ไร้เงา “เณรคำ”-ลูกศิษย์ แจงกรมศิลป์กรณีไม่ขออนุญาตสร้างพระแก้วมรกต กรมศิลป์ อัดอั้นระเบียบไม่มีการกำหนดโทษ ทำได้เพียงแจ้งให้ทราบเท่านั้น
นายสหวัฒน์ แน่นหนา อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า สืบเนื่องจากตนได้ทำหนังสือ เรื่อง การจำลองพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) ถึง พระวิรพล ฉัตติโก หรือ หลวงปู่เณรคำ เมื่อ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ทางหลวงปู่เณรคำ หรือตัวแทนลูกศิษย์ ฝ่ายกฎหมายใดๆ ยังไม่มีการติดต่อกลับมายังกรมศิลปากร อย่างไรก็ตาม หากที่สุดแล้วทางหลวงปู่เณรคำ หรือทางวัดป่าขันติธรรมไม่ติดต่อกลับมาทางกรมศิลปากรก็ไม่สามารถเข้าไปทำอะไรได้ ซึ่งกรมศิลปากรรู้สึกอึดอัดใจเหมือนกัน เพราะมีแต่ระเบียบเท่านั้นไม่มีกฎหมายบังคับ จึงไม่ได้มีการระบุโทษ และกรมศิลป์ไม่มีอำนาจเข้าไปดำเนินการใดๆ นอกจากแจ้งให้ทราบว่ากำลังทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ควรจะมาชี้แจงและขออนุญาตให้ถูกต้องเท่านั้น
นายสหวัฒน์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีมีข้อสงสัยว่าพระแก้วมรกตจำลองของสำนักสงฆ์ขันติธรรมไม่ได้สร้างจากหยกแท้ตามที่ทางสำนักสงฆ์ขันติธรรมกล่าวอ้าง โดยที่จริงแล้วสร้างจากผงเรซินผสมหินสีเขียวเท่านั้น เรื่องนี้จริงๆ ไม่ใช่หน้าที่กรมศิลปากรโดยตรงแต่ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือว่าอีเอสไอ ประสานมาเพื่อขอให้เราเข้าไปช่วยตรวจสอบ กรมศิลปากรก็พร้อมส่งช่างและเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยพิสูจน์มาสร้างมาจากอะไร
นายอำนาจ บัวศิริ รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า กรณีที่หลายคนสอบถามว่าจะทำอย่างไรหากหลวงปู่เณรคำ ไม่ยอมเดินทางกลับมายังประเทศไทย หากหลวงปู่เณรคำรู้ว่าตัวเองทำผิดจริงก็สึกทันที หรือว่าเดินทางกลับมาสึกที่ประเทศไทย ซึ่งเรื่องทางสงฆ์ก็จะจบไป ส่วนเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับคดีก็ต้องกลับมาต่อสู้หรือว่าชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ควรปล่อยให้เรื่องต่างๆ วุ่นวายอย่างนี้ อย่างไรก็ตามหากดีเอสไอหรือว่าเจ้าหน้าที่สรุปออกมาว่ามีความผิดทางอาญาจริง แต่ปรากฏว่าหลวงปู่เณรคำไม่ยอมกลับมาคิดว่าจะน่านำกฎหมายระหว่างประเทศมาบังคับใช้เพื่อนำตัวกลับมาได้
นายสหวัฒน์ แน่นหนา อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า สืบเนื่องจากตนได้ทำหนังสือ เรื่อง การจำลองพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) ถึง พระวิรพล ฉัตติโก หรือ หลวงปู่เณรคำ เมื่อ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ทางหลวงปู่เณรคำ หรือตัวแทนลูกศิษย์ ฝ่ายกฎหมายใดๆ ยังไม่มีการติดต่อกลับมายังกรมศิลปากร อย่างไรก็ตาม หากที่สุดแล้วทางหลวงปู่เณรคำ หรือทางวัดป่าขันติธรรมไม่ติดต่อกลับมาทางกรมศิลปากรก็ไม่สามารถเข้าไปทำอะไรได้ ซึ่งกรมศิลปากรรู้สึกอึดอัดใจเหมือนกัน เพราะมีแต่ระเบียบเท่านั้นไม่มีกฎหมายบังคับ จึงไม่ได้มีการระบุโทษ และกรมศิลป์ไม่มีอำนาจเข้าไปดำเนินการใดๆ นอกจากแจ้งให้ทราบว่ากำลังทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ควรจะมาชี้แจงและขออนุญาตให้ถูกต้องเท่านั้น
นายสหวัฒน์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีมีข้อสงสัยว่าพระแก้วมรกตจำลองของสำนักสงฆ์ขันติธรรมไม่ได้สร้างจากหยกแท้ตามที่ทางสำนักสงฆ์ขันติธรรมกล่าวอ้าง โดยที่จริงแล้วสร้างจากผงเรซินผสมหินสีเขียวเท่านั้น เรื่องนี้จริงๆ ไม่ใช่หน้าที่กรมศิลปากรโดยตรงแต่ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือว่าอีเอสไอ ประสานมาเพื่อขอให้เราเข้าไปช่วยตรวจสอบ กรมศิลปากรก็พร้อมส่งช่างและเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยพิสูจน์มาสร้างมาจากอะไร
นายอำนาจ บัวศิริ รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า กรณีที่หลายคนสอบถามว่าจะทำอย่างไรหากหลวงปู่เณรคำ ไม่ยอมเดินทางกลับมายังประเทศไทย หากหลวงปู่เณรคำรู้ว่าตัวเองทำผิดจริงก็สึกทันที หรือว่าเดินทางกลับมาสึกที่ประเทศไทย ซึ่งเรื่องทางสงฆ์ก็จะจบไป ส่วนเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับคดีก็ต้องกลับมาต่อสู้หรือว่าชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ควรปล่อยให้เรื่องต่างๆ วุ่นวายอย่างนี้ อย่างไรก็ตามหากดีเอสไอหรือว่าเจ้าหน้าที่สรุปออกมาว่ามีความผิดทางอาญาจริง แต่ปรากฏว่าหลวงปู่เณรคำไม่ยอมกลับมาคิดว่าจะน่านำกฎหมายระหว่างประเทศมาบังคับใช้เพื่อนำตัวกลับมาได้