กระทรวงสาธารณสุข จับมือกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่รณรงค์กำจัดยุงและกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายที่ชุมชนบ้านพักรถไฟก่อสร้างบางซื่อ และชุมชนหัวรถจักรตึกแดง 1-3 พร้อมเร่งรณรงค์ทุกพื้นที่ ทุกหมู่บ้านร่วมมือร่วมใจกำจัดลูกน้ำยุงลายอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ ตั้งเป้าลดจำนวนผู้ป่วยไข้เลือดออกในเดือนกันยายนนี้ให้เหลือต่ำกว่าสัปดาห์ละ 1,000 ราย ย้ำเตือนประชาชนทุกเพศทุกวัยหากเป็นไข้สูง 1-2 วันให้เช็ดตัวบ่อยๆ หากรับประทานยาลดไข้แล้วไข้ไม่ลด ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก ปวดท้องอาเจียน หรืออุจจาระเป็นสีดำ ให้รีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง โดยเฉพาะยากลุ่มแอสไพริน
วันนี้ (1 ก.ย.) ที่ชุมชนหัวรถจักรตึกแดง เขตบางซื่อ กทม. นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมว.สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่ รณรงค์ป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก ที่ชุมชนบ้านพักรถไฟก่อสร้างบางซื่อและชุมชนหัวรถจักรตึกแดง เขต 1-3 พร้อมกับ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังทีมสำรวจและเจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 กรุงเทพฯและอาสาสมัครส่งเสริมสิทธิ (อสส.) ในพื้นที่ ว่า รัฐบาลมีนโยบายพัฒนายกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม ซึ่ง สธ.ดูแลคุณภาพชีวิตด้านสุขภาพวันนี้เป็นการมาดูปัญหาเฉพาะหน้าคือปัญหาการแพร่ระบาดโรคไข้เลือดออกในท้องถิ่นโดยเฉพาะพื้นที่เขตบางซื่อ ซึ่งพบอัตราป่วยไข้เลือดออกสูงกว่าปกติ ตั้งแต่ต้นปี 2556 เป็นต้นมา จำนวน 88 ราย ซึ่งอาจดูไม่สูงมาก แต่ในสัปดาห์ที่ผ่านมาพบผู้ป่วย 20 ราย จึงต้องเร่งควบคุมป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาต่อไป ซึ่งเป็นมาตรการเฉพาะหน้าจากการรณรงค์ในวันนี้พบว่า ในพื้นที่มีขยะจำนวนมาก และมีแหล่งน้ำขังซึ่งจะกลายเป็นที่วางไข่ของยุงลายก็จะเร่งปรับปรุงแก้ไขสิ่งแวดล้อมพร้อมกันไปด้วย ซึ่งในวันนี้มีการพ่นสารเคมีกำจัดยุงตัวแก่ แจกทรายกำจัดลูกน้ำยุงลาย มุ้งกันยุงจำนวน 500 หลัง สเปรย์กันยุง ยาทากันยุงและเอกสารความรู้เกี่ยวกับโรคไข้เลือดออกแจกให้ประชาชนด้วย
นพ.ประดิษฐ กล่าวต่อว่า ได้เร่งให้ทุกหน่วยงานกำจัดลูกน้ำยุงลายเพื่อลดปริมาณยุงให้ได้มากที่สุด ซึ่งจะเป็นการลดความเสี่ยงประชาชนจากการถูกยุงลายกัด ผลการดำเนินงานพบว่าได้ผลดี สามารถลดจำนวนผู้ป่วยไข้เลือดออกลงจากเดิมที่พบสัปดาห์ละ 7,000-8,000 รายเหลือสัปดาห์ละ 3,000 ราย อย่างไรก็ตามตั้งจะให้เหลือต่ำกว่า 1,000 รายต่อสัปดาห์ ให้ได้ ภายในเดือนกันยายนนี้ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะเร่งร่วมมือกับทุกหน่วยงานรณรงค์ให้ได้ตามเป้า
ทั้งนี้ สาเหตุที่ไข้เลือดออกระบาดมากในปีนี้ เนื่องมาจากฝนตกติดต่อกันมาก รวมทั้งวงจรโรคไข้เลือดออกมีการแพร่ระบาดทั่วภูมิภาคไม่ได้พบเฉพาะประเทศไทยที่เดียว สิ่งที่ประชาชนต้องร่วมมือกันควบคุมป้องกันโรคนี้ ประการแรกคือ การกำจัดยุงลายกำจัดลูกน้ำยุงลาย จะต้องทำอย่างสม่ำเสมอ ไม่ใช่ทำครั้งเดียวแล้วเลิก ประการที่ 2 หากประชาชนมีอาการป่วย สงสัยเป็นไข้เลือดออก อย่าซื้อยากินเองโดยเฉพาะยากลุ่มแอสไพริน ขอให้รีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลทันทีเนื่องจากเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้
นพ.ประดิษฐ กล่าวต่อไปว่า ข้อมูลจากการประชุมวอร์รูมประเมินสถานการณ์โรคไข้เลือดออกเพื่อติดตามเฝ้าระวังแก้ไขปัญหาไข้เลือดออกของ สธ. สัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่าจำนวนผู้ป่วยทั่วประเทศมีแนวโน้มลดลงแต่มีบางพื้นที่ยังพบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดที่มีพื้นที่ใหญ่ๆ เช่น เชียงใหม่ เชียงราย กทม. สงขลา และนครราชสีมา
" ขอย้ำเตือนประชาชนทุกเพศทุกวัยที่เป็นไข้ ขอให้เช็ดตัวบ่อยๆ ด้วยน้ำธรรมดา ผู้ใหญ่ให้รับประทานยาลดไข้พาราเซตามอล 1 เม็ด ทุก 6 ชั่วโมง หากเป็นเด็กให้รับประทานยาพาราเซตามอลตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้หากเช็ดตัวและรับประทานยาลดไข้แล้ว ไข้ไม่ลดลงภายใน 1-2 วัน และไม่มีอาการไอไม่มีน้ำมูก หรือมีอาการปวดท้อง อาเจียน หรือถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ ขอให้นึกถึงโรคไข้เลือดออก และให้พาผู้ป่วยไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลทันที ” นพ.ประดิษฐกล่าว
วันนี้ (1 ก.ย.) ที่ชุมชนหัวรถจักรตึกแดง เขตบางซื่อ กทม. นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมว.สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่ รณรงค์ป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก ที่ชุมชนบ้านพักรถไฟก่อสร้างบางซื่อและชุมชนหัวรถจักรตึกแดง เขต 1-3 พร้อมกับ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังทีมสำรวจและเจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 กรุงเทพฯและอาสาสมัครส่งเสริมสิทธิ (อสส.) ในพื้นที่ ว่า รัฐบาลมีนโยบายพัฒนายกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม ซึ่ง สธ.ดูแลคุณภาพชีวิตด้านสุขภาพวันนี้เป็นการมาดูปัญหาเฉพาะหน้าคือปัญหาการแพร่ระบาดโรคไข้เลือดออกในท้องถิ่นโดยเฉพาะพื้นที่เขตบางซื่อ ซึ่งพบอัตราป่วยไข้เลือดออกสูงกว่าปกติ ตั้งแต่ต้นปี 2556 เป็นต้นมา จำนวน 88 ราย ซึ่งอาจดูไม่สูงมาก แต่ในสัปดาห์ที่ผ่านมาพบผู้ป่วย 20 ราย จึงต้องเร่งควบคุมป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาต่อไป ซึ่งเป็นมาตรการเฉพาะหน้าจากการรณรงค์ในวันนี้พบว่า ในพื้นที่มีขยะจำนวนมาก และมีแหล่งน้ำขังซึ่งจะกลายเป็นที่วางไข่ของยุงลายก็จะเร่งปรับปรุงแก้ไขสิ่งแวดล้อมพร้อมกันไปด้วย ซึ่งในวันนี้มีการพ่นสารเคมีกำจัดยุงตัวแก่ แจกทรายกำจัดลูกน้ำยุงลาย มุ้งกันยุงจำนวน 500 หลัง สเปรย์กันยุง ยาทากันยุงและเอกสารความรู้เกี่ยวกับโรคไข้เลือดออกแจกให้ประชาชนด้วย
นพ.ประดิษฐ กล่าวต่อว่า ได้เร่งให้ทุกหน่วยงานกำจัดลูกน้ำยุงลายเพื่อลดปริมาณยุงให้ได้มากที่สุด ซึ่งจะเป็นการลดความเสี่ยงประชาชนจากการถูกยุงลายกัด ผลการดำเนินงานพบว่าได้ผลดี สามารถลดจำนวนผู้ป่วยไข้เลือดออกลงจากเดิมที่พบสัปดาห์ละ 7,000-8,000 รายเหลือสัปดาห์ละ 3,000 ราย อย่างไรก็ตามตั้งจะให้เหลือต่ำกว่า 1,000 รายต่อสัปดาห์ ให้ได้ ภายในเดือนกันยายนนี้ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะเร่งร่วมมือกับทุกหน่วยงานรณรงค์ให้ได้ตามเป้า
ทั้งนี้ สาเหตุที่ไข้เลือดออกระบาดมากในปีนี้ เนื่องมาจากฝนตกติดต่อกันมาก รวมทั้งวงจรโรคไข้เลือดออกมีการแพร่ระบาดทั่วภูมิภาคไม่ได้พบเฉพาะประเทศไทยที่เดียว สิ่งที่ประชาชนต้องร่วมมือกันควบคุมป้องกันโรคนี้ ประการแรกคือ การกำจัดยุงลายกำจัดลูกน้ำยุงลาย จะต้องทำอย่างสม่ำเสมอ ไม่ใช่ทำครั้งเดียวแล้วเลิก ประการที่ 2 หากประชาชนมีอาการป่วย สงสัยเป็นไข้เลือดออก อย่าซื้อยากินเองโดยเฉพาะยากลุ่มแอสไพริน ขอให้รีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลทันทีเนื่องจากเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้
นพ.ประดิษฐ กล่าวต่อไปว่า ข้อมูลจากการประชุมวอร์รูมประเมินสถานการณ์โรคไข้เลือดออกเพื่อติดตามเฝ้าระวังแก้ไขปัญหาไข้เลือดออกของ สธ. สัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่าจำนวนผู้ป่วยทั่วประเทศมีแนวโน้มลดลงแต่มีบางพื้นที่ยังพบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดที่มีพื้นที่ใหญ่ๆ เช่น เชียงใหม่ เชียงราย กทม. สงขลา และนครราชสีมา
" ขอย้ำเตือนประชาชนทุกเพศทุกวัยที่เป็นไข้ ขอให้เช็ดตัวบ่อยๆ ด้วยน้ำธรรมดา ผู้ใหญ่ให้รับประทานยาลดไข้พาราเซตามอล 1 เม็ด ทุก 6 ชั่วโมง หากเป็นเด็กให้รับประทานยาพาราเซตามอลตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้หากเช็ดตัวและรับประทานยาลดไข้แล้ว ไข้ไม่ลดลงภายใน 1-2 วัน และไม่มีอาการไอไม่มีน้ำมูก หรือมีอาการปวดท้อง อาเจียน หรือถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ ขอให้นึกถึงโรคไข้เลือดออก และให้พาผู้ป่วยไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลทันที ” นพ.ประดิษฐกล่าว