วธ.เล็งสร้างอาคารเก็บคัมภีร์อัลกุรอานโบราณ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เพราะเอกสารสำคัญสูญหายถูกทำลายไปจำนวนมาก
นายสหวัฒน์ แน่นหนา อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เชิญกรมศิลปากรไปร่วมมือหารือในการจัดทำโครงการก่อสร้างอาคารในการจัดเก็บคัมภีร์อัลกุรอานโบราณและเอกสารสำคัญๆ ของพี่น้องชาวมุสลิมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากพี่น้องชาวมุสลิมในพื้นที่ต้องการให้ภาครัฐช่วยสนับสนุนในการจัดสร้างอาคารและสถานที่ในการจัดเก็บเอกสารสำคัญ เนื่องจากปัจจุบันเอกสารสำคัญที่เกี่ยวกับชาวมุสลิมในปัจจุบันถูกทำลายและสูญหายไปจำนวนมาก ที่สำคัญเพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้ด้วย จากการหารือเบื้องต้นทั้ง 3 หน่วยงานเห็นด้วยในการจัดสร้างสถานที่ดังกล่าว
ทั้งนี้ กรมศิลปากรจะทำหน้าที่ช่วยออกแบบและดูแลเรื่องการจัดแสดงเอกสารสำคัญ ส่วนงบประมาณนั้นทาง ศอ.บต.และสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะช่วยสนับสนุนด้วย อย่างไรก็ตามจะมีการสำรวจเอกสารและรวบรวมเอกสารสำคัญ อาทิ คัมภีร์อัลกุรอาน หลักคำสอนทางศาสนาและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของพี่น้องชาวมุสลิมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยสถานที่ก่อสร้างอาคารดังกล่าวนั้นเบื้องต้นจะใช้พื้นที่ในจังหวัดนราธิวาส อย่างไรก็ตามตนได้รายงานการจัดทำโครงการดังกล่าวต่อที่ประชุมผู้บริหารระดับสูง วธ.ซึ่งนายสนธยา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการ วธ.เป็นประธานเมื่อเร็วๆ นี้โดยที่ประชุมก็เห็นด้วยในการจัดทำโครงการดังกล่าว
นายสหวัฒน์ แน่นหนา อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เชิญกรมศิลปากรไปร่วมมือหารือในการจัดทำโครงการก่อสร้างอาคารในการจัดเก็บคัมภีร์อัลกุรอานโบราณและเอกสารสำคัญๆ ของพี่น้องชาวมุสลิมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากพี่น้องชาวมุสลิมในพื้นที่ต้องการให้ภาครัฐช่วยสนับสนุนในการจัดสร้างอาคารและสถานที่ในการจัดเก็บเอกสารสำคัญ เนื่องจากปัจจุบันเอกสารสำคัญที่เกี่ยวกับชาวมุสลิมในปัจจุบันถูกทำลายและสูญหายไปจำนวนมาก ที่สำคัญเพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้ด้วย จากการหารือเบื้องต้นทั้ง 3 หน่วยงานเห็นด้วยในการจัดสร้างสถานที่ดังกล่าว
ทั้งนี้ กรมศิลปากรจะทำหน้าที่ช่วยออกแบบและดูแลเรื่องการจัดแสดงเอกสารสำคัญ ส่วนงบประมาณนั้นทาง ศอ.บต.และสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะช่วยสนับสนุนด้วย อย่างไรก็ตามจะมีการสำรวจเอกสารและรวบรวมเอกสารสำคัญ อาทิ คัมภีร์อัลกุรอาน หลักคำสอนทางศาสนาและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของพี่น้องชาวมุสลิมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยสถานที่ก่อสร้างอาคารดังกล่าวนั้นเบื้องต้นจะใช้พื้นที่ในจังหวัดนราธิวาส อย่างไรก็ตามตนได้รายงานการจัดทำโครงการดังกล่าวต่อที่ประชุมผู้บริหารระดับสูง วธ.ซึ่งนายสนธยา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการ วธ.เป็นประธานเมื่อเร็วๆ นี้โดยที่ประชุมก็เห็นด้วยในการจัดทำโครงการดังกล่าว