‘กรมศิลป์’ ตามโบราณวัตถุชัยนาทมุนีคืนได้แล้ว 28 ชิ้น เหลืออีก 31 ชิ้น จี้ 44 พิพิธภัณฑ์ทั่วประเทศปรับโฉมทะเบียนโบราณวัตถุจากจดบันทึกเป็นดิจิตอล
นายสหวัฒน์ แน่นหนา อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามโบราณวัตถุหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมอดีตเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ที่โจรกรรมโบราณวัตถุอายุหลายร้อยปีในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชัยนาทมุนี จ.ชัยนาทไปขาย 50 รายการ จำนวน 59 ชิ้น ว่า ขณะนี้ติดตามโบราณวัตถุที่ถูกขโมยไปกลับคืนมาได้แล้ว 19 รายการ จำนวน 28 ชิ้น เหลืออีก 31 รายการ จำนวน 31 ชิ้น ส่วนใหญ่เป็นภาชนะเครื่องเคลือบดินเผา ถ้วยชามเขียนลาย ส่วนงาช้างจำนวน 2 คู่ ติดตามคืนมาได้แล้ว ถึงแม้ว่าจะติดตามได้มาบางส่วน แต่ตนได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ ถ้าพบว่าเจ้าหน้าที่บกพร่องต้องมีมาตรการลงโทษด้วย
อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ตนได้ส่งหนังสือแจ้งให้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ 44 แห่งทั่วประเทศ เข้มงวดเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยและตรวจสอบโบราณวัตถุในคลังพิพิธภัณฑ์ว่าอยู่ครบตามทะเบียนหรือไม่ โดยให้แต่ละแห่งรายกลับมายังส่วนกลาง รวมทั้งปัญหาเร่งด่วนที่ต้องแก้ไขด้วย รวมทั้งให้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติทุกแห่งปรับปรุงระบบการตรวจสอบโบราณวัตถุ โดยเฉพาะการปรับปรุงการทำทะเบียนโบราณวัตถุใหม่ ซึ่งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ได้เริ่มดำเนินการแล้ว โดยเปลี่ยนรูปแบบการทำทะเบียนเป็นระบบดิจิตอลจากเดิมจดบันทึก โดยได้เก็บข้อมูลอย่างละเอียดของโบราณวัตถุแต่ละชิ้นใหม่ทั้งหมดทั้งรูปภาพ ขนาดและประวัติ
นายสหวัฒน์ แน่นหนา อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามโบราณวัตถุหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมอดีตเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ที่โจรกรรมโบราณวัตถุอายุหลายร้อยปีในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชัยนาทมุนี จ.ชัยนาทไปขาย 50 รายการ จำนวน 59 ชิ้น ว่า ขณะนี้ติดตามโบราณวัตถุที่ถูกขโมยไปกลับคืนมาได้แล้ว 19 รายการ จำนวน 28 ชิ้น เหลืออีก 31 รายการ จำนวน 31 ชิ้น ส่วนใหญ่เป็นภาชนะเครื่องเคลือบดินเผา ถ้วยชามเขียนลาย ส่วนงาช้างจำนวน 2 คู่ ติดตามคืนมาได้แล้ว ถึงแม้ว่าจะติดตามได้มาบางส่วน แต่ตนได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ ถ้าพบว่าเจ้าหน้าที่บกพร่องต้องมีมาตรการลงโทษด้วย
อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ตนได้ส่งหนังสือแจ้งให้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ 44 แห่งทั่วประเทศ เข้มงวดเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยและตรวจสอบโบราณวัตถุในคลังพิพิธภัณฑ์ว่าอยู่ครบตามทะเบียนหรือไม่ โดยให้แต่ละแห่งรายกลับมายังส่วนกลาง รวมทั้งปัญหาเร่งด่วนที่ต้องแก้ไขด้วย รวมทั้งให้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติทุกแห่งปรับปรุงระบบการตรวจสอบโบราณวัตถุ โดยเฉพาะการปรับปรุงการทำทะเบียนโบราณวัตถุใหม่ ซึ่งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ได้เริ่มดำเนินการแล้ว โดยเปลี่ยนรูปแบบการทำทะเบียนเป็นระบบดิจิตอลจากเดิมจดบันทึก โดยได้เก็บข้อมูลอย่างละเอียดของโบราณวัตถุแต่ละชิ้นใหม่ทั้งหมดทั้งรูปภาพ ขนาดและประวัติ