สปสช.รับหน้าสื่อ เตรียมทำหน้าที่เคลียริงเฮาส์ให้ 3 กองทุน พร้อมจัดระบบข้อมูลให้เป็นเอกภาพ ก่อนตั้งสำนักงานเคลียริงเฮาส์ระดับชาติในปี 2558
วันนี้ (16 ก.ย.) นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) แถลงความคืบหน้าการดำเนินการธุรกรรมการเบิกจ่ายและระบบข้อมูลบริการสาธารณสุขระดับชาติ (National Clearing House) ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลเพื่อจะได้มีการบริหารค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพอย่างเป็นระบบ ว่า หลังจาก สปสช.ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกลางเบิกจ่ายการให้บริการฉุกเฉิน 3 กองทุน ทั้งหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ประกันสังคม และสวัสดิการข้าราชการ โดยทำหน้าที่สำรองจ่ายให้โรงพยาบาลต่างๆ ก่อนเรียกเก็บไปยังสองกองทุนนั้น เพื่อให้เกิดการทำงานที่มีความเป็นอิสระ และเพื่อรองรับภาระงานที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจะมีการตั้งกองทุนรักษาพยาบาลข้าราชการท้องถิ่น รัฐบาลจึงต้องการให้มีการตั้งเป็นหน่วยงานเบิกจ่ายกลางระดับชาติขึ้น
“การจะเป็นหน่วยงานกลาง ในการทำธุรกรรมการเบิกจ่ายให้แก่โรงพยาบาลทุกแห่ง จำเป็นต้องมีความเป็นอิสระ ไม่ขึ้นตรงกับหน่วยงานใด การที่ สปสช.จะทำหน้าที่เพียงองค์กรเดียวแต่ดูทั้ง 3 กองทุนคงไม่ได้ ดังนั้น ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2557 นอกจาก สปสช.จะทำหน้าที่เคลียริงเฮาส์ ทั้งการเบิกจ่ายกลางให้แต่ละกองทุน รวมทั้งการจัดระบบและประมวลข้อมูลต่างๆ ให้มีความเป็นเอกภาพแล้ว ยังต้องเตรียมตัวแยกออกเป็นหน่วยงานอิสระ ตั้งเป็นสำนักงานด้านธุรกรรมทางการเงิน หรือสำนักงานเคลียริงเฮาส์ระดับชาติขึ้นในปี 2558 ส่วนงบประมาณจะต้องหารือกันว่าจะใช้จำนวนเท่าใด” เลขาธิการ สปสช. กล่าว
วันนี้ (16 ก.ย.) นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) แถลงความคืบหน้าการดำเนินการธุรกรรมการเบิกจ่ายและระบบข้อมูลบริการสาธารณสุขระดับชาติ (National Clearing House) ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลเพื่อจะได้มีการบริหารค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพอย่างเป็นระบบ ว่า หลังจาก สปสช.ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกลางเบิกจ่ายการให้บริการฉุกเฉิน 3 กองทุน ทั้งหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ประกันสังคม และสวัสดิการข้าราชการ โดยทำหน้าที่สำรองจ่ายให้โรงพยาบาลต่างๆ ก่อนเรียกเก็บไปยังสองกองทุนนั้น เพื่อให้เกิดการทำงานที่มีความเป็นอิสระ และเพื่อรองรับภาระงานที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจะมีการตั้งกองทุนรักษาพยาบาลข้าราชการท้องถิ่น รัฐบาลจึงต้องการให้มีการตั้งเป็นหน่วยงานเบิกจ่ายกลางระดับชาติขึ้น
“การจะเป็นหน่วยงานกลาง ในการทำธุรกรรมการเบิกจ่ายให้แก่โรงพยาบาลทุกแห่ง จำเป็นต้องมีความเป็นอิสระ ไม่ขึ้นตรงกับหน่วยงานใด การที่ สปสช.จะทำหน้าที่เพียงองค์กรเดียวแต่ดูทั้ง 3 กองทุนคงไม่ได้ ดังนั้น ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2557 นอกจาก สปสช.จะทำหน้าที่เคลียริงเฮาส์ ทั้งการเบิกจ่ายกลางให้แต่ละกองทุน รวมทั้งการจัดระบบและประมวลข้อมูลต่างๆ ให้มีความเป็นเอกภาพแล้ว ยังต้องเตรียมตัวแยกออกเป็นหน่วยงานอิสระ ตั้งเป็นสำนักงานด้านธุรกรรมทางการเงิน หรือสำนักงานเคลียริงเฮาส์ระดับชาติขึ้นในปี 2558 ส่วนงบประมาณจะต้องหารือกันว่าจะใช้จำนวนเท่าใด” เลขาธิการ สปสช. กล่าว