กทม.ร่วมมือเจ้าของที่จัดรูปที่ดินหวังลดปัญหาที่ดินตาบอดเริ่มโครงการแรกสำเร็จที่สวนหลวง ร.9 พร้อมอนุมัติที่ดิน กทม.4 แปลงเข้าร่วมโครงการ
นางสาวตรีดาว อภัยวงศ์ โฆษกประจำกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานครร่วมกับสมาคมจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่โครงการจัดรูปที่ดินบริเวณสวนหลวง ร.9 โดยมีเจ้าของที่ดิน จำนวน 32 ราย ดำเนินโครงการจัดรูปที่ดินบริเวณสวนหลวง ร.9 แขวงหนองบอน เขตประเวศ ที่เคยมีปัญหาเป็นพื้นที่ไม่มีทางเข้าออก ซึ่งถือเป็นโครงการจัดรูปที่ดินโครงการแรกที่ดำเนินการในรูปแบบสมาคมได้ประสบผลสำเร็จ โดยปัจจุบันกรมที่ดินได้ออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินตามผังที่ดินแปลงใหม่และส่งมอบคืนเจ้าของที่ดินในโครงการเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการถมดินเพื่อก่อสร้างถนนในโครงการ คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2557
นางสาวตรีดาว กล่าวต่อว่า การจัดรูปที่ดินในครั้งนี้ นอกจากเจ้าของที่ดินจะได้รับประโยชน์ในด้านการแก้ไขปัญหาพื้นที่ตาบอด ความไม่เป็นธรรมที่เกิดจากการเวนคืนที่ดินแล้ว เจ้าของที่ดินยังสามารถอาศัยอยู่ที่เดิมได้โดยมีบริการพื้นฐานที่จำเป็นเหมาะสมกับพื้นที่และสามารถพัฒนาที่ดินของตนได้อย่างเต็มที่ ตลอดจนได้รับประโยชน์จากมูลค่าที่ดินเพิ่มขึ้นอีกด้วย ในขณะที่ กทม.เองสามารถเข้าไปจัดบริการสาธารณะพื้นฐาน เช่น ถนนสวนสาธารณะที่ได้มาตรฐานและประหยัดงบประมาณ สามารถจัดระเบียบรูปแปลงที่ดินได้อย่างสวยงาม บรรลุวัตถุประสงค์ในการวางผังให้เป็นไปตามแผนผังการพัฒนาที่ดินและสามารถเก็บภาษีที่ดินและโรงเรือนได้เพิ่มขึ้นจากการพัฒนาที่ตามมาภายหลัง นอกจากนี้สังคมโดยรวมยังได้รับประโยชน์จากการลดภาวะการกักตุนและเก็งกำไรที่ดิน และเปิดโอกาสให้มีที่ดินเข้าสู่ตลาดการพัฒนาสังหาริมทรัพย์อย่างเป็นระบบอีกด้วย
นางสาวตรีดาว กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตาม โครงการจัดรูปที่ดินบริเวณสวนหลวง ร.9 แขวงหนองบอน เขตประเวศ จากเดิมเป็นพื้นที่ที่ไม่มีทางเข้าออก เนื่องจากมีที่ดินของ กทม.อยู่ด้านหน้าเป็นแนวยาวปิดกั้นที่ดินที่อยู่ด้านหลังจำนวน 4 แปลง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจึงได้อนุมัติให้นำที่ดิน กทม.เข้าร่วมโครงการจัดรูปที่ดิน โดยได้ยื่นคำขอจดทะเบียนสมาคมฯ ตามพระราชบัญญัติจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ พ.ศ.2547 เมื่อปี 2553 โครงการมีพื้นที่ 54-3-18 ไร่ เจ้าของที่ดิน 32 ราย และจำนวนแปลงที่ดิน 56 แปลง โดยการจัดรูปที่ดินในครั้งนี้ ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะที่ปรึกษาโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่บริเวณสวนหลวง ร.9 ประกอบด้วยผู้แทนคณะกรรมการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่กรุงเทพมหานคร ผู้ทรงคุณวุฒิ และเจ้าของที่ดิน และคณะกรรมการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่กรุงเทพมหานครได้พิจารณาเกี่ยวกับอัตราการปันส่วนที่ดินร้อยละ 17.5 งบประมาณในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการดำเนินโครงการจำนวน 43.664 ล้านบาท ซึ่งไม่ได้ใช้งบประมาณของกรุงเทพมหานคร แต่ได้จากการขายพื้นที่จัดหาประโยชน์ 1,374 ตร.ว.ค่าชดเชยการก่อสร้างถนน การแบ่งแปลงที่ดินตามกรรมสิทธิ์ร่วม และมีมติเห็นชอบผังที่ดินแปลงใหม่และจำนวนค่าชดเชยโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่บริเวณสวนหลวง ร.9 โดยไม่มีค่าชดเชยในการดำเนินโครงการ ซึ่งทางสมาคมจัดรูปที่ดินฯ ได้ดำเนินการปรับระดับพื้นที่โครงการ ก่อสร้างถนนในโครงการ และได้ดำเนินการรังวัดแบ่งแยกในนามเดิมและร่วมทำการรังวัดปักหลักหมายเขตที่ดินในพื้นที่โครงการไปแล้ว
“ทั้งนี้ หากประชาชนมีที่ดินตาบอด และประสงค์จะให้จัดรูปที่ดินสามารถรวมตัวกับเจัาของที่ดินข้างเคียงที่ประสบปัญหาเหมือนกันติดต่อมายังสำนักผังเมือง กรุงเทพมหานคร เพื่อส่งเจ้าหน้าที่ออกสำรวจพื้นที่ศึกษาความเป็นไปได้ของเส้นทางการเชื่อมต่อกับถนนโดยรอบว่ามีเส้นทางใดบ้าง จากนั้นจะนัดมาหารือตกลงกัน เพราะเจ้าของที่ดินที่ร่วมโครงการอาจต้องสละที่ดินบางส่วนเพื่อก่อสร้างถนนที่เข้าถึงที่ดิน และจัดรูปที่ดินให้เป็นไปตามความต้องการของเจ้าของที่ดินที่ร่วมโครงการเป็นสำคัญ โดยสามารถติดต่อมายังสำนักผังเมือง เลขที่ 44 ถนนวิภาวดีรังสิต ดินแดง กรุงเทพฯ โทร.02 354 1280 หรือ email :lrbma2013@gmail.com หรือ Facebook : “กองจัดรูปที่ดินและปรับปรุงฟื้นฟูเมือง” โฆษกประจำ กทม.กล่าว
นางสาวตรีดาว อภัยวงศ์ โฆษกประจำกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานครร่วมกับสมาคมจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่โครงการจัดรูปที่ดินบริเวณสวนหลวง ร.9 โดยมีเจ้าของที่ดิน จำนวน 32 ราย ดำเนินโครงการจัดรูปที่ดินบริเวณสวนหลวง ร.9 แขวงหนองบอน เขตประเวศ ที่เคยมีปัญหาเป็นพื้นที่ไม่มีทางเข้าออก ซึ่งถือเป็นโครงการจัดรูปที่ดินโครงการแรกที่ดำเนินการในรูปแบบสมาคมได้ประสบผลสำเร็จ โดยปัจจุบันกรมที่ดินได้ออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินตามผังที่ดินแปลงใหม่และส่งมอบคืนเจ้าของที่ดินในโครงการเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการถมดินเพื่อก่อสร้างถนนในโครงการ คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2557
นางสาวตรีดาว กล่าวต่อว่า การจัดรูปที่ดินในครั้งนี้ นอกจากเจ้าของที่ดินจะได้รับประโยชน์ในด้านการแก้ไขปัญหาพื้นที่ตาบอด ความไม่เป็นธรรมที่เกิดจากการเวนคืนที่ดินแล้ว เจ้าของที่ดินยังสามารถอาศัยอยู่ที่เดิมได้โดยมีบริการพื้นฐานที่จำเป็นเหมาะสมกับพื้นที่และสามารถพัฒนาที่ดินของตนได้อย่างเต็มที่ ตลอดจนได้รับประโยชน์จากมูลค่าที่ดินเพิ่มขึ้นอีกด้วย ในขณะที่ กทม.เองสามารถเข้าไปจัดบริการสาธารณะพื้นฐาน เช่น ถนนสวนสาธารณะที่ได้มาตรฐานและประหยัดงบประมาณ สามารถจัดระเบียบรูปแปลงที่ดินได้อย่างสวยงาม บรรลุวัตถุประสงค์ในการวางผังให้เป็นไปตามแผนผังการพัฒนาที่ดินและสามารถเก็บภาษีที่ดินและโรงเรือนได้เพิ่มขึ้นจากการพัฒนาที่ตามมาภายหลัง นอกจากนี้สังคมโดยรวมยังได้รับประโยชน์จากการลดภาวะการกักตุนและเก็งกำไรที่ดิน และเปิดโอกาสให้มีที่ดินเข้าสู่ตลาดการพัฒนาสังหาริมทรัพย์อย่างเป็นระบบอีกด้วย
นางสาวตรีดาว กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตาม โครงการจัดรูปที่ดินบริเวณสวนหลวง ร.9 แขวงหนองบอน เขตประเวศ จากเดิมเป็นพื้นที่ที่ไม่มีทางเข้าออก เนื่องจากมีที่ดินของ กทม.อยู่ด้านหน้าเป็นแนวยาวปิดกั้นที่ดินที่อยู่ด้านหลังจำนวน 4 แปลง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจึงได้อนุมัติให้นำที่ดิน กทม.เข้าร่วมโครงการจัดรูปที่ดิน โดยได้ยื่นคำขอจดทะเบียนสมาคมฯ ตามพระราชบัญญัติจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ พ.ศ.2547 เมื่อปี 2553 โครงการมีพื้นที่ 54-3-18 ไร่ เจ้าของที่ดิน 32 ราย และจำนวนแปลงที่ดิน 56 แปลง โดยการจัดรูปที่ดินในครั้งนี้ ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะที่ปรึกษาโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่บริเวณสวนหลวง ร.9 ประกอบด้วยผู้แทนคณะกรรมการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่กรุงเทพมหานคร ผู้ทรงคุณวุฒิ และเจ้าของที่ดิน และคณะกรรมการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่กรุงเทพมหานครได้พิจารณาเกี่ยวกับอัตราการปันส่วนที่ดินร้อยละ 17.5 งบประมาณในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการดำเนินโครงการจำนวน 43.664 ล้านบาท ซึ่งไม่ได้ใช้งบประมาณของกรุงเทพมหานคร แต่ได้จากการขายพื้นที่จัดหาประโยชน์ 1,374 ตร.ว.ค่าชดเชยการก่อสร้างถนน การแบ่งแปลงที่ดินตามกรรมสิทธิ์ร่วม และมีมติเห็นชอบผังที่ดินแปลงใหม่และจำนวนค่าชดเชยโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่บริเวณสวนหลวง ร.9 โดยไม่มีค่าชดเชยในการดำเนินโครงการ ซึ่งทางสมาคมจัดรูปที่ดินฯ ได้ดำเนินการปรับระดับพื้นที่โครงการ ก่อสร้างถนนในโครงการ และได้ดำเนินการรังวัดแบ่งแยกในนามเดิมและร่วมทำการรังวัดปักหลักหมายเขตที่ดินในพื้นที่โครงการไปแล้ว
“ทั้งนี้ หากประชาชนมีที่ดินตาบอด และประสงค์จะให้จัดรูปที่ดินสามารถรวมตัวกับเจัาของที่ดินข้างเคียงที่ประสบปัญหาเหมือนกันติดต่อมายังสำนักผังเมือง กรุงเทพมหานคร เพื่อส่งเจ้าหน้าที่ออกสำรวจพื้นที่ศึกษาความเป็นไปได้ของเส้นทางการเชื่อมต่อกับถนนโดยรอบว่ามีเส้นทางใดบ้าง จากนั้นจะนัดมาหารือตกลงกัน เพราะเจ้าของที่ดินที่ร่วมโครงการอาจต้องสละที่ดินบางส่วนเพื่อก่อสร้างถนนที่เข้าถึงที่ดิน และจัดรูปที่ดินให้เป็นไปตามความต้องการของเจ้าของที่ดินที่ร่วมโครงการเป็นสำคัญ โดยสามารถติดต่อมายังสำนักผังเมือง เลขที่ 44 ถนนวิภาวดีรังสิต ดินแดง กรุงเทพฯ โทร.02 354 1280 หรือ email :lrbma2013@gmail.com หรือ Facebook : “กองจัดรูปที่ดินและปรับปรุงฟื้นฟูเมือง” โฆษกประจำ กทม.กล่าว