สพฐ.แจงแค่ช่วยกลั่นกรองคัดเลือกผู้บริหาร ร.ร.พรีเมียม เพื่อให้ได้คนคุณภาพ และทำไปตามมติ ก.ค.ศ.ยันไม่ได้ล้วงลูกอำนาจการตั้งยังเป็นของ อ.ก.ค.ศ.เขตฯ พร้อมโบ้ย ก.ค.ศ.ร่วมตรวจสอบกระแสข่าวจ่าย7 หลักแลกตำแหน่งผู้บริหาร
วันนี้ (13 มิ.ย.) นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยถึงกรณีที่สมาคมกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานแห่งประเทศไทย ยื่นหนังสือต่อนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ขอให้ทบทวนให้คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษา เป็นผู้พิจารณาแต่งตั้งผู้บริหารโรงเรียนกลุ่มพรีเมียม ตามอำนาจหน้าที่เดิมแทนการให้คณะกรรมการกลั่นกรองของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เป็นผู้พิจารณาคัดเลือกดังที่ทำในเวลานี้ ว่า การมีคณะกรรมการกลั่นกรองการย้ายผู้บริหารโรงเรียนพรีเมียม ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2554 โดยเป็นไปตามมติของคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) และหนังสือเวียนสำนักงาน ก.ค.ศ.ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) 0206.4/ว9 ลงวันที่ 29 ก.ค.2554 เพื่อเป็นการเปิดกว้างให้มีผู้ประสงค์ที่จะขอย้ายเข้าโรงเรียนวัตถุประสงค์พิเศษ และคุณภาพพิเศษได้มากขึ้น และสามารถสรรหาผู้ที่มีความรู้ ความสามารถที่เหมาะสมมาดำเนินการได้
“การกลั่นกรองของ สพฐ.เป็นเพียงขั้นตอนหนึ่ง แต่อำนาจการอนุมัติแต่งตั้งเป็นอำนาจของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ อยู่แล้ว จึงไม่ได้เป็นการก้าวล่วงในเชิงของกฎหมาย ซึ่งการกลั่นกรองก็เป็นเพียงการกลั่นกรองคุณสมบัติ และผลงานประสบการณ์ในเบื้องต้น เพื่อส่งคะแนนและผลการกลั่นกรองไปให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ไม่ได้ก้าวล่วงอำนาจของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ แต่อย่างใด ทั้งนี้ สพฐ.พร้อมคืนอำนาจการกลั่นกรองไปให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ แต่คงต้องนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุม ก.ค.ศ.ก่อน” นายชินภัทร กล่าว
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อว่า ส่วนการแต่งตั้งผู้บริหารโรงเรียนพรีเมียมที่มีความล่าช้านั้น สาเหตุเกิดจาก กพฐ.ชุดเก่าหมดวาระ จึงต้องรอให้ชุดใหม่มาพิจารณาแทน ซึ่งเรื่องนี้คงไม่ใช่ประเด็นที่จะเกิดขึ้นเสมอไป อย่างไรก็ตาม การประชุม กพฐ.ครั้งที่ผ่านมาได้มีหารือในเรื่องการแต่งตั้งผู้บริหารโรงเรียนพรีเมียม ซึ่งที่ประชุมเห็นว่า หาก ก.ค.ศ.สามารถปรับหลักเกณฑ์เพื่อให้เกิดการพิจารณาผู้ที่จะขอย้ายข้ามเขตเข้ามาได้ และได้คนดีคนเก่งมีความรู้ความสามารถที่เหมาะสมมาทำงานให้แก่โรงเรียน เพื่อพัฒนาคุณภาพให้สูงยิ่งขึ้นต่อไปได้ ก็ถือกว่าการกลั่นกรองจากส่วนกลางก็ไม่น่าจะมีความจำเป็น ทั้งนี้เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมาเคยมีการพูดคุยกันว่า เมื่อโรงเรียนพรีเมียมเป็นโรงเรียนที่ให้บริการแก่นักเรียนทั่วประเทศ ดังนั้นก็ต้องเป็นโรงเรียนที่เขตบริการคือประเทศไทย จึงไม่ควรจำกัดเฉพาะคนในเขตพื้นที่เท่านั้น และควรมีผู้บริหารที่มีศักยภาพ มีประสบการณ์ระดับแนวหน้าของประเทศด้วย
“กระแสข่าวการวิ่งเต้นโยกย้ายผู้บริหารแลกกับเงิน 7 หลักนั้น เรื่องนี้สำนักงาน ก.ค.ศ. จะต้องสอดส่องดูแล และรับข้อมูลข้อร้องเรียนต่างๆ มาประกอบการปรับปรุงระบบการบริหารงานบุคคล โดยเรื่องนี้ควรมีเจ้าภาพ เพราะถ้าให้ สพฐ.ลงมาดำเนินการก็จะเกิดความลักลั่น เพราะ สพฐ.ไม่มีอำนาจโดยตรงในการกำกับดูแล อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ” นายชินภัทร กล่าว
