นพ.เวสารัช เวสสโกวิท แพทย์ผู้เชี่ยวชาญและคณะกรรมการอำนวยการ สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย
Stem cells หรือ เซลล์ต้นกำเนิด เป็นเซลล์ที่แบ่งตัวให้เกิดเป็นเซลล์ทั้งหมดของสิ่งมีชีวิตทั้งปวง มีอยู่ในทุกอวัยวะของร่างกาย และเนื่องจากเซลล์ต้นกำเนิดมีความสามารถในการแบ่งตัวเป็นเซลล์ต่างๆ ได้หลายชนิด ทางการแพทย์จึงมีผู้สนใจคิดจะนำเซลล์ดังกล่าวมาใช้ในการรักษาโรค
เซลล์ต้นกำเนิดมี 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่ เซลล์ต้นกำเนิดที่ได้มาจากตัวอ่อน (embryonic stem cells) กับเซลล์ต้นกำเนิดที่ไม่ได้มาจากตัวอ่อน (adult stem cells) เซลล์ต้นกำเนิดที่มาจากตัวอ่อนจะมีความสามารถในการแบ่งตัวเป็นเซลล์หลายชนิด ดังนั้นการใช้เซลล์ต้นกำเนิดจากตัวอ่อนในการรักษาอาจกลับทำให้เป็นเนื้องอกขึ้นมาได้ จึงมักใช้เซลล์ต้นกำเนิดที่ไม่ได้มาจากตัวอ่อนมากกว่า ซึ่งมีการนำเซลล์ดังกล่าว มาปลูกถ่ายเพื่อใช้รักษาโรคหลายชนิดโดยล้วนแต่อยู่ในระยะวิจัยทั้งสิ้น
ปัจจุบันการรักษาโรคต่างๆ โดยใช้เซลล์ต้นกำเนิดที่ไม่ได้มาจากตัวอ่อน มีเฉพาะโรคทางโลหิตวิทยาเท่านั้นที่เป็นมาตรฐานในการรักษาโรค ส่วนโรคอื่นๆ ทั้งหมดถือเป็นการวิจัยแพทย์ ผู้ให้การรักษาผู้ป่วยด้วยเซลล์ดังกล่าว จะต้องอยู่ภายใต้ข้อบังคับแพทยสภาว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรมเรื่องการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเพื่อการรักษา พ.ศ. 2552 กล่าวโดยย่อคือ การนำเซลล์ดังกล่าวมาใช้ในการรักษาจะต้องเป็นการรักษามาตรฐานที่แพทยสภายอมรับเท่านั้น
ส่วนการวิจัยปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดในผู้ป่วยจะต้องได้รับอนุมัติก่อน โดยผู้ทำการรักษาจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะสาขาที่ได้รับการรับรองจากแพทยสภา และได้รับการขึ้นทะเบียนให้ทำการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเท่านั้น ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน เนื่องจากมีการโฆษณาชวนเชื่อเกินจริงเกี่ยวกับการรักษาด้วยเซลล์ต้นกำเนิดจำนวนมาก ทำให้ประชาชนหลงเชื่อเสียเงินเพื่อการรักษา นอกจากจะไม่เกิดประโยชน์แล้วยังอาจเกิดอันตรายรุนแรงกับผู้ป่วยถึงแก่ชีวิตได้ มีกระบวนการหลอกประชาชนว่าสามารถนำเซลล์ต้นกำเนิดจากผลไม้หรือสัตว์มาใช้ทา รับประทาน หรือฉีด เหล่านี้ล้วนแต่ไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าเกิดประโยชน์ชัดเจน
การรักษาโรคต่างๆ ด้วยเซลล์ต้นกำเนิด ผู้ป่วยควรจะสอบถามแพทย์ผู้ให้การรักษาก่อนว่าแพทย์ได้รับอนุมัติจากแพทยสภาให้ทำการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเพื่อการรักษาแล้วหรือยัง ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพของท่านเอง
Stem cells หรือ เซลล์ต้นกำเนิด เป็นเซลล์ที่แบ่งตัวให้เกิดเป็นเซลล์ทั้งหมดของสิ่งมีชีวิตทั้งปวง มีอยู่ในทุกอวัยวะของร่างกาย และเนื่องจากเซลล์ต้นกำเนิดมีความสามารถในการแบ่งตัวเป็นเซลล์ต่างๆ ได้หลายชนิด ทางการแพทย์จึงมีผู้สนใจคิดจะนำเซลล์ดังกล่าวมาใช้ในการรักษาโรค
เซลล์ต้นกำเนิดมี 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่ เซลล์ต้นกำเนิดที่ได้มาจากตัวอ่อน (embryonic stem cells) กับเซลล์ต้นกำเนิดที่ไม่ได้มาจากตัวอ่อน (adult stem cells) เซลล์ต้นกำเนิดที่มาจากตัวอ่อนจะมีความสามารถในการแบ่งตัวเป็นเซลล์หลายชนิด ดังนั้นการใช้เซลล์ต้นกำเนิดจากตัวอ่อนในการรักษาอาจกลับทำให้เป็นเนื้องอกขึ้นมาได้ จึงมักใช้เซลล์ต้นกำเนิดที่ไม่ได้มาจากตัวอ่อนมากกว่า ซึ่งมีการนำเซลล์ดังกล่าว มาปลูกถ่ายเพื่อใช้รักษาโรคหลายชนิดโดยล้วนแต่อยู่ในระยะวิจัยทั้งสิ้น
ปัจจุบันการรักษาโรคต่างๆ โดยใช้เซลล์ต้นกำเนิดที่ไม่ได้มาจากตัวอ่อน มีเฉพาะโรคทางโลหิตวิทยาเท่านั้นที่เป็นมาตรฐานในการรักษาโรค ส่วนโรคอื่นๆ ทั้งหมดถือเป็นการวิจัยแพทย์ ผู้ให้การรักษาผู้ป่วยด้วยเซลล์ดังกล่าว จะต้องอยู่ภายใต้ข้อบังคับแพทยสภาว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรมเรื่องการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเพื่อการรักษา พ.ศ. 2552 กล่าวโดยย่อคือ การนำเซลล์ดังกล่าวมาใช้ในการรักษาจะต้องเป็นการรักษามาตรฐานที่แพทยสภายอมรับเท่านั้น
ส่วนการวิจัยปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดในผู้ป่วยจะต้องได้รับอนุมัติก่อน โดยผู้ทำการรักษาจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะสาขาที่ได้รับการรับรองจากแพทยสภา และได้รับการขึ้นทะเบียนให้ทำการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเท่านั้น ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน เนื่องจากมีการโฆษณาชวนเชื่อเกินจริงเกี่ยวกับการรักษาด้วยเซลล์ต้นกำเนิดจำนวนมาก ทำให้ประชาชนหลงเชื่อเสียเงินเพื่อการรักษา นอกจากจะไม่เกิดประโยชน์แล้วยังอาจเกิดอันตรายรุนแรงกับผู้ป่วยถึงแก่ชีวิตได้ มีกระบวนการหลอกประชาชนว่าสามารถนำเซลล์ต้นกำเนิดจากผลไม้หรือสัตว์มาใช้ทา รับประทาน หรือฉีด เหล่านี้ล้วนแต่ไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าเกิดประโยชน์ชัดเจน
การรักษาโรคต่างๆ ด้วยเซลล์ต้นกำเนิด ผู้ป่วยควรจะสอบถามแพทย์ผู้ให้การรักษาก่อนว่าแพทย์ได้รับอนุมัติจากแพทยสภาให้ทำการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเพื่อการรักษาแล้วหรือยัง ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพของท่านเอง