สปสช.ยันกองทุนข้าราชการท้องถิ่นไม่มีอะไรติดขัด พร้อมเดินหน้าเต็มรูปแบบ 1 ต.ค.นี้ ให้สิทธิเต็มที่เหมือนสวัสดิการข้าราชการ ระบุรอแค่กฎษฎีกาพิจารณาก่อนลงพระปรมาภิไธยเพื่อประกาศใช้
วันนี้ (23 ก.ย.) นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดตั้งกองทุนรักษาพยาบาลข้าราชการและพนักงานส่วนท้องถิ่นในวันที่ 1 ต.ค. 2556 ว่า ล่าสุดคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาในการจัดตั้งกองทุนดังกล่าวตามที่ สปสช.เสนอเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว โดยมอบให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาเรื่องนี้อีกครั้ง ก่อนจะลงพระปรมาภิไธยเพื่อประกาศใช้ต่อไป ซึ่งจะให้การดูแลระบบบริการสุขภาพทั้งหมดของข้าราชการและพนักงานส่วนท้องถิ่น รวมทั้งครอบครัวผู้มีสิทธิประมาณ 6.6 แสนคน ประกอบด้วย สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ซึ่งจะมีทั้งพนักงานข้าราชการ ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ พนักงานจ้าง เป็นต้น แต่ไม่รวม กทม.และเมืองพัทยา ซึ่งกองทุนนี้จะมี สปสช.เป็นผู้บริหารจัดการ
นพ.วินัย กล่าวอีกว่า กองทุนนี้จะแยกกับกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น จะจัดสรรเงินเข้ากองทุนในปีงบประมาณ 2557 ทั้งสิ้น 7,000 ล้านบาท เบื้องต้นจะจัดสรรเข้ากองทุนประมาณ 4,000 ล้านบาท และสำรองไว้กรณีไม่เพียงพออีก 3,000 ล้านบาท ซึ่งข้าราชการท้องถิ่นและครอบครัวสามารถเบิกจ่ายได้ตามสิทธิสวัสดิการข้าราชการทุกประการ และทุกสถานพยาบาลรัฐทั่วประเทศ โดย สปสช.จะทำหน้าที่บริหารจัดการ ซึ่งคิดคำนวนตามสิทธิข้าราชการอยู่ที่รายหัวละ 12,000 บาทต่อคนต่อปี ทั้งนี้ ในการบริหารจัดการ สปสช.คิดค่าบริหารร้อยละ 1.5 ของเงินกองทุน
“ก่อนหน้านี้ที่เราเตรียมจัดงานประชุมชี้แจงการเดินหน้าเรื่องนี้ในวันที่ 30 ก.ย.แต่ต้องเลื่อนออกไปนั้น จริงๆ ไม่มีอะไร เพราะเป็นเพียงการแสดงสัญลักษณ์ ย้ำเตือนเท่านั้น แต่ทุกอย่างยังคงเดินหน้า โดยกองทุนนี้พร้อมเดินหน้าได้วันที่ 1 ต.ค.นี้ โดยข้าราชการท้องถิ่นทุกคน เพียงแสดงสิทธิพร้อมบัตรประจำตัวประชาชน หรือในกรณีบุตรที่ยังไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน ให้นำสำเนาทะเบียนบ้าน และสำเนาสูติบัตรมาแสดงด้วย” เลขาธิการ สปสช.กล่าว
วันนี้ (23 ก.ย.) นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดตั้งกองทุนรักษาพยาบาลข้าราชการและพนักงานส่วนท้องถิ่นในวันที่ 1 ต.ค. 2556 ว่า ล่าสุดคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาในการจัดตั้งกองทุนดังกล่าวตามที่ สปสช.เสนอเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว โดยมอบให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาเรื่องนี้อีกครั้ง ก่อนจะลงพระปรมาภิไธยเพื่อประกาศใช้ต่อไป ซึ่งจะให้การดูแลระบบบริการสุขภาพทั้งหมดของข้าราชการและพนักงานส่วนท้องถิ่น รวมทั้งครอบครัวผู้มีสิทธิประมาณ 6.6 แสนคน ประกอบด้วย สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ซึ่งจะมีทั้งพนักงานข้าราชการ ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ พนักงานจ้าง เป็นต้น แต่ไม่รวม กทม.และเมืองพัทยา ซึ่งกองทุนนี้จะมี สปสช.เป็นผู้บริหารจัดการ
นพ.วินัย กล่าวอีกว่า กองทุนนี้จะแยกกับกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น จะจัดสรรเงินเข้ากองทุนในปีงบประมาณ 2557 ทั้งสิ้น 7,000 ล้านบาท เบื้องต้นจะจัดสรรเข้ากองทุนประมาณ 4,000 ล้านบาท และสำรองไว้กรณีไม่เพียงพออีก 3,000 ล้านบาท ซึ่งข้าราชการท้องถิ่นและครอบครัวสามารถเบิกจ่ายได้ตามสิทธิสวัสดิการข้าราชการทุกประการ และทุกสถานพยาบาลรัฐทั่วประเทศ โดย สปสช.จะทำหน้าที่บริหารจัดการ ซึ่งคิดคำนวนตามสิทธิข้าราชการอยู่ที่รายหัวละ 12,000 บาทต่อคนต่อปี ทั้งนี้ ในการบริหารจัดการ สปสช.คิดค่าบริหารร้อยละ 1.5 ของเงินกองทุน
“ก่อนหน้านี้ที่เราเตรียมจัดงานประชุมชี้แจงการเดินหน้าเรื่องนี้ในวันที่ 30 ก.ย.แต่ต้องเลื่อนออกไปนั้น จริงๆ ไม่มีอะไร เพราะเป็นเพียงการแสดงสัญลักษณ์ ย้ำเตือนเท่านั้น แต่ทุกอย่างยังคงเดินหน้า โดยกองทุนนี้พร้อมเดินหน้าได้วันที่ 1 ต.ค.นี้ โดยข้าราชการท้องถิ่นทุกคน เพียงแสดงสิทธิพร้อมบัตรประจำตัวประชาชน หรือในกรณีบุตรที่ยังไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน ให้นำสำเนาทะเบียนบ้าน และสำเนาสูติบัตรมาแสดงด้วย” เลขาธิการ สปสช.กล่าว
