“เฉลิม” เตรียมนำทีมเผายาเสพติดกว่า 3.3 ตัน มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท พบยาบ้าเยอะสุด 31 ล้านเม็ด พร้อมส่งซูโดฯร่วมเผาด้วย ด้าน อย.เปิดคลังพบยาเสพติดของกลางแทบล้นคลัง เหตุจับได้เยอะขึ้น แต่พิจารณาคดีช้า รอเผาอีกเพียบ เผยสำนักงบฯไม่อนุมัติสร้างคลังเพิ่ม ทั้งที่ของกลางเพิ่มปริมาณทุกปี
วันนี้ (19 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวแถลงข่าวการเผาทำลายยาเสพติดให้โทษของกลางครั้งที่ 42 ว่า อย.ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และบริษัท ที่ดินบางปะอิน จำกัด นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา จัดเผาทำลายยาเสพติดให้โทษของกลางครั้งที่ 42 ในวันที่ 26 มิ.ย.นี้ จำนวนรวมกว่า 3,363 กิโลกรัม หรือ 3.363 ตัน จาก 2,584 คดี มูลค่ารวมกว่า 10,080 ล้านบาท แบ่งเป็นเมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) 2,793 กิโลกรัม ประมาณ 31 ล้านเม็ด มูลค่า 9,312 ล้านบาท ยาไอซ์ 298 กิโลกรัม มูลค่า 597 ล้านบาท เฮโรอีน 125 กิโลกรัม มูลค่า 100 ล้านบาท เอ็กซ์ตาซี (ยาอี) 4 กิโลกรัม ราว 16,570 เม็ด มูลค่า 16 ล้านบาท และโคคาอีน 17 กิโลกรัม มูลค่า 51 ล้านบาท
“การเผาทำลายจะจัดขึ้นที่ศูนย์บริหารสาธารณูปโภคและสิ่งแวดล้อม นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ด้วยวิธีไพโรไลติก อินซิเนอะเรชัน (Pyrolytic Incineration) เป็นการเผาที่อุณหภูมิสูงมาก ไม่ต่ำกว่า 850 องศาเซลเซียส จะทำให้เกิดการสลายตัวของโมเลกุลกลายเป็นคาร์บอนในระยะเวลาอันรวดเร็วและไม่ก่อให้เกิดมลพิษในอากาศและสิ่งแวดล้อม” เลขาธิการ อย.กล่าวและว่า ยาเสพติดที่จะเผาในครั้งนี้มากกว่าครั้งที่ผ่านมาเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 2555 ที่มีจำนวนราว 2,755 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 6,900 ล้านบาท ส่วนครั้งที่มีการเผาทำลายมากที่สุด คือปี 2546 จำนวนกว่า 5,915 กิโลกรัม มูลค่าราว 14,500 ล้านบาท ซึ่งขึ้นอยู่กับจำนวนคดีที่มีการพิจารณาแล้วเสร็จ
นายวินัย มณฑาพงษ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ป.ป.ส.ในฐานะประธานคณะตรวจรับยาเสพติดให้โทษของกลาง กล่าวว่า วันที่ 25 มิ.ย.คณะทำงานฯจะตรวจรับยาเสพติดให้โทษของกลางจาก อย.เพื่อทำการชั่ง ตรวจลักษณะประเภท สุ่มตัวอย่างทำการตรวจสอบและวิเคราะห์ จากนั้นจะเก็บในหีบห่อที่มีการติดสติกเกอร์และเก็บเข้าคลังอีกครั้ง ในวันที่ 26 มิ.ย.จึงนำออกมาส่งมอบให้คณะทำงานขอย้ายฯ
พ.ต.อ.ไพศาล ศักดิ์สุนทรศิริ ผู้กำกับการอำนวยการ กองบังคับการปราบปราม ในฐานะประธานคณะทำงานขนย้ายฯ กล่าวว่า คณะทำงานชุดนี้มีภารกิจ 2 ข้อสำคัญ คือ 1.รับมอบของกลางแล้วทำการตรวจสอบว่าหีบห่อสมบูรณ์ ไม่มีร่องรอยฉีกขาด ถ้ามีต้องมีการบันทึกและถ่ายภาพทั้งภาพนิ่งและเคลื่อนไหว รวมถึงนับจำนวนและกล่องให้ครบถ้วน และ 2.ขนย้ายไปยังสถานที่เผาทำลายโดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอดเส้นทาง
พ.ต.อ.พีรวัส บุญลอย รองผู้บังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ในฐานะประธานคณะรักษาความปลอดภัยฯ กล่าวว่า จะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งในและนอกเครื่องแบบ และการเผาทำลายในครั้งนี้ มีปัญชาของกลางที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดนำมาร่วมเผา จำนวน 2,603 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 6.5 ล้านบาทด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเผาทำลายยาเสพติดให้โทษของกลางครั้งนี้ จะมียาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีน ชนิดน้ำ จำนวน 322,620 มิลลิเมตร ชนิดเม็ด จำนวน 125,566 เม็ด ของกองควบคุมวัตถุยาเสพติด อย.ร่วมเผาด้วย ซึ่งยาดังกล่าวสามารถนำมาเป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติดได้และก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบว่าสูญหายจากโรงพยาบาลหลายแห่ง
ทั้งนี้ อย.ได้นำผู้สื่อข่าวเข้าไปยังคลังเก็บยาเสพติดให้โทษของกลาง โดย ภก.ประพนธ์ อางตระกูล ผู้อำนวยการกองควบคุมวัตถุเสพติด อย.กล่าวว่า ขณะนี้ถือว่ายาเสพติดให้โทษของกลางถือว่าค่อนข้างล้นคลัง อาจเป็นเพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตรวจจับได้มากขึ้น แต่การพิจารณาคดียังคงมีความล่าช้า ทำให้ยังไม่สามารถเผาทำลายยาเสพติดให้โทษของกลางได้ บางล็อตค้างเก็บมานาน 16-17 ปีแล้ว ซึ่งการเก็บยาเสพติดให้โทษของกลางนี้จะเก็บไปถึง 20 ปี หากการพิจารณาคดียังไม่แล้วเสร็จถือว่าหมดอายุความแล้ว จึงจะสามารถเผาทำลายได้
“ยาเสพติดให้โทษของกลางส่งมาเพิ่มขึ้นทุกปี อย่างปีที่แล้วส่งเข้ามา 7.7 ตัน ส่วนปีนี้เพียง 3 เดือนแรกก็ส่งมาแล้วเกือบ 3 ตัน ยังรอส่งอีก 3 ตัน ส่วนกลางสร้างคลังเก็บยาเสพติดให้โทษของกลางเพิ่ม วงเงิน 90 ล้านบาท ซึ่งจะสร้างต่อจากโรงอาหารของ อย.นั้น ขณะนี้สำนักงบประมาณไม่พิจารณาให้ ทั้งที่ของไป 2 ปีแล้ว คือ ปี 2556 และ 2557 จึงยังไม่ได้รับการสนับสนุนให้สร้างคลัง” ภก.ประพนธ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า วันที่ 26 มิ.ย.นี้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานในพิธีเผาทำลายยาเสพติดให้โทษของกลาง