ในหลวงโปรดเกล้าฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ บำเพ็ญพระกุศล ฉลองพระชนมายุ 100 พรรษา สมเด็จพระสังฆราช ขณะที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สมเด็จพระสังฆราช ทรงบาตร พระอุปัฏฐาก 1 รูป เนื่องในวันคล้ายวันประสูติ 3 ตุลาคม 2556 ขณะที่ ปชช.มารอถวายพระพรตั้งแต่ตี 4 เพื่อร่วมเทิดพระเกียรติ
วันนี้ (3 ต.ค.) ที่วัดบวรนิเวศวิหาร ซึ่งเป็นวันคล้ายวันประสูติ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเจริญพระชนมายุ 100 พรรษา ตั้งแต่เวลา 10.30 น.ที่พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ บำเพ็ญพระราชกุศล ฉลองพระชนมายุ 100 พรรษา สมเด็จพระสังฆราช เมื่อเสด็จพระราชดำเนินมาถึงยังพระอุโบสถ ทรงจุดธูปเทียนถวายพระพุทธชินสีห์ ประธานพระอุโบสถ จากนั้นจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายสักการะพระบรมราชสรีรางคาร พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยูหัว รัชกาลที่ 6 และทรงประเคนพัดรองที่ระลึกงานบำเพ็ญพระราชกุศลฉลองพระชนมายุครบ 100 พรรษา สมเด็จพระสังฆราช แด่สมเด็จพระราชาคณะและพระราชาคณะ จำนวน 20 รูป ที่เจริญพระพุทธมนต์ จากนั้นทรงศีล พระสงฆ์ถวายศีล และเจริญพระพุทธมนต์ จบแล้วทรงประเคนภัตตาหารแด่สมเด็จพระราชาคณะ เมื่อพระสงฆ์รับพระราชทานฉันเสร็จ โปรดเกล้าฯให้พระราชวงศ์และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ประเคนจตุปัจจัยไทยธรรม ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก เสร็จแล้วทรงกราบหน้าเครื่องนมัสการ ทรงลาพระสงฆ์ เสด็จพระราชดำเนินกลับ
โดย พระครูสังฆสิทธิกร หัวหน้าฝ่ายศาสนวิเทศ สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช กล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าเวลา 07.00 น.สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงบาตรพระสงฆ์ 1 รูป คือ พระประกาศพุทธกิจ พระอุปัฏฐาก (ผู้ดูแล) จากวัดบวรนิเวศวิหาร ณ ที่ประทับชั้น 6 อาคารวชิรญาณ สามัคคีพยาบาร โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
ในวันเดียวกัน เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก โปรดให้ พระเทพสารเวที ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช รับเครื่องสักการะจากคณะบุคคล องค์กร และหน่วยงานต่างๆ อาทิ นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา (ศน.) กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) คณะผู้แทน 3 เหล่าทัพ กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) ผู้แทนสถาบันการศึกษา จากนั้นเปิดให้ประชาชนได้เข้าลงนามถวายพระพร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ มีประชาชนเดินทางมารอเข้าแถวบริเวณหน้าอาคาร อปร เพื่อร่วมลงนามถวายพระพรเป็นจำนวนมาก โดยระบุว่ามารอกันตั้งแต่เวลา 04.00 น. ของวันนี้ (3 ต.ค.) เพราะอยากจะมีโอกาสสักครั้งที่ได้ร่วมเทิดพระเกียรติสมเด็จพระสังฆราช ฉลองพระชนมายุ 100 พรรษา โดยนางสุรางค์ หงษ์ศรี พุทธศานิกชนจาก กทม. กล่าวว่า วันนี้ตนเดินทางมาลงนามถวายพระพร เพื่อขอให้พระองค์ทรงมีสุขภาพพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์ และมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน เพราะพระองค์ทรงเป็นผู้ปฏิบัติธรรมและเจริญรอยตามองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จนเป็นที่เทิดทูนและเคารพบูชาของพุทธศาสนิกชนมาช้านาน ตนจึงตั้งใจเดินทางมาถวายพระพรด้วยใจบริสุทธิ์
ด้าน นายสุรัตน์ ธิตาริยกุล พุทธศาสนิกชนจาก กทม. กล่าวว่า นอกจากเดินทางมาเพื่อลงนามถวายพระพรสมเด็จพระสังฆราชแล้ว ตนยังมาสวดมนต์ต่อหน้ารูปของท่านด้วย โดยตนมาสวดบทอิติปิโสและบูชาพระรัตนตรัย ก็เพื่อขอพรให้ตัวเองด้วยประการหนึ่งและขอพรให้พระองค์ท่าน ซึ่งเป็นประมุขของฝ่ายสงฆ์ เป็นผู้นำแห่งจิตวิญญาณชาวพุทธ เป็นผู้นำทางของความดี ทรงมีสุขภาพพลานามัยแข็งแรง และมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน
สำหรับบรรยากาศบริเวณอาคารวิชรญาณ สามัคคีพยาบาร ตั้งแต่ช่วงเช้ามีประชาชนจำนวนมากเดินทางรอเข้าแถวเพื่อเข้าเฝ้าถวายพระพรสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งทาง รพ.จุฬาลงกรณ์เปิดให้ประชาชนเข้าเฝ้าได้ 3 รอบคือ เวลา 08.00 น. 13.00 น. และ 16.00 น. รอบละ 1,000 คน โดยบริเวณชั้น 1 ของอาคารได้มีการจัดนิทรรศการแสดงพระประวัติและพระจริยวัตรของสมเด็จพระสังฆราช เพื่อเทิดพระเกียรติ และมีการจัดทำบุญทอดผ้าป่า ซึ่งตลอดทั้งวันทีพุทธศาสนิกชนจำนวนมากหลั่งไหลมาร่วมทำบุญตามกำลังศรัทธา พร้อมกันนี้ รพ.จุฬาลงกรณ์ ยังได้จัดโรงทานขึ้น โดยมีร้านอาหารต่างๆประมาณ 300 ร้านมาร่วมทำอาหารแจกให้แก่ประชาชนที่มาร่วมถวายพระพร
ในเวลา 13.30 น. ที่ชั้น 6 อาคารวชิรญาณ สามัคคีพยาบาร รพ.จุฬาลงกรณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้นายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี เชิญผ้าไตร น้ำสรง และดอกไม้ ธูป เทียนแพพระราชทาน ถวายแด่สมเด็จพระสังฆราช ในการนี้ พระบรมวงศาวงศ์ โปรดให้ผู้แทนพระองค์อัญเชิญแจกันดอกไม้ และเครื่องสักการะเข้าถวายในวาระเดียวกันนี้ด้วย
ต่อมาในเวลา 15.00 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งยังโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ณ อาคารวชิรญาณ สามัคคีพยาบาร ในพิธีทอดผ้าป่าสามัคคีสมทบทุน จัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ สำหรับภิกษุสามเณรอาพาธ และผู้ป่วยทั่วไป จำนวน 84,000 กอง กองละ 999 บาท โดยมีเลขาธิการสภากาชาดไทย ผ้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และคณะกรรมการ เฝ้าฯรับเสด็จ เมื่อเสด็จเข้าภายในห้องพิธีทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย จากนั้นประทับยังพระราชอาสน์เพื่อทรงศีล เสร็จแล้วจึงเสด็จไปยังที่ตั้งองค์ผ้าป่า ทรงรับไตรจากผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ทรงพาดผ้าไตรระหว่างพระกร ประนมพระหัตถ์และกล่าวคำถวายผ้าป่า เมื่อจบคำถวายผ้าป่าแล้ว ทรงวางผ้าไตรบนพานแว่นฟ้า เสร็จแล้วจึงเสด็จออกจากห้องพิธีไปยังห้องประทับขณะสมเด็จพระสังฆราชประชวร เพื่อเฝ้าและถวายสักการะสมเด็จพระสังฆราช และทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรม เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ100 พรรษา จากนั้นเสด็จไปประทับราบ ณ พระสุหนี่ที่จัดไว้ ทรงหลั่งทักษิโณทก จากนั้นจึงเสด็จออกไปยังห้องประชุมใหม่เพื่อทรงฟังการแถลงและทรงติดตามพระอาการพระประชวรของสมเด็จพระสังฆราช เสร็จแล้วจึงเสด็จพระราชดำเนินกลับ
จากนั้นในเวลา 16.00 น. ทางโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เปิดให้ประชาชนได้เข้าถวายพระพร สมเด็จพระสังฆราช ยังที่ประทับ ชั้น 6 อาคารวชิรญาณ สามัคคีพยาบาร โดยสมเด็จพระสังฆราช เสด็จออกยังห้องกระจกปลอดเชื้อ เพื่อให้ประชาชนได้เข้าเฝ้าอย่างใกล้ชิด ซึ่งในเวลา 17.00 น. ที่ตำหนักคอยท่าปราโมช มีขบวนพิธีถวายเครื่องสูงแบบโบราณราชประเพณีเป็นครั้งแรก แด่สมเด็จพระสังฆราช เคลื่อนจากตำหนักคอยท่าปราโมช ไปยัง อาคารสภาการศึกษา มมร. โดยมีศิลปินดารา ประชาชน เข้าร่วมในขบวนกว่า 101 คน รวมถึงมีการจัดพิธีสวดมนต์ถวายพระพรสมเด็จพระสังฆราช ทั่วโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ตั้งแต่เวลา 17.00 - 19.00 น.
ส่วนเวลา 17.30 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน ประกอบพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลฉลองพระชนมายุครบ 100 พรรษา สมเด็จพระสังฆราช ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง เสด็จฯเข้าพระอุโบสถ ทรงประเคนสัญญาบัตร พัดยศ ผ้าไตร แด่พระราชาคณะที่ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์ใหม่ 2 รูป คือ พระดร.อนิลมาน ธมฺมสากิโย วัดบวรนิเวศนิเวศวิหาร ในราชทินนามที่ พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ และพระครูอนุกูลกาญจนกิจ(บุญเพิ่ม) วัดเทวสังฆราม จังหวัดกาญจนบุรี ในราชทินนามที่ พระกิตติสุวัฒนาภรณ์ พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ทรงหลั่งทักษิโนทก พระสงฆ์ที่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ ถวายอนุโมทนา ประธานสงฆ์ถวายอดิเรก
จาก นั้น ทรงจุดเทียนมหามงคล ทรงจุดธูปเทียนถวายนมัสการ พระพุทธมณีมหารัตนปฏิมากร แล้วทรงรับประเคนพัดรองที่ระลึกงานบำเพ็ญพระกุศลฉลองพระชนมายุ100 พรรษา สมเด็จพระสังฆราช แด่สมเด็จพระราชาคณะและพระราชาคณะ รวม 21 รูปที่เจริญพระพุทธมนต์ และอีก 5 รูป ที่เจริญพระพุทธมนต์นวัคคหายุสมธัมม์ จบแล้ว ทรงโปรดให้พระราชวงศ์และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมและย่าม ที่ระลึกแด่พระสงฆ์ พระสงฆ์ถวายอนุโมทนาถวายดิเรก เสด็จพระราชดำเนินกลับ เป็นอันเสร็จพิธี
