กทม.เตือนระวังไข้เลือดออกระบาด ผู้ใหญ่เป็นรุนแรงกว่าเด็ก
นางผุสดี ตามไท รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงสถานการณ์โรคไข้เลือดออกในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า เนื่องจากขณะนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูฝน เป็นช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกได้ง่าย จึงขอให้ประชาชนระมัดระวัง และรักษาสุขภาพของตนให้แข็งแรงอยู่เสมอ มีการติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการป้องกันโรคไข้เลือดออกอย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง ทั้งนี้ ที่ผ่านมา กทม.ได้ดำเนินการเฝ้าระวังและป้องกันโรคไข้เลือดออก ซึ่งได้มอบหมายให้สำนักอนามัย 50 สำนักงานเขต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำรวจ และทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายทุกเดือน เผยแพร่ประชาสัมพันธ์และรณรงค์ป้องกัน ควบคุม และกำจัดยุงในชุมชน ปรับสภาพสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อมไม่ให้เป็นแหล่งแพร่โรคระบาด แจกจ่ายโลชั่นตระไคร้หอมไล่ยุงในชุมชนและโรงเรียน และหากพบผู้ป่วยไข้เลือดออกให้เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมโรคและฉีดพ่นสารเคมีกำจัดยุงพาหะในบ้านและบริเวณรอบบ้านรัศมีอย่างน้อย 100 เมตร โดยให้มีการเฝ้าระวังเป็นพิเศษพื้นที่เสี่ยง อาทิ ชุมชน โรงเรียน ศาสนสถาน สถานประกอบการ สถานพยาบาล และพื้นที่จัดกิจกรรมชุมนุมชนต่างๆ
“ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูล และดูแลสุขภาพของตนเองให้ดี แม้ว่า กทม.จะกำหนดมาตรการในการป้องกันและเฝ้าระวังแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีความเป็นห่วงพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใหญ่ที่มีความเข้าใจว่าไข้เลือดออกเกิดกับกลุ่มเด็กเท่านั้น ทำให้ไม่ระวังตัว เมื่อเกิดอาการไข้มักซื้อยามากินเอง ไข้เลือดออกเมื่อเกิดกับผู้ใหญ่จะมีความรุนแรงมากกว่าในกลุ่มเด็ก” นางผุสดี กล่าวและว่า ทั้งนี้ โรคไข้เลือดออกไม่ได้เกิดเฉพาะในเด็กเท่านั้น เกิดได้กับทุกเพศทุกวัย หากผู้ใหญ่ได้รับเชื้อโรคไข้เลือดออกจะรุนแรงกว่าเด็ก อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนกตกใจ แต่ให้ทุกคนร่วมมือร่วมใจกันเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก ซึ่งสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยตนเองตามหลัก 5 ป 1 ข ได้แก่ ปิดฝาภาชนะ เปลี่ยนถ่ายน้ำ ปล่อยปลากินลูกน้ำในภาชนะขังน้ำ ปฏิบัติการกำจัดลูกน้ำยุงต่อเนื่องทุกสัปดาห์ และขัดล้างภาชนะขังน้ำเพื่อกำจัดไข่ยุง เมื่อเกิดมีสมาชิกในครัวเรือนเจ็บป่วยหรือมีอาการไข้ไม่ควรซื้อยามากินเอง ให้รีบไปพบแพทย์หรือขอรับคำแนะนำจากศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้านทันที
สำหรับสถานการณ์โรคไข้เลือดออกในพื้นที่กรุงเทพฯ ในปี 2555 มีผู้ป่วยไข้เลือดออกสะสม 10,081 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 177.64 รายต่อประชากรแสนคน เมื่อเทียบกับสถานการณ์ทั้งประเทศพบว่า จำนวนผู้ป่วยในกรุงเทพมหานคร คิดเป็นร้อยละ 13.20 ของจำนวนผู้ป่วยไข้เลือดออกทั้งประเทศ ซึ่งมีผู้ป่วย 76,351 ราย อัตราป่วยไข้เลือดออกในกรุงเทพฯ สูงกว่าอัตราป่วยไข้เลือดออกทั้งประเทศซึ่งมีอัตราป่วย 119.53 รายต่อประชากรแสนคน มีผู้เสียชีวิตสะสม 6 ราย คิดเป็นอัตราป่วยตายร้อยละ 0.06 และคิดเป็นร้อยละ 7.32 ของจำนวนผู้เสียชีวิตไข้เลือดออกทั้งประเทศ ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 82 ราย โดยอัตราป่วยตายด้วยโรคไข้เลือดออกในกรุงเทพฯ ต่ำกว่าอัตราป่วยตายของไข้เลือดออกทั้งประเทศซึ่งมีอัตราป่วยตายร้อยละ 0.11 (มาตรฐาน คือ อัตราป่วยตายไม่เกินร้อยละ 0.12)
ขณะที่สถานการณ์โรคไข้เลือดออกในพื้นที่กรุงเทพฯ ในปี 2556 ณ วันที่ 8 มิ.ย. 2556 กลุ่มงานควบคุมสัตว์และแมลงนำโรค กองควบคุมโรคติดต่อ สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ได้รับรายงานเฝ้าระวังโรค (รง.506) จากสถานบริการสาธารณสุขในพื้นที่กรุงเทพฯ ดังนี้ ผู้ป่วยสะสมจำนวน 4,190 ราย คิดเป็นอัตราป่วยสะสม 73.83 ราย ต่อประชากรแสนคน เมื่อเทียบกับสถานการณ์ทั้งประเทศพบว่า จำนวนผู้ป่วยกรุงเทพมหานคร คิดเป็นร้อยละ 10.74 ของจำนวนผู้ป่วยไข้เลือดออกทั้งประเทศ ซึ่งมีจำนวน 39,029 ราย อัตราป่วยกรุงเทพมหานครสูงกว่าอัตราป่วยของทั้งประเทศ ซึ่งมีอัตราป่วย 60.91 ราย ต่อประชากรแสนคน
นางผุสดี ตามไท รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงสถานการณ์โรคไข้เลือดออกในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า เนื่องจากขณะนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูฝน เป็นช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกได้ง่าย จึงขอให้ประชาชนระมัดระวัง และรักษาสุขภาพของตนให้แข็งแรงอยู่เสมอ มีการติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการป้องกันโรคไข้เลือดออกอย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง ทั้งนี้ ที่ผ่านมา กทม.ได้ดำเนินการเฝ้าระวังและป้องกันโรคไข้เลือดออก ซึ่งได้มอบหมายให้สำนักอนามัย 50 สำนักงานเขต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำรวจ และทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายทุกเดือน เผยแพร่ประชาสัมพันธ์และรณรงค์ป้องกัน ควบคุม และกำจัดยุงในชุมชน ปรับสภาพสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อมไม่ให้เป็นแหล่งแพร่โรคระบาด แจกจ่ายโลชั่นตระไคร้หอมไล่ยุงในชุมชนและโรงเรียน และหากพบผู้ป่วยไข้เลือดออกให้เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมโรคและฉีดพ่นสารเคมีกำจัดยุงพาหะในบ้านและบริเวณรอบบ้านรัศมีอย่างน้อย 100 เมตร โดยให้มีการเฝ้าระวังเป็นพิเศษพื้นที่เสี่ยง อาทิ ชุมชน โรงเรียน ศาสนสถาน สถานประกอบการ สถานพยาบาล และพื้นที่จัดกิจกรรมชุมนุมชนต่างๆ
“ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูล และดูแลสุขภาพของตนเองให้ดี แม้ว่า กทม.จะกำหนดมาตรการในการป้องกันและเฝ้าระวังแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีความเป็นห่วงพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใหญ่ที่มีความเข้าใจว่าไข้เลือดออกเกิดกับกลุ่มเด็กเท่านั้น ทำให้ไม่ระวังตัว เมื่อเกิดอาการไข้มักซื้อยามากินเอง ไข้เลือดออกเมื่อเกิดกับผู้ใหญ่จะมีความรุนแรงมากกว่าในกลุ่มเด็ก” นางผุสดี กล่าวและว่า ทั้งนี้ โรคไข้เลือดออกไม่ได้เกิดเฉพาะในเด็กเท่านั้น เกิดได้กับทุกเพศทุกวัย หากผู้ใหญ่ได้รับเชื้อโรคไข้เลือดออกจะรุนแรงกว่าเด็ก อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนกตกใจ แต่ให้ทุกคนร่วมมือร่วมใจกันเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก ซึ่งสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยตนเองตามหลัก 5 ป 1 ข ได้แก่ ปิดฝาภาชนะ เปลี่ยนถ่ายน้ำ ปล่อยปลากินลูกน้ำในภาชนะขังน้ำ ปฏิบัติการกำจัดลูกน้ำยุงต่อเนื่องทุกสัปดาห์ และขัดล้างภาชนะขังน้ำเพื่อกำจัดไข่ยุง เมื่อเกิดมีสมาชิกในครัวเรือนเจ็บป่วยหรือมีอาการไข้ไม่ควรซื้อยามากินเอง ให้รีบไปพบแพทย์หรือขอรับคำแนะนำจากศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้านทันที
สำหรับสถานการณ์โรคไข้เลือดออกในพื้นที่กรุงเทพฯ ในปี 2555 มีผู้ป่วยไข้เลือดออกสะสม 10,081 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 177.64 รายต่อประชากรแสนคน เมื่อเทียบกับสถานการณ์ทั้งประเทศพบว่า จำนวนผู้ป่วยในกรุงเทพมหานคร คิดเป็นร้อยละ 13.20 ของจำนวนผู้ป่วยไข้เลือดออกทั้งประเทศ ซึ่งมีผู้ป่วย 76,351 ราย อัตราป่วยไข้เลือดออกในกรุงเทพฯ สูงกว่าอัตราป่วยไข้เลือดออกทั้งประเทศซึ่งมีอัตราป่วย 119.53 รายต่อประชากรแสนคน มีผู้เสียชีวิตสะสม 6 ราย คิดเป็นอัตราป่วยตายร้อยละ 0.06 และคิดเป็นร้อยละ 7.32 ของจำนวนผู้เสียชีวิตไข้เลือดออกทั้งประเทศ ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 82 ราย โดยอัตราป่วยตายด้วยโรคไข้เลือดออกในกรุงเทพฯ ต่ำกว่าอัตราป่วยตายของไข้เลือดออกทั้งประเทศซึ่งมีอัตราป่วยตายร้อยละ 0.11 (มาตรฐาน คือ อัตราป่วยตายไม่เกินร้อยละ 0.12)
ขณะที่สถานการณ์โรคไข้เลือดออกในพื้นที่กรุงเทพฯ ในปี 2556 ณ วันที่ 8 มิ.ย. 2556 กลุ่มงานควบคุมสัตว์และแมลงนำโรค กองควบคุมโรคติดต่อ สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ได้รับรายงานเฝ้าระวังโรค (รง.506) จากสถานบริการสาธารณสุขในพื้นที่กรุงเทพฯ ดังนี้ ผู้ป่วยสะสมจำนวน 4,190 ราย คิดเป็นอัตราป่วยสะสม 73.83 ราย ต่อประชากรแสนคน เมื่อเทียบกับสถานการณ์ทั้งประเทศพบว่า จำนวนผู้ป่วยกรุงเทพมหานคร คิดเป็นร้อยละ 10.74 ของจำนวนผู้ป่วยไข้เลือดออกทั้งประเทศ ซึ่งมีจำนวน 39,029 ราย อัตราป่วยกรุงเทพมหานครสูงกว่าอัตราป่วยของทั้งประเทศ ซึ่งมีอัตราป่วย 60.91 ราย ต่อประชากรแสนคน
