“เสริมศักดิ์” สั่งทุกโรงเรียนเร่งรัดมาตรการป้องกันโรคไข้เลือดออกและมือเท้าปาก สกัดการแพร่ระบาดช่วงฤดูฝน
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ช่วงฤดูฝนมีการระบาดของโรคไข้เลือดออก และโรคมือ เท้า ปาก ในเด็กและเยาวชนเป็นจำนวนมาก โรงเรียนจึงเป็นสถานที่สำคัญที่จะช่วยป้องกันไม่ให้เด็กในสถานศึกษา รวมถึงชุมชนเกิดการแพร่ระบาด จึงขอให้สถานศึกษาดำเนินการคัดกรองนักเรียนที่ป่วยและสงสัยว่าเป็นไข้เลือดออก และโรคมือ เท้า ปาก แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่โดยเร็ว เพื่อดำเนินการควบคุมโรค และป้องกันการแพร่ระบาดของโรค รวมทั้งแนะนำวิธีการดูแลรักษาผู้ป่วยให้กับผู้ปกครองและกำชับให้สถานศึกษาดำเนินการตามมาตรการ ดังนี้ 1.กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย 2.ล้างมือ ฟอกสบู่ให้สะอาดก่อนเตรียมอาหารและหลังขับถ่ายทุกครั้ง 3.รับประทานอาหารที่สะอาด ปรุงใหม่ๆ 4.ใช้ช้อนกลางในการรับประทานอาหาร ไม่ใช้แก้วน้ำ หลอดดูด ร่วมกับผู้อื่น 5.หลีกเลี่ยงการคลุกคลีอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย แยกเด็กป่วยออกจากเด็กปกติ และให้หยุดเรียนจนกว่าจะหายป่วย
นายเสริมศักดิ์ กล่าวอีกว่า 6.หลีกเลี่ยงการนำทารกและเด็กเล็กเข้าไปในสถานที่แออัด หรือเด็กเล่นอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก หรือเล่นของเล่นร่วมกันในที่สาธารณะช่วงที่มีโรคระบาดมาก 7.ผู้ดูแลเด็กต้องตัดเล็บให้สั้น และล้างมือให้สะอาด หลังจากเช็ดน้ำมูก น้ำลาย หรือเปลี่ยนผ้าอ้อม เสื้อผ้าที่เปื้อนอุจจาระ และ 8.ทำความสะอาดพื้น เครื่องใช้ หรือของเล่นเด็กอย่างสม่ำเสมอด้วยน้ำยาฟอกขาว ในอัตราส่วน คือ น้ำยา 20 ซีซี ต่อน้ำ 1,000 ซีซี แล้วล้างน้ำอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ให้สถานศึกษาประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัด สาธารณสุขจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด เพื่อขอรับการสนับสนุนในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ช่วงฤดูฝนมีการระบาดของโรคไข้เลือดออก และโรคมือ เท้า ปาก ในเด็กและเยาวชนเป็นจำนวนมาก โรงเรียนจึงเป็นสถานที่สำคัญที่จะช่วยป้องกันไม่ให้เด็กในสถานศึกษา รวมถึงชุมชนเกิดการแพร่ระบาด จึงขอให้สถานศึกษาดำเนินการคัดกรองนักเรียนที่ป่วยและสงสัยว่าเป็นไข้เลือดออก และโรคมือ เท้า ปาก แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่โดยเร็ว เพื่อดำเนินการควบคุมโรค และป้องกันการแพร่ระบาดของโรค รวมทั้งแนะนำวิธีการดูแลรักษาผู้ป่วยให้กับผู้ปกครองและกำชับให้สถานศึกษาดำเนินการตามมาตรการ ดังนี้ 1.กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย 2.ล้างมือ ฟอกสบู่ให้สะอาดก่อนเตรียมอาหารและหลังขับถ่ายทุกครั้ง 3.รับประทานอาหารที่สะอาด ปรุงใหม่ๆ 4.ใช้ช้อนกลางในการรับประทานอาหาร ไม่ใช้แก้วน้ำ หลอดดูด ร่วมกับผู้อื่น 5.หลีกเลี่ยงการคลุกคลีอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย แยกเด็กป่วยออกจากเด็กปกติ และให้หยุดเรียนจนกว่าจะหายป่วย
นายเสริมศักดิ์ กล่าวอีกว่า 6.หลีกเลี่ยงการนำทารกและเด็กเล็กเข้าไปในสถานที่แออัด หรือเด็กเล่นอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก หรือเล่นของเล่นร่วมกันในที่สาธารณะช่วงที่มีโรคระบาดมาก 7.ผู้ดูแลเด็กต้องตัดเล็บให้สั้น และล้างมือให้สะอาด หลังจากเช็ดน้ำมูก น้ำลาย หรือเปลี่ยนผ้าอ้อม เสื้อผ้าที่เปื้อนอุจจาระ และ 8.ทำความสะอาดพื้น เครื่องใช้ หรือของเล่นเด็กอย่างสม่ำเสมอด้วยน้ำยาฟอกขาว ในอัตราส่วน คือ น้ำยา 20 ซีซี ต่อน้ำ 1,000 ซีซี แล้วล้างน้ำอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ให้สถานศึกษาประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัด สาธารณสุขจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด เพื่อขอรับการสนับสนุนในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป