี่ยวกับการศึกษา ร้อยละ 78.8
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างการใช้คอมพิวเตอร์แท็บเล็ตเพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษากับเพื่อทำกิจกรรมอื่นๆ เช่น เล่นเกม พูดคุย พบว่า ร้อยละ 45.73 ใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นมากกว่า ร้อยละ 30.49 ระบุว่าใช้พอๆ กัน และร้อยละ 23.78 ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษามากกว่า สำหรับสาเหตุที่นิยมใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาพบว่า ร้อยละ 80.11 ค้นหาข้อมูลต่างๆ ได้สะดวกรวดเร็ว ร้อยละ 77.73 ใช้งานได้ทุกเวลา ร้อยละ 76.11 ใช้งานง่าย ร้อยละ 74.81 พกพาได้สะดวก/นำไปได้ในทุกสถานที่ และร้อยละ 72.11 จัดเก็บข้อมูลต่างๆ ได้มาก
ส่วนสาเหตุที่ไม่เคยใช้คอมพิวเตอร์แท็บเล็ตเพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษา ร้อยละ 81.56 ระบุว่า ใช้งานได้ยาก ร้อยละ 79.43 ใช้คอมพิวเตอร์แท็บเล็ตไม่คล่อง ร้อยละ 76.6 ค้นหาข้อมูลต่างๆ ได้ยาก ร้อยละ 71.63 กลัวข้อมูลต่างๆ สูญหาย และร้อยละ 68.09 ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ เมื่อถามความคิดเห็นต่อการใช้คอมพิวเตอร์แท็บเล็ตเพื่อประกอบการเรียน ร้อยละ 68.57 เห็นด้วยกับการส่งเสริมให้ใช้เพื่อประกอบการเรียน นอกจากนี้ ร้อยละ 36.21 มีความคิดเห็นว่าการใช้คอมพิวเตอร์แท็บเล็ตเพื่อประกอบการเรียนส่งผลในระดับปานกลางที่จะทำให้นักเรียนนักศึกษามีผลการเรียนที่ดีขึ้นได้ ขณะที่ร้อยละ 31.05 เห็นว่าการใช้คอมพิวเตอร์แท็บเล็ตเพื่อประกอบการเรียนส่งผลในระดับปานกลางที่จะทำให้นักเรียนนักศึกษาอ่านหนังสือเรียนน้อยลง