“หมอประดิษฐ” กดไฟแดงไม่ให้ผ่านโครงสร้างใหม่ สป.สธ.บอกหน่วยงานในสังกัดยังมีบทบาทหน้าที่ซ้ำซ้อนระหว่างผู้กำหนดนโยบายและผู้ให้บริการอยู่ สั่งทบทวนใหม่ พร้อมเร่งรัดทุกกรม กอง เร่งรวบรวมผลงาน 2 ปี รัฐบาล เน้นผลลัพธ์การทำงานมากกว่าปริมาณ และการเข้าถึงสิทธิ
วันนี้ (24 มิ.ย.) นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมผู้บริหารระดับสูง สธ.ว่า การประชุมวันนี้สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สป.สธ.) ได้นำเสนอการปรับโครงสร้างในส่วนของ สป.สธ. ซึ่งในอนาคตจะต้องดำเนินการใน 2 บทบาท คือ 1.ผู้กำหนดนโยบาย (National Health Orthority) และ 2.ผู้ให้บริการ (Provider) แต่ตนเห็นว่าหน่วยงานที่เสนอมานั้นยังไม่มีการแบกบทบาทหน้าที่ที่ชัดเจน ยังมีความซ้ำซ้อนกันอยู่ระหว่าง 2 บทบาทดังกล่าว เช่น สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์ กลุ่มประกันสุขภาพ เป็นต้น จึงให้กลับไปทบทวนใหม่อีกครั้ง นอกจากนี้ สำหรับบทบาทของการเป็นผู้ให้บริการที่แบ่งเป็น 12 เขตบริการสุขภาพ ก็จะต้องมีหน่วยบริหารกลางในการเชื่อมประสานงานและบริหารในภาพรวมทั้ง 12 เขตด้วย ส่วนเรื่องหน้าที่ที่ซ้ำซ้อนระหว่างกรมนั้น ก็จะให้อธิบดีแต่ละกรมไปหารือกันเองว่าจะแบ่งหน้าที่อย่างไร แล้วค่อยนำเสนอตัวชี้วัดขึ้นมา
นพ.ประดิษฐ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังมีการหารือถึงการเตรียมตัวรวบรวมแถลงผลงาน 2 ปี ของรัฐบาล โดยตนได้กำชับผลงานที่จะนำเสนอให้เน้นเรื่องผลลัพธ์ที่เกิดแก่ประชาชนด้วย ไม่ใช่เน้นเพียงปริมาณงานอย่างเดียว รวมถึงในเชิงของปัญหาในการทำงาน ที่ต้องให้รัฐบาลรับรู้และแก้ปัญหา เช่น ความเหลื่อมล้ำเข้าถึงสิทธิบริการ ก็จะเน้นให้ผู้มีสิทธิเข้าถึงสิทธิมากขึ้น อย่างกรณีผู้พิการที่ต้องการขาเทียม เป็นต้น
วันนี้ (24 มิ.ย.) นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมผู้บริหารระดับสูง สธ.ว่า การประชุมวันนี้สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สป.สธ.) ได้นำเสนอการปรับโครงสร้างในส่วนของ สป.สธ. ซึ่งในอนาคตจะต้องดำเนินการใน 2 บทบาท คือ 1.ผู้กำหนดนโยบาย (National Health Orthority) และ 2.ผู้ให้บริการ (Provider) แต่ตนเห็นว่าหน่วยงานที่เสนอมานั้นยังไม่มีการแบกบทบาทหน้าที่ที่ชัดเจน ยังมีความซ้ำซ้อนกันอยู่ระหว่าง 2 บทบาทดังกล่าว เช่น สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์ กลุ่มประกันสุขภาพ เป็นต้น จึงให้กลับไปทบทวนใหม่อีกครั้ง นอกจากนี้ สำหรับบทบาทของการเป็นผู้ให้บริการที่แบ่งเป็น 12 เขตบริการสุขภาพ ก็จะต้องมีหน่วยบริหารกลางในการเชื่อมประสานงานและบริหารในภาพรวมทั้ง 12 เขตด้วย ส่วนเรื่องหน้าที่ที่ซ้ำซ้อนระหว่างกรมนั้น ก็จะให้อธิบดีแต่ละกรมไปหารือกันเองว่าจะแบ่งหน้าที่อย่างไร แล้วค่อยนำเสนอตัวชี้วัดขึ้นมา
นพ.ประดิษฐ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังมีการหารือถึงการเตรียมตัวรวบรวมแถลงผลงาน 2 ปี ของรัฐบาล โดยตนได้กำชับผลงานที่จะนำเสนอให้เน้นเรื่องผลลัพธ์ที่เกิดแก่ประชาชนด้วย ไม่ใช่เน้นเพียงปริมาณงานอย่างเดียว รวมถึงในเชิงของปัญหาในการทำงาน ที่ต้องให้รัฐบาลรับรู้และแก้ปัญหา เช่น ความเหลื่อมล้ำเข้าถึงสิทธิบริการ ก็จะเน้นให้ผู้มีสิทธิเข้าถึงสิทธิมากขึ้น อย่างกรณีผู้พิการที่ต้องการขาเทียม เป็นต้น
