xs
xsm
sm
md
lg

พศ.จวก “เณรคำ” โยกเงินบุญเข้าบัญชีส่วนตัว เสนอใช้ กม.ฟอกเงินตรวจสอบวัด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พศ.อัด “เณรคำ” ไม่ควรนำเงินญาติโยมบริจาคเก็บไว้ในชื่อส่วนตัว ควรใช้ชื่อวัด เสนอใช้กฎหมายฟอกเงินเข้าไปตรวจสอบวัด ขณะที่ มจร.จัดถก “วิกฤติศรัทธา : ปัญหาและทางออก”

ดร.อำนาจ บัวศิริ รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าวว่า จากการที่ตนได้รับทราบข้อมูลจากประชาชนว่า หลวงปู่เณรคำมีบัญชีส่วนตัวหลายบัญชีนั้น หากการบริจาคของญาติโยม ต้องการที่จะถวายให้แก่ตัวพระสงฆ์โดยตรง ก็สามารถเก็บไว้ในบัญชีส่วนตัวได้ ส่วนหากญาติโยมต้องการบริจาคให้วัด ก็ต้องเก็บไว้ในบัญชีของวัดไม่ใช่ของเจ้าอาวาส ส่วนกรณีของหลวงปู่เณรคำนั้น หลวงปู่เณรคำ มีสถานะเป็นพระทั่วไปไม่ได้เป็นเจ้าอาวาส เพราะวัดป่าขันติธรรมนั้น ยังไม่ได้ตั้งวัดโดยสมบูรณ์ มีการตั้งเป็นมูลนิธิขึ้นมา เพื่อขอรับบริจาคในการสร้างวัด การถวายของญาติ ก็แบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ บัญชีมูลนิธิ และถวายโดยตรงกับหลวงปู่เณรคำ ซึ่งใน 2 ส่วนนี้ ยังไม่มีกฎหมายให้อำนาจในการเข้าไปตรวจสอบบัญชีส่วนตัวของพระ และของวัดได้ เพราะวัดเป็นนิติบุคคล ที่ไม่ใช่การดำเนินการแบบบริษัททั่วไป

“สิ่งเดียวที่จะทำได้ คือใช้กฎหมายฟอกเงินเข้าไปตรวจสอบวัด โดยเฉพาะกรณีเหลวงปู่เณรคำ ก็สามารถใช้กฎหมายดังกล่าวนี้เข้าไปตรวจสอบได้ แต่หากอีกฝ่ายไม่ผิด เขาก็สามารถดำเนินการทางกฎหมายได้เช่นเดียวกัน ส่วนการเรี่ยไรนั้น หากพระขอเรี่ยไรในวัด ก็สามารถดำเนินการได้ แต่หากเป็นนอกวัดหรือนอกพื้นที่ ก็ต้องขออนุญาตเจ้าคณะปกครองในพื้นที่นั้นๆ หากไม่ขออนุญาตก็ถือว่า มีความผิด อย่างไรก็ตาม สำหรับความคืบหน้าการตรวจสอบข้อมูลของหลวงปู่เณรคำนั้น ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลอะไรเพิ่มเติม ซึ่งต้องรอดูข้อมูลจากเจ้าคณะปกครองพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ” รอง ผอ.พศ.กล่าว

พระราชธรรมโกศล(สวัสดิ์) เจ้าอาวาสวัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ในฐานะเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า ขณะนี้ทางวัดได้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณา การให้อยู่ในสังกัดวัดใต้ใหญ่พระเจ้าองค์ตื้อ โดยจะรอผลการตรวจสอบของทางเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ หากพบว่า มีความผิดในกรณีต่างๆ ทางวัด ก็ต้องดำเนินการขับพระวิรพล สุขผล ออกจากสังกัดวัด ส่วนสาเหตุที่ยังให้ หลวงปู่เณรคำ ยังอยู่ในสังกัดวัด ตั้งแต่ปี 2549 นั้น ต้องเข้าใจด้วยว่า พระเราต้องอยู่กันด้วยความเมตตาต่อกัน เมื่อพระมาขออยู่ในสังกัดเราก็อนุญาต เพราะมองว่า เป็นพระด้วยกันและไม่ได้มีเรื่องเสียหายอะไร อย่างไรก็ตาม จากนี้ไป วัดก็ต้องรอผลการตรวจสอบข้อมูลของทางจังหวัดศรีสะเกษอีกครั้ง

ด้านนายสหวัฒน์ แน่นหนา อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า จากการตรวจสอบล่าสุดทางหลวงปู่เณรคำ หรือว่าลูกศิษย์ยังไม่ได้แจ้งกลับมายังกรมศิลปากร หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาแจ้งไปที่พักสงฆ์ป่าขันติธรรม ให้รับทราบว่าการดำเนินการก่อสร้างพระพุทธมณีมหารัตนปฏิมากร หรือ พระแก้วมรกต ดำเนินการไม่ถูกต้องตามระเบียบ เนื่องจากพระแก้วมรกตเป็นพระพุทธรูปสำคัญ 1 ใน 61 รายการที่ต้องขออนุญาตก่อนจัดสร้างตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการก่อสร้างอนุสาวรีย์แห่งชาติและการจำลองพระพุทธรูปสำคัญ พ.ศ. 2520

มจร.จัดถก “วิกฤติศรัทธา : ปัญหาและทางออก”
พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส หัวหน้าโครงการปริญญาโทหลักสูตรสันติศึกษา และ ผอ.สถาบันภาษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับพระสงฆ์ในระยะนี้ส่งผลกระทบต่อศรัทธาของชาวพุทธที่มีต่อพระพุทธศาสนาพอสมควร ทาง มจร.มิได้นิ่งนอนใจกับปัญหาดังกล่าว จึงได้กำนัดจัดการเสวนาทางวิชาการเรื่อง “วิกฤติศรัทธา : ปัญหาและทางออก” ขึ้น ณ ห้องสันติภาพ ชั้น 4 อาคารเรียนรวม โซน ดี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ในวันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคมนี้ เวลา 13.00-16.30 น.โดยเป็นการระดมความคิดเห็นว่าจะสร้างองค์ความรู้เพื่อดึงศรัทธาให้กลับมาเป็นดังเดิมได้อย่างไร พระมหาหรรษา กล่าวต่อว่า วิทยากรผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย พระศรีคัมภีรญาณ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มจร.นายสันตศักดิ์ จรูญงามพิเชษฐ์ ประธานคณะกรรมาธิการการศาสนาศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ นายณรงค์ หนูเชื้อ นายกสมาคมสื่อมวลชนพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรมไทยแห่งชาติ ดำเนินรายการ โดยนายก่อเขต จันทเลิศลักษณ์ ผู้ดำเนินรายการตอบโจทย์ ไทยพีบีเอส


กำลังโหลดความคิดเห็น