โดย...รัชญา จันทะรัง
“พี่ลงไปเล่นหรือยัง”
เป็นคำถามแรกที่น้องแพ๊ตตี้ - ด.ญ.ปรียาภัทร มั่นละ ในวัย 6 ขวบ ที่ถามคำถามแรกทันทีเมื่อเห็นเนื้อตัวของเราไม่มอมแมมเปื้อนไปด้วยโคลนเหมือนตัวเธอ เรายิ้มพร้อมถามน้องแพ๊ตตี้ กลับไปว่า “หนูปลูกไปกี่ต้นค่ะ”
น้องแพ๊ตตี้ รีบนับนิ้วตัวเองทันที แล้วตอบกลับมาพร้อมกับรอยยิ้มที่เปล่งประกายมาจากดวงตาและริมฝีปากน้อยๆ ของเธอ “10 ต้นค่ะ…หนูอยากปลูกอีกแต่แม่ไม่ให้ปลูก” พูดเสร็จก็เงยหน้าไปมองคุณแม่ทันทีด้วยสายตาละห้อยท้าทายแสงแดดจ้าแม้เวลาจะใกล้เย็นย่ำแล้วก็ตาม...
น้องแพ๊ตตี้เป็นหนึ่งในสมาชิกตัวน้อยๆ ของครอบครัวพนักงานบริษัท โตโยต้า ที่วันนี้ได้มีโอกาสติดตามมากับคุณแม่และคุณพ่อซึ่งเป็นพนักงานของบริษัทแห่งนี้มาร่วมปลูกป่าชายเลนซึ่งเปิดโอกาสให้พนักงานพาครอบครัวมาทำกิจกรรมดีๆร่วมกันด้วยโดยเป็นความร่วมมือระหว่างบริษัท โตโยต้า กองทัพบก และองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) ประเทศไทย อาสาสมัครจากลุ่มต่างๆ ทั้งพนักงานโตโยต้าและครอบครัว คาร์คลับ สมาชิกจาก Toyota CSR Facebook และประชาชนทั่วไป จำนวนกว่า 4,000 คน ร่วมกิจกรรม “ตามรอยล้นเกล้าฯ ด้วยก้าวที่ยั่งยืน โตโยต้าปลูกป่าชายเลนปีที่ 9” เนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เจริญพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ ณ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบก (บางปู) จังหวัดสมุทรปราการ
พี่เอก - เอกชัย รัตนชัยวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ผู้ใหญ่ใจดี บอกว่า กิจกรรมปลูกป่าชายเลนเป็นหนึ่งในกิจกรรมด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมผ่านการขยายเครือข่าย TOYOTA Eco Network เครือข่ายเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ซึ่งเริ่มดำเนินตั้งแต่ปี 2548 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเป็นการสนองพระราชเสาวนีย์ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ในเรื่องการอนุรักษ์ป่าและสิ่งแวดล้อม รวมถึงเป็นการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่าชายเลนปากแม่น้ำผืนสุดท้ายของภาคกลางแห่งนี้ให้มีความอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การอยู่อาศัยให้แก่สัตว์ในระบบนิเวศป่าชายเลน และสนับสนุนศูนย์ศึกษาธรรมชาติให้เยาวชนและผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาเรียนรู้ออกไป ซึ่งในปีนี้จะมีการปลูกทั้งสิ้น 59,000 ต้น รวมทั้งหมดเป็น 327,800 ต้น โดยเมื่อต้นกล้าเหล่านี้โตเต็มที่ภายหลังจากผ่าน 3 ปีแรกหลังจากการปลูกไปแล้ว จะช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 2,600 ตันต่อปี ขณะที่มีผู้ได้เรียนรู้เรื่องป่าชายเลนไปแล้วกว่า 80,000 คน
พี่อู๋ - สุรพงษ์ เจตพันธ์ สมาชิกจากกลุ่ม TOYOTA FORTUNER CLUB บอกถึงความรู้สึกที่ได้ร่วมกิจกรรมครั้งนี้ว่า เป็นครั้งแรกที่มีโอกาสได้มาร่วมปลูกป่าชายเลนแต่ก่อนหน้านี้ก็เคยไปร่วมกิจกรรมปลูกป่ากับที่อื่นๆ ก็เคยได้ยินกิจกรรมนี้แต่ยังไม่มีโอกาสได้มาแต่เมื่อได้มาเข้ากลุ่มนี้และมีโอกาสพอดีก็เลยมาร่วมปลูกเพื่อช่วยรักษาระบบนิเวศป่าชายเลนเพราะปกติมีอาชีพจัดสวนอยู่แล้วพอได้มาอย่างนี้ก็รู้สึกดีมากเลย
ขณะที่พี่ธีรยุทธ ลออพันธ์พล ผู้จัดการศูนย์ศึกษาธรรมชาติ กองทัพบก บางปู อธิบายและสาธิตการปลูกป่าชายเลนอย่างถูกวิธีว่า การปลูกป่าชายเลนของที่นี่จะใช้พันธุ์ไม้ 3 ชนิด คือต้นโกงกางใบใหญ่ ต้นแสมขาว และต้นลำภู โดยต้นโกงกางใบใหญ่จะปลูกใกล้ฝั่งที่สุดเนื่องจากชะลอแรงคลื่นได้น้อยกว่า ถัดจากต้นโกงกางใบใหญ่จะปลูกต้นลำภูขณะที่ต้นแสมขาวจะปลูกชิดแนวขอบรั้วไม้ไผ่ซึ่งเมื่อโตขึ้นจะช่วยกันคลื่นให้กับต้นลำภูและต้นโกงกางใบใหญ่ได้ ทั้งนี้ ก่อนที่จะนำพันธุ์ไม้ทั้ง 3 ชนิดลงดินนั้นจะต้องถอดถุงดำเพาะชำกล้าไม้ออกก่อนพร้อมๆ กับต้องประคองไม่ให้ดินหล่น จากนั้นนำลงหลุมซึ่งหลุมของต้นลำภูจะต้องขุดให้กว้างเนื่องจากต้นกล้าค่อนข้างใหญ่และหลุมที่ขุดต้องให้มิดถุงดำ ที่สำคัญดินที่ขุดแล้วยังไม่ต้องกลบเพราะจะทำให้รากกล้าไม้ช้ำดังนั้นจะปล่อยให้น้ำทะเลพัดเอาดินมากลบเอง
“สำหรับอัตราการอยู่รอดของกล้าไม้ที่ปลูกที่นี่ขึ้นอยู่กับความตั้งใจปลูกเพราะหากตั้งใจปลูกเกิน 80 เปอร์เซ็นต์รอดแน่นอน” พี่ธีรยุทธ ระบุ
ท้ายสุดน้องแพ๊ตตี้ หวังว่า ป่าชายเลนที่ปลูกไปจะช่วยลดความร้อนและเป็นที่อยู่ของปลาธรรมชาติ
...แม้น้องแพ๊ตตี้ จะสนุกสนานกับการที่ได้เล่นโคลนตามประสาเด็ก แต่อย่างน้อย 2 มือเล็กๆ ของน้องแพ๊ตตี้ก็จะช่วยให้ป่าชายเล่นแห่งนี้เป็นแหล่งอาศัยของพันธุ์ปลานานาชนิดอย่างที่น้องปรารถนาได้อย่างแน่นอน
“พี่ลงไปเล่นหรือยัง”
เป็นคำถามแรกที่น้องแพ๊ตตี้ - ด.ญ.ปรียาภัทร มั่นละ ในวัย 6 ขวบ ที่ถามคำถามแรกทันทีเมื่อเห็นเนื้อตัวของเราไม่มอมแมมเปื้อนไปด้วยโคลนเหมือนตัวเธอ เรายิ้มพร้อมถามน้องแพ๊ตตี้ กลับไปว่า “หนูปลูกไปกี่ต้นค่ะ”
น้องแพ๊ตตี้ รีบนับนิ้วตัวเองทันที แล้วตอบกลับมาพร้อมกับรอยยิ้มที่เปล่งประกายมาจากดวงตาและริมฝีปากน้อยๆ ของเธอ “10 ต้นค่ะ…หนูอยากปลูกอีกแต่แม่ไม่ให้ปลูก” พูดเสร็จก็เงยหน้าไปมองคุณแม่ทันทีด้วยสายตาละห้อยท้าทายแสงแดดจ้าแม้เวลาจะใกล้เย็นย่ำแล้วก็ตาม...
น้องแพ๊ตตี้เป็นหนึ่งในสมาชิกตัวน้อยๆ ของครอบครัวพนักงานบริษัท โตโยต้า ที่วันนี้ได้มีโอกาสติดตามมากับคุณแม่และคุณพ่อซึ่งเป็นพนักงานของบริษัทแห่งนี้มาร่วมปลูกป่าชายเลนซึ่งเปิดโอกาสให้พนักงานพาครอบครัวมาทำกิจกรรมดีๆร่วมกันด้วยโดยเป็นความร่วมมือระหว่างบริษัท โตโยต้า กองทัพบก และองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) ประเทศไทย อาสาสมัครจากลุ่มต่างๆ ทั้งพนักงานโตโยต้าและครอบครัว คาร์คลับ สมาชิกจาก Toyota CSR Facebook และประชาชนทั่วไป จำนวนกว่า 4,000 คน ร่วมกิจกรรม “ตามรอยล้นเกล้าฯ ด้วยก้าวที่ยั่งยืน โตโยต้าปลูกป่าชายเลนปีที่ 9” เนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เจริญพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ ณ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบก (บางปู) จังหวัดสมุทรปราการ
พี่เอก - เอกชัย รัตนชัยวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ผู้ใหญ่ใจดี บอกว่า กิจกรรมปลูกป่าชายเลนเป็นหนึ่งในกิจกรรมด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมผ่านการขยายเครือข่าย TOYOTA Eco Network เครือข่ายเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ซึ่งเริ่มดำเนินตั้งแต่ปี 2548 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเป็นการสนองพระราชเสาวนีย์ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ในเรื่องการอนุรักษ์ป่าและสิ่งแวดล้อม รวมถึงเป็นการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่าชายเลนปากแม่น้ำผืนสุดท้ายของภาคกลางแห่งนี้ให้มีความอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การอยู่อาศัยให้แก่สัตว์ในระบบนิเวศป่าชายเลน และสนับสนุนศูนย์ศึกษาธรรมชาติให้เยาวชนและผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาเรียนรู้ออกไป ซึ่งในปีนี้จะมีการปลูกทั้งสิ้น 59,000 ต้น รวมทั้งหมดเป็น 327,800 ต้น โดยเมื่อต้นกล้าเหล่านี้โตเต็มที่ภายหลังจากผ่าน 3 ปีแรกหลังจากการปลูกไปแล้ว จะช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 2,600 ตันต่อปี ขณะที่มีผู้ได้เรียนรู้เรื่องป่าชายเลนไปแล้วกว่า 80,000 คน
พี่อู๋ - สุรพงษ์ เจตพันธ์ สมาชิกจากกลุ่ม TOYOTA FORTUNER CLUB บอกถึงความรู้สึกที่ได้ร่วมกิจกรรมครั้งนี้ว่า เป็นครั้งแรกที่มีโอกาสได้มาร่วมปลูกป่าชายเลนแต่ก่อนหน้านี้ก็เคยไปร่วมกิจกรรมปลูกป่ากับที่อื่นๆ ก็เคยได้ยินกิจกรรมนี้แต่ยังไม่มีโอกาสได้มาแต่เมื่อได้มาเข้ากลุ่มนี้และมีโอกาสพอดีก็เลยมาร่วมปลูกเพื่อช่วยรักษาระบบนิเวศป่าชายเลนเพราะปกติมีอาชีพจัดสวนอยู่แล้วพอได้มาอย่างนี้ก็รู้สึกดีมากเลย
ขณะที่พี่ธีรยุทธ ลออพันธ์พล ผู้จัดการศูนย์ศึกษาธรรมชาติ กองทัพบก บางปู อธิบายและสาธิตการปลูกป่าชายเลนอย่างถูกวิธีว่า การปลูกป่าชายเลนของที่นี่จะใช้พันธุ์ไม้ 3 ชนิด คือต้นโกงกางใบใหญ่ ต้นแสมขาว และต้นลำภู โดยต้นโกงกางใบใหญ่จะปลูกใกล้ฝั่งที่สุดเนื่องจากชะลอแรงคลื่นได้น้อยกว่า ถัดจากต้นโกงกางใบใหญ่จะปลูกต้นลำภูขณะที่ต้นแสมขาวจะปลูกชิดแนวขอบรั้วไม้ไผ่ซึ่งเมื่อโตขึ้นจะช่วยกันคลื่นให้กับต้นลำภูและต้นโกงกางใบใหญ่ได้ ทั้งนี้ ก่อนที่จะนำพันธุ์ไม้ทั้ง 3 ชนิดลงดินนั้นจะต้องถอดถุงดำเพาะชำกล้าไม้ออกก่อนพร้อมๆ กับต้องประคองไม่ให้ดินหล่น จากนั้นนำลงหลุมซึ่งหลุมของต้นลำภูจะต้องขุดให้กว้างเนื่องจากต้นกล้าค่อนข้างใหญ่และหลุมที่ขุดต้องให้มิดถุงดำ ที่สำคัญดินที่ขุดแล้วยังไม่ต้องกลบเพราะจะทำให้รากกล้าไม้ช้ำดังนั้นจะปล่อยให้น้ำทะเลพัดเอาดินมากลบเอง
“สำหรับอัตราการอยู่รอดของกล้าไม้ที่ปลูกที่นี่ขึ้นอยู่กับความตั้งใจปลูกเพราะหากตั้งใจปลูกเกิน 80 เปอร์เซ็นต์รอดแน่นอน” พี่ธีรยุทธ ระบุ
ท้ายสุดน้องแพ๊ตตี้ หวังว่า ป่าชายเลนที่ปลูกไปจะช่วยลดความร้อนและเป็นที่อยู่ของปลาธรรมชาติ
...แม้น้องแพ๊ตตี้ จะสนุกสนานกับการที่ได้เล่นโคลนตามประสาเด็ก แต่อย่างน้อย 2 มือเล็กๆ ของน้องแพ๊ตตี้ก็จะช่วยให้ป่าชายเล่นแห่งนี้เป็นแหล่งอาศัยของพันธุ์ปลานานาชนิดอย่างที่น้องปรารถนาได้อย่างแน่นอน
