อึ้ง! สภากาชาดฯ ส่งเลือดหนุน 3 จังหวัดชายแดนใต้วันละ 50 ยูนิต พบใช้หมดเกลี้ยงทุกวัน เหตุคนมาบริจาคน้อยเพราะความเชื่อทางศาสนา เร่งทำความเข้าใจนักเรียนในพื้นที่ ชูบริจาคเลือดเท่ากับช่วยชีวิตผู้อื่น เผยกรุ๊ปเอยังขาดแคลน
พญ.สร้อยสอางค์ พิกุลสด ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์โลหิตของประเทศไทยในเดือน เม.ย. โดยภาพรวมถือว่าไม่ขาดแคลน ยกเว้นกรุ๊ปเอเท่านั้นที่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการมาโดยตลอดตั้งแต่ต้นปี 2556 เนื่องจากประเทศไทยมีประชากรที่มีเลือดกรุ๊ปเอประมาณ 20-21% ซึ่งน้อยกว่าประชากรที่มีเลือดกรุ๊ปบีและกรุ๊ปโอมาก ทั้งนี้ สาเหตุที่ไทยไม่ประสบปัญหาขาดแคลนโลหิต เพราะปัจจัยหนึ่งมาจากการที่สภากาชาดไทยจัดโครงการรณรงค์ให้บุคลากรของหน่วยงานสภากาชาดพร้อมใจกันบริจาคโลหิต ซึ่งโครงการดังกล่าวมีระยะเวลาในการทำโครงการ 3 เดือน ตั้งแต่ ก.พ.-เม.ย. 2556 โดยพบว่าโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์มีบุคลากรมาร่วมบริจาคมากที่สุด
พญ.สร้อยสอางค์กล่าวอีกว่า ขณะนี้สภากาชาดไทยมีการส่งโลหิตไปสนับสนุนให้กับ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ได้แก่ ยะลา นราธิวาส และปัตตานี โดยส่งโลหิตไปสำรองไว้ทุกวันๆ ละ 50 ยูนิต ซึ่งเป็นการส่งไปเพื่อใช้ในกรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินต้องใช้เลือดเร่งด่วน จะได้ช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุได้ทัน โดยจำนวน 50 ยูนิตที่ส่งไปนั้น จะส่งลงไปครบทุกกรุ๊ปโดยเฉลี่ยตามความจำเป็นและความต้องการ เพราะส่วนใหญ่ภาคใต้จะมีผู้มาบริจาคโลหิตน้อย ทั้งนี้ เมื่อส่งโลหิตลงไปแล้วจะนำโลหิตทั้งหมดไปเก็บไว้ที่ภาคบริการโลหิต อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพราะมีเส้นทางสัญจรที่สะดวกและง่ายต่อการขนส่ง นอกจากนี้ จังหวัดภาคใต้อื่นๆ หากมีความต้องการใช้โลหิตก็สามารถติดต่อขอรับได้ อย่างไรก็ตาม จากการส่งโลหิตลงไปสมทบพบว่า โลหิตที่ส่งลงไปได้มีการใช้จนหมดทุกวัน
“การส่งโลหิตลงไปสนับสนุนภายใต้ทุกวัน เพราะคนภาคใต้ไม่ค่อยนิยมบริจาคโลหิต เนื่องจากมีความเชื่อทางศาสนาว่าไม่ควรบริจาคโลหิต แต่สามารถรับโลหิตได้ ซึ่งเรื่องนี้ตนก็ได้รับการเชิญชวนให้ไปให้ข้อมูลกับกลุ่มนักเรียน เพื่อทำความเข้าใจเรื่องการบริจาคโลหิตมากขึ้น ซึ่งก็ไปได้ลงไปบรรยายแล้วหลายครั้ง นักเรียนเข้าใจเรื่องการบริจาคโลหิตมากขึ้นว่าสามารถบริจาคโลหิตได้และการบริจาคโลหิตก็ถือว่าเป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง เพราะการบริจาคเลือดก็เท่ากับว่าเราได้ช่วยเหลือชีวิตผู้อื่น” ผอ.ศูนย์บริการโลหิตฯ กล่าว
พญ.สร้อยสอางค์ พิกุลสด ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์โลหิตของประเทศไทยในเดือน เม.ย. โดยภาพรวมถือว่าไม่ขาดแคลน ยกเว้นกรุ๊ปเอเท่านั้นที่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการมาโดยตลอดตั้งแต่ต้นปี 2556 เนื่องจากประเทศไทยมีประชากรที่มีเลือดกรุ๊ปเอประมาณ 20-21% ซึ่งน้อยกว่าประชากรที่มีเลือดกรุ๊ปบีและกรุ๊ปโอมาก ทั้งนี้ สาเหตุที่ไทยไม่ประสบปัญหาขาดแคลนโลหิต เพราะปัจจัยหนึ่งมาจากการที่สภากาชาดไทยจัดโครงการรณรงค์ให้บุคลากรของหน่วยงานสภากาชาดพร้อมใจกันบริจาคโลหิต ซึ่งโครงการดังกล่าวมีระยะเวลาในการทำโครงการ 3 เดือน ตั้งแต่ ก.พ.-เม.ย. 2556 โดยพบว่าโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์มีบุคลากรมาร่วมบริจาคมากที่สุด
พญ.สร้อยสอางค์กล่าวอีกว่า ขณะนี้สภากาชาดไทยมีการส่งโลหิตไปสนับสนุนให้กับ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ได้แก่ ยะลา นราธิวาส และปัตตานี โดยส่งโลหิตไปสำรองไว้ทุกวันๆ ละ 50 ยูนิต ซึ่งเป็นการส่งไปเพื่อใช้ในกรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินต้องใช้เลือดเร่งด่วน จะได้ช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุได้ทัน โดยจำนวน 50 ยูนิตที่ส่งไปนั้น จะส่งลงไปครบทุกกรุ๊ปโดยเฉลี่ยตามความจำเป็นและความต้องการ เพราะส่วนใหญ่ภาคใต้จะมีผู้มาบริจาคโลหิตน้อย ทั้งนี้ เมื่อส่งโลหิตลงไปแล้วจะนำโลหิตทั้งหมดไปเก็บไว้ที่ภาคบริการโลหิต อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพราะมีเส้นทางสัญจรที่สะดวกและง่ายต่อการขนส่ง นอกจากนี้ จังหวัดภาคใต้อื่นๆ หากมีความต้องการใช้โลหิตก็สามารถติดต่อขอรับได้ อย่างไรก็ตาม จากการส่งโลหิตลงไปสมทบพบว่า โลหิตที่ส่งลงไปได้มีการใช้จนหมดทุกวัน
“การส่งโลหิตลงไปสนับสนุนภายใต้ทุกวัน เพราะคนภาคใต้ไม่ค่อยนิยมบริจาคโลหิต เนื่องจากมีความเชื่อทางศาสนาว่าไม่ควรบริจาคโลหิต แต่สามารถรับโลหิตได้ ซึ่งเรื่องนี้ตนก็ได้รับการเชิญชวนให้ไปให้ข้อมูลกับกลุ่มนักเรียน เพื่อทำความเข้าใจเรื่องการบริจาคโลหิตมากขึ้น ซึ่งก็ไปได้ลงไปบรรยายแล้วหลายครั้ง นักเรียนเข้าใจเรื่องการบริจาคโลหิตมากขึ้นว่าสามารถบริจาคโลหิตได้และการบริจาคโลหิตก็ถือว่าเป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง เพราะการบริจาคเลือดก็เท่ากับว่าเราได้ช่วยเหลือชีวิตผู้อื่น” ผอ.ศูนย์บริการโลหิตฯ กล่าว
