สอบครูผู้ช่วย พบส่อทุจริต 2 ราย

สอบครูผู้ช่วยวันที่ 2 เบื้องต้นยังไม่มีปัญหา แต่พบผู้เข้าสอบไม่ค่อยทำตามระเบียบ นำโทรศัพท์ผ่านเครื่องตรวจโลหะจนเจ้าหน้าที่เอือม ขณะที่กรณี ร.ร.สันติราษฎร์ฯ พบผู้เข้าสอบนำมือถือเข้าห้อง 2 รายรอผลตรวจสอบจาก สตช. ส่อทุจริตตัดสิทธิทันที พร้อมมอบ จนท.ไปดูระเบียบฯ ที่เกี่ยวข้อง

วันนี้ (23 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่โรงเรียนสันติราษฎร์วิทยาลัย นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) พร้อมด้วยนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ผู้ช่วย รมว.ศึกษาธิการ นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) และนายสายัณต์ รุ่งป่าสัก ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) เขต 1 ลงพื้นที่ตรวจสนามสอบแข่งขัน เพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2556 ซึ่งเป็นการสอบในวันที่ 2 โดยมีกำหนดการสอบระหว่าง 22-23 มิ.ย.ทั่วประเทศเปิดสอบทั้งหมด 398 สนาม เปิดรับ 1,070 อัตรา ใน 34 กลุ่มวิชาการ และมีผู้มีสิทธิสอบจำนวน 83,930 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศบริเวณสนามสอบ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลจำนวน 5 นายจากหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด ได้นำเครื่องตรวจโลหะมาวางไว้บริเวณหน้าบันไดทางขึ้นอาคารไปยังห้องสอบ ซึ่งผู้เข้าสอบทุกคนต้องผ่านเครื่องแสกนร่างกายก่อนขึ้นไปยังห้องสอบ อย่างไรก็ตาม ที่สนามสอบได้มีข้อปฏิบัติที่ให้ผู้เข้าสอบทุกคนนำของมีค่าและเครื่องมือสื่อสารไปฝากไว้ยังจุดรับฝากของ แต่ปรากฏว่ายังมีผู้เข้าสอบหลายคนไม่ปฏิบัติตาม มีการนำโทรศัพท์มือถือติดตัวผ่านเข้าเครื่องตรวจจับโลหะจำนวนมาก จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ประจำสนามสอบบ่นด้วยความเอือมระอาที่ผู้เข้าสอบไม่เคารพระเบียบและกติกาในการสอบ

นายพงศ์เทพกล่าวว่า ตนได้รับรายงานการสอบครูผู้ช่วยในวันที่ 22 มิ.ย. 2556 ซึ่งเป็นการสอบวันแรก ได้เกิดเหตุการณ์ผิดปกติเล็กน้อยไม่ร้ายแรง โดยพบว่าสนามสอบโรงเรียนสันติราษฎร์ฯ มีผู้เข้าสอบนำโทรศัพท์มือถือเข้าห้องสอบ 2 ราย ซึ่งคณกรรมการประจำสนามสอบได้มีการแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว โดยขณะนี้สำนักตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กำลังตรวจสอบว่าโทรศัพท์ทั้งสองเครื่องมีการสื่อสารในระหว่างการสอบที่นำไปสู่การทุจริตในการสอบหรือไม่ ซึ่งจะใช้เวลานานเท่าไหร่นั้นขึ้นอยู่กับ สตช.

ทั้งนี้ ในส่วนความผิดของการนำโทรศัพท์มือถือเข้าห้องสอบนั้น ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการปฏิบัติของผู้เข้าสอบ พ.ศ. 2548 ว่าการนำโทรศัพท์มือถือเข้าห้องสอบว่าถือเป็นโทษร้ายแรงหรือไม่ ในระดับใด ทั้งนี้หากตรวจสอบพบว่าเป็นการทุจริตการสอบก็จะตัดสิทธิสอบทันที ส่วนโทษทางคดีอาญาจะต้องดูพฤติการณ์และข้อกฎหมาย เนื่องจากกฎหมายอาญาไม่ได้ระบุโทษการทุจริตการสอบไว้ชัดเจน

“เบื้องต้นได้รับรายงานว่าโทรศัพท์มือถือที่ยึดมาได้ 1 เครื่อง เป็นยี่ห้อที่มาจากจีน ซึ่งกรรมการผู้คุมสอบที่จับได้ใช้ไม่เป็นจึงไม่กล้ากดอะไรมากนัก เพราะกลัวข้อมูลในเครื่องหาย จึงต้องให้ทางเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ตรวจสอบ” นายพงศ์เทพกล่าว และว่า สำหรับการสอบในวันที่สองยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยังไม่ได้รับรายงานความผิดปกติแต่อย่างใด

ด้าน นายชินภัทร กล่าวว่า ในการสอบวันแรก วานนี้ (22 มิ.ย.) ได้รับรายงานความผิดปกติ 3 กรณี โดยกรณีแรกที่ สพม.36 จังหวัดเชียงรายและพะเยา พบแจกข้อสอบสลับวิชา จากภาคเช้าเป็นภาคบ่าย แต่เป็นการสลับทั้งเขตพื้นที่ จำนวน 7 สนามสอบ และเมื่อตรวจสอบกับสถาบันอุดมศึกษาที่เป็นผู้ออกข้อสอบพบว่า ทุกสนามสอบในเขตพื้นที่ สพม.36 ใช้ข้อสอบที่ออกจากสถาบันอุดมศึกษาเดียวกันและมีการสลับข้อสอบทั้งเช้าบ่ายเหมือนกันทุกแห่ง จึงไม่มีปัญหาอะไร ส่วนกรณีที่ 2 เกิดขึ้นที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ลพบุรี เขต 2 พบกรณีแจกข้อสอบล่าช้า เนื่องจากมีกรรมการคุมสอบน้อยจึงได้ชดเชยเวลาการสอบให้แก่ผู้เข้าสอบเป็นเวลาประมาณ 15 นาที และในวันที่การสอบวันที่ 23 มิ.ย. ได้มีการแก้ไขปัญหาโดยเพิ่มกรรมการคุมสอบให้เพียงพอ

“ส่วนกรณีที่ 3 คือที่โรงเรียนสันติราษฎร์ฯ มีการพบผู้เข้าสอบนำโทรศัพท์มือถือเข้าห้องสอบ 2 ราย กรณีเบื้องต้นต้องถือว่าผู้เข้าสอบทั้ง 2 คนทำผิดระเบียบการเข้าสอบ แต่ยังไม่ถึงขั้นทุจริต ต้องรอการตรวจสอบ ซึ่งหากภายหลังพบว่าทุจริตก็สามารถตัดสิทธิการสอบได้ อย่างไรก็ตาม พบว่าผู้เข้าสอบรายแรก กรรมการคุมสอบเห็นว่ามีพฤติกรรมน่าสงสัย ไม่ตั้งใจทำข้อสอบ ลุกลี้ลุกลน กรรมการคุมสอบจึงได้เรียกตัวมาตรวจสอบอีกครั้งจึงพบโทรศัพท์มือถือ ส่วนรายที่ 2 ดูแล้วน่าจะเป็นการหลงลืม เนื่องจากผู้เข้าสอบได้ขอโทรศัพท์มือถือคืนจากเจ้าหน้าที่ไปใช้ในช่วงพักกลางวัน จากนั้นนำกลับเข้าไปในห้องสอบภาคบ่าย จนกระทั่งใกล้หมดชั่วโมงสอบภาคบ่าย ปรากฏว่าโทรศัพท์เสียงดังลั่นห้องผู้คุมห้องสอบจึงยึดโทรศัพท์ไว้ ซึ่งหากจะทุจริตก็คงปิดเสียงไว้แล้ว” นายชินภัทรกล่าว

สำหรับสนามสอบโรงเรียนสันติราษฎร์วิทยาลัย มีห้องสอบจำนวน 50 ห้องๆ ละ 25 คน มีผู้สมัครสอบ จำนวน 1,204 คน มีสิทธิสอบ 1,194 คน มาสอบ 1,044 คน ขาดสอบ 150 คน