xs
xsm
sm
md
lg

ในหลวงพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ “สมเด็จเกี่ยว” พระเทพฯเสด็จฯแทนพระองค์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online




ในหลวงพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ “สมเด็จเกี่ยว” สมเด็จพระเทพฯ เสด็จฯแทนพระองค์สรงน้ำ ด้านพระสงฆ์ทำพิธีสามีจิกรรม (กราบขอขมา) ส่วนประชาชนแห่สักการะล้นช่วงบ่าย รองเจ้าอาวาสวัดสระเกศ เผยเปิดให้พุทธศาสนิกชนเป็นเจ้าภาพงานสวดพระอภิธรรม 100 วัน






























วันนี้ (11 ส.ค.) เมื่อเวลา 09.09 น. ที่โรงพยาบาลสมิติเวช ได้มีพิธีเคลื่อนศพ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก ในฐานะประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ซึ่งได้มรณภาพลงด้วยอาการติดเชื้อในกระแสโลหิต สิริอายุ 85 ปี 6 เดือน มายังศาลาการเปรียญ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร โดยมีคณะสงฆ์ และฆราวาส มาร่วมเคลื่อนศพเป็นจำนวนมาก อาทิ พระพรหมสุธี กรรมการ มส.ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ พระพรหมสิทธิ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ พระพรหมเวที เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส พระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) พร้อมทั้งศิษยานุศิษย์ พุทธศาสนิกชน ร่วมเคลื่อนศพในครั้งนี้ด้วย

เมื่อเวลา 09.22 น.ขบวนได้เคลื่อนมาถึงวัดสระเกศ โดยได้เคลื่อนศพ สมเด็จพระพุฒาจารย์ ไปตั้งไว้บริเวณกลางศาลาการเปรียญ จากนั้นคณะสงฆ์จากทั่วประเทศ ได้กระทำสามีจิกรรม (กราบขอขมา) โดยพระวิจิตรธรรมาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ กล่าวว่า การเคลื่อนศพ สมเด็จพระพุฒาจารย์ จากโรงพยาบาลสมิติเวช มายังศาลาการเปรียบวัดสระเกศ เป็นที่เรียบร้อย โดยเปิดให้คณะสงฆ์ได้กระทำสามีจิกรรม (กราบขอขมา) ส่วนในช่วงเวลา 13.00 น.ทางวัดได้เปิดให้พุทธศาสนิกชนได้เข้าสักการะศพ จนกระทั่งถึงเวลา 16.00 น.จะหยุดให้เข้าสักการะ เนื่องจากเวลา 17.00 น.เป็นช่วงพิธีพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ โดยมี สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯแทนพระองค์พระราชทานน้ำหลวงสรงศพ จากนั้นจะมีพิธีสวดพระอภิธรรม ซึ่งจะอยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์ 7 วัน ซึ่งหลังจากนั้น คณะสงฆ์วัดสระเกศ ได้หารือกันแล้วว่า จะตั้งบำเพ็ญกุศลศพ สมเด็จพระพุฒาจารย์ อีก 100 วัน โดยจะเปิดให้พุทธศาสนิกชน ศิษยานุศิษย์ ได้มาสักการะกันให้ทั่วถึง ทั้งนี้ทางวัดยังได้ทำล็อกเกตรูปสมเด็จพระพุฒาจารย์ ไว้แจกแก่พุทธศานิกชนที่เดินทางมาสักการะศพด้วย

นายพงศ์เทพ กล่าวว่า เมื่อทราบข่าวการมรณภาพของสมเด็จพระพุฒาจารย์ ก็ตกใจและเสียใจมาก เพราะเคยได้มาสักการะท่านหลายครั้ง วันนี้ตนได้เดินทางมาร่วมเคลื่อนศพสมเด็จพระพุฒาจารย์ จากโรงพยาบาลสมิติเวช มายังวัดสระเกศ ซึ่งท่านถือเป็นพระมหาเถระชั้นผู้ใหญ่ที่ได้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนามากมาย จึงเป็นที่น่าเสียดาย ส่วนทางรัฐบาล ขณะนี้ได้แจ้งไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อแจ้งให้รัฐมนตรีทุกท่านได้รับทราบว่า ในช่วงเย็นจะมีพิธีพระราชทานน้ำหลวงสรงศพสมเด็จพระพุฒาจารย์แล้ว

ต่อมาเวลา 13.00 น.ที่บริเวณศาลาการเปรียญ วัดสระเกศ ได้เปิดให้ประชาชนได้เข้าสักการะศพ สมเด็จพระพุฒาจารย์ ซึ่งมีประชาชนเป็นจำนวนมากหลั่งไหลมารอสักการะศพตั้งแต่ช่วงเช้า โดยมารอยืนเข้าแถวบริเวณหน้าศาลาการเปรียญ เพื่อที่ได้เข้าไปสักการะศพภายในอาคารอย่างใกล้ชิด ในการแสดงความอาลัยในครั้งสุดท้าย ทั้งนี้ ในช่วงเวลาดังกล่าว ยังได้มีบุคคลสำคัญเข้าสักการะศพอย่างต่อเนื่อง อาทิ สมเด็จพระธีรญาณมุนี วัดเทพศิรินทราวาส นายเสนาะ เทียนทอง เป็นต้น

เมื่อเวลา 15.00 น.สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงประทานน้ำสรงศพสมเด็จพระพุฒาจารย์ โดยมี พระเทพสารเวที ปฏิบัติหน้าที่เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เป็นผู้แทนพระองค์นำมาถวาย

เมื่อเวลา 16.00น. ทางวัดได้ยุติการให้ประชาชนเข้าถวายน้ำสรงศพสมเด็จพระพุฒาจารย์ เพื่อเตรียมการในการรับเสด็จสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่จะเสด็จฯเป็นองค์ประธานในพิธีพระราชทานน้ำหลวงสรงศพสมเด็จพระพุฒาจารย์ โดยมีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี(ครม.) เฝ้ารับเสด็จ

ต่อมาเวลา 17.15น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯแทนพระองค์ไปพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ สมเด็จพระพุฒาจารย์ ที่ศาลาการเปรียญ วัดสระเกศฯ ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระราชทานพวงมาลา วางหน้าโกศด้วย

นอกจากนี้ ยังมีรายงานความเคลื่อนไหวของพุทธศาสนิกชนในต่างประเทศที่ให้ความสนใจกับข่าวการสูญเสียดังกล่าว และต้องการที่จะเข้าร่วมพิธีสวดพระอภิธรรมศพเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ โดยสามารถเดินทางไปร่วมพิธีได้ที่วัดไทยในประเทศต่างๆ ด้วยเช่นกัน

ด้านนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.พศ.กล่าวว่า หลังจากที่เราได้สูญเสีย สมเด็จพระพุฒาจารย์ ซึ่งท่านได้ดำรงตำแหน่งสำคัญในคณะสงฆ์ ตั้งแต่เจ้าอาวาสวัดสระเกศ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก และประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช นั้น โดยหลักการแล้ว จะต้องมีคัดเลือกพระมหาเถระ เพื่อมาปฏิบัติหน้าที่แทนในตำแหน่งดังกล่าว โดยในส่วนของตำแหน่งประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชนั้น ขณะนี้ได้มีแนวทางการคัดเลือกไว้ 3 รูปแบบ คือ 1.รอให้มีการตั้ง สมเด็จพระราชาคณะรูปใหม่ แทนสมเด็จพระพุฒาจารย์ก่อน เพื่อให้คณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชครบองค์ประชุม 8 รูป เพื่อดำเนินการโหวดเพื่อเลือก ประธานคณะฯ 2.คณะผู้ปฏิบัติหน้าที่ฯทั้ง 7 รูปที่เหลือ ประชุมอย่างเป็นทางการ เพื่อเลือกประธานฯ 3. คณะผู้ปฏิบัติหน้าที่ทั้ง 7 รูป หารือกันนอกรอบเป็นการภายใน ในการเลือก ประธานฯ ก็สามารถทำได้ ทั้งนี้ ตนจะนำแนวทางดังกล่าว เสนอเข้าที่ประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) ในวันที่ 20 ส.ค.นี้

สำหรับการพิจารณาคัดเลือกพระรูปที่เหมาะสมในการดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก มส.จะเป็นผู้พิจารณาพระรูปที่เหมาะสมจะมาดำรงตำแหน่งดังกล่าว สำหรับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสระเกศนั้น วัดจะต้องมีการประชุมสงฆ์ เพื่อเลือกจาก ผู้ช่วยเจ้าอาวาสภายในวัด ตามธรรมเนียมปฏิบัติจะยึดผู้อาวุโสทางสมณศักดิ์ เป็นเกณฑ์ในการเลือกเจ้าอาวาสใหม่

ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากลูกศิษย์ใกล้ชิดกับ สมเด็จพระพุฒาจารย์ ถึงการมรณภาพครั้งนี้ว่า เป็นประสงค์ของสมเด็จพระพุฒาจารย์เอง โดยก่อนถึงวันมรณภาพ สมเด็จพระพุฒาจารย์ กล่าวว่า “ขอให้หลวงปู่ไปเถอะ”







































กำลังโหลดความคิดเห็น